พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน470ผ่อนคลายสบายใจ



ตอน470ผ่อนคลายสบายใจ

ตอนที่470ผ่อนคลายสบายใจ

พอเปิดประตูเข้าไปในห้องของเปมิศาจันวิภาก็พบว่าเธอ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงและหันหน้าออกไปมองวิวนอกหน้าต่าง

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“อืม”

“มาดื่มซุปหน่อยเร็ว”

“ซุปอีกแล้วเหรอ? เปมิศาท่าทางหวาดกลัวแล้วพูด ต่อว่า วันๆฉันเอาแต่กินแล้วก็นอนจะกลายเป็นแม่หมูอยู่แล้ว เนี่ย”

“ก็เธอได้รับบาดเจ็บเลยต้องบำรุงรักษาอ้วนหน่อยจะเป็น อะไรไปแค่ปองไม่รังเกียจเธอก็พอแล้ว”

พอพูดถึงปองจันวิภาก็หันไปมองคนข้างหลังอย่างไม่ได้

พอเห็นว่าในวิภาหันหน้ามามองตัวเองนิเวศน์ก็ยิ้มกว้าง

ออกมา

เปมิศาแสดงท่าที่เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเธอยิ้มทักทาย

ตั้งใจ

นิเวศ
“หนูคงเป็นนิเวศน์สินะพวกเราพึ่งเคยเจอกันครั้งแรกเลย

นะเนี่ย”

“ที่จริงผมเคยเจอคุณแล้วแต่ว่าตอนนั้นคุณยังสลบอยู่

เลย”

“จริงเหรองั้นก็น่าเสียดายจังเลยไม่ได้จำเหตุการณ์ตอนที่ พวกเราเจอกันครั้งแรกเลย

นิเวศน์พอได้ยินดังนั้นกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไหร่แต่ สีหน้าของเขากลับดูเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเขายิ้มแล้วตอบว่า ที่ จริงผมยังไม่ได้มีโอกาสขอบคุณน้าเปมิศาเลยที่ดูแลหม่ามีตอน อยู่ที่บริษัทMGอย่างดีเลย

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกหม่ามีของหนูเธอเป็นคนที่ดีมากเธอ สมควรได้รับสิ่งที่ดีๆจากคนอื่น

พอเห้น่าทั้งสองคนเริ่มพูดถึงตัวเองจันวิภาก็รีบตัดบท ทันที นี่จะมาเกรงใจกันไปเกรงใจกันมาทำไม่ได้ยินแล้วไม่สบ อารมณ์”

“นี่ชมอยู่นะเนี่ยยังไม่พอใจอีก

“ถูกต้องการที่หม่ามีมีเพื่อนที่ยอดเยี่ยมอย่างน้าเปมิศาจะ ทำให้ไอคิวหม่ามีเพิ่มขึ้นนะ

ถึงแม้ว่าจะโดนหยอกล้อแต่การที่เห็นนิเวศน์กับเปมิศา เข้ากันได้ดรจนวิภายิ้มได้

“พวกเธอเข้ากันได้ดีฉันก็ยินดี
“แล้วทำไมถึงจะเข้ากันไม่ได้ล่ะ?”

“เพราะว่า…….

ยังพูดไม่ทันจบจนวิภาก็หยุดแล้วก็เงียบ

จะเป็นอะไรไปได้ล่ะก็เพราะว่านิเวศน์จับปองไปขังไว้น่ะสิ

พอเห็นสายตาของจันวิภาคลุมเครือนิเวศน์ก็พูดอย่าง เข้าใจว่า ทุกคนวางใจเถอะตอนนี้ปองสบายดีพวกเราก็แค่ กำลังแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเทคโนโลยีกันอยู่ถือว่าเป็นเพื่อน ที่มีอุดมการณ์เดียวกันได้

“ในเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้วทำไมถึงไม่ยอมให้เขาติดต่อ ภายนอกเลยล่ะ?”

“ผมให้เขาไปแล้วแต่เขาไม่ยอมไปเองปองบอกว่าเขา

อยากเข้าใจวิธีเขียนโค้ดของผมวันๆไม่กินไม่นอนเขาไม่อยาก

เจอใครทั้งนั้นอยากอยู่ในสถานที่เงียบๆเพื่อแก้โจทย์

สีหน้าของนิเวศน์ดูจริงใจมากถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไร้ สาระแต่กลับดูเหมือนว่ามันคือเรื่องจริงยังไงยังงั้น

ขณะเดียวกันเปมิศาก็ยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ

“พอแล้วอย่าพึ่งคุยดื่มซุปซะเร็วๆ

พอออกจากห้องของเปมิศามาในวิภาก็ดึงแขนของนิเวศน์ ไว้แล้วถามว่า “นิเวศน์บอกหม่ามีมาตามตรงนะปองไม่อยาก ออกไปหรือพวกเราไม่ยอมให้เขาไป
“พวกเราไม่ยอมให้เขาไปนิเวศน์ตอบอย่างตรงไปตรง มา แต่มันก็เพื่อปกป้องเขานะหม่าลองคิดดูนะถ้าปองตกไป อยู่ในมือของสุพจน์เมื่อไหร่สุพจน์ก็จะมาเกลี้ยกล่อมเปมิศา ให้ เธอหลงฟังคำที่เขาพูดแล้วอีกอย่างตอนนี้เปมิศาบาดเจ็บอยู่คง ไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบดังนั้นเรื่องนี้พวกเราคิดมาดีแล้วหมา

จันวิภามองหน้านิเวศน์แล้วถามต่อว่า “ง่ายขนาดนั้นเลย

เหรอ?”

“ก็ง่ายขนาดนั้นแหละไม่ยังงั้นจะมีเหตุผลอะไรได้อีกหม่าม ในเมื่อตอนนี้หม่ามีก็กลับมาแล้วพวกเราจะทำอะไรเปมิศา บนิเวศน์ไปเพื่ออะไรกันล่ะมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเราเลย หม่ามีว่าถูกไหมล่ะ?”

“ก็ใช่ช่วงนี้จนวิภามีเรื่องให้คิดเยอะจนสมงสมองไปหมด ละคิดไปไกลต่างๆนาๆเธอก็เลยคิดว่าเป็นไปได้มากว่าเธอจะ เข้าใจนิเวศน์ผิด

จนวิภาเอามือลูบหน้าผากแล้วพูดว่า “บางทีหม่ามีก็คิด อะไรไม่รอบคอบโชคดีที่มีลูกคอยเตือน

คำพูดพวกนี้ทำให้นิเวศน์รู้สึกผิดเขายิ้มแล้วตอบว่า “ก็ เพราะว่าผมเป็นลูกชายหม่ามีไงก็ต้องช่วยหม่ามีแบ่งเบาภาระ

จันวิภาก้มลงไปจับที่หน้าผากของสุมิตรเธอยิ้มแล้วตอบ ว่า “สมกับเป็นลูกชายที่ยอดเยี่ยมของหม่ามีจริงๆ
นิเวศน์ยิ้มอย่างน่ารักแต่พอตอนที่จันวิภามองไม่เห็นนั้น รอยยิ้มนั้นก็หายไป

สองวันถัดมาจนวิภาก็ไปเยี่ยมเปมิศาอีกครั้งทั้งสองคนนั่ง

อยู่ข้างหน้าต่างในวิภาปลอกแอปเปิลมาให้เธอกิน เปมิศาที่นั่งพิงเก้าอี้อยู่นั้นทั้งตัวพันไปด้วยผ้าพันแผล สีหน้าดูเฉื่อยชา

“จันวิภาฉันขอปรึกษาอะไรเธอหน่อยสิ”

“พูดมาสิ”

“ตอนนี้ร่างกายฉันก็ดีขึ้นเยอะแล้วเธอไม่จำเป็นต้องมาหา ฉันทุกวันก็ได้ไปดูแลนิเวศน์เถอะอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าที่เด็ก คนนั้นตามเธอมาที่นี่ก็เพราะว่าอยากจะอยู่กับเธอให้มากขึ้น ดวงตาเล็กๆของเด็กน้อยนั่นฉันมองแล้วยังรู้สึกสงสารเลยไม่รู้ ว่าเธอเป็นแม่ประสาอะไรถึงไม่สนใจเขาเลย

“ทำไมเธอต้องพูดเวอร์ขนาดนั้นด้วยแต่ว่าการที่ฉันละเลย นิเวศน์ก็คือเรื่องจริงนั้นแหละแต่นั่นรอให้ฉันไม่ยุ่งขนาดนี้ก่อน แล้วฉันจะพานิเวศน์ไปเที่ยวเล่นไปผ่อนคลายซะหน่อย

“แต่ว่าตอนนี้เธอก็ไม่ยุ่งแล้วนตอนนี้ก็ไปได้แล้ว

“ไม่ได้ๆฉันจำเป็นต้องอยู่ดูแลเธอ

เปมิศายื่นมือไปหยิบแอปเปิลขึ้นมาพร้อมพูดว่า “ฉันรู้ว่า เธอกังวลเรื่องอะไรแต่ว่าเรื่องก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นคงทำให้สุ มิตรไม่กล้ามาแก้แค้นอะไรฉันแล้วเธอสนใจแค่เรื่องของตัวเองก็พอ”

“แต่ว่า…”

“ไม่ต้องมาแต่แล้วหรือว่าเธอจะยอมทนดูนิเวศน์ไม่มี ความสุขงั้นเหรอ? ฉันดีขึ้นเยอะแล้วไปเดินเล่นคนเดียวยังได้ เลย”

ถึงแม้ว่าเปมิศาจะยืนยันแบบนี้แต่ในวิภาก็ยังรู้สึกไม่ ปลอดภัยอยู่ดี

“นี่ฉันก็เป็นตำรวจเหมือนกันนะอย่าทำเหมือนฉันเป็นลูก แกะตัวน้อยๆได้ไหใ” พอเห็นว่าในวิภามีท่าที่ลังเลเปมิศา ขมวดคิ้วแล้วพูดต่อว่า เอาเป็นว่าเรื่องนี้ตัดสินใจแบบนี้ถ้าเธอ ไม่ฟังฉันก็จะไม่ยอมกินข้าวจนกว่าเธอจะตกลง!

พอพูดจบเปมิศาก็วางแอปเปิลลงไปในใจจานเหมือนเดิม

สีหน้าจริงจัง

“ก็ได้ๆฉันขอกลับไปคิดดูก่อนว่าพักนี้มีกิจกรรมอะไรให้ ทําบ้าง”

“คิดอะไรอีกข้างนอกดอกซากุระบานแล้วไปเดินเล่นนผืน หญ้าเธออย่ามาอ้างแบบขอไปทีนะไม่งั้นฉันจะเริ่มประท้วง เข้าใจไหม!

“ค่ะทราบแล้วค่ะเดี๋ยวดิฉันจะไปทำตามคำสั่งแล้วก็มอง ข้าวท่านไปเลยดีไหมคะ?” “ปากดีจริงๆ

ผู้หญิงทั้งสองคนหัวเราะออกมาให้กันแต่ในใจต่างมีเรื่องของตัวเองให้คิด

ถึงแม้ว่าเปมิศาจะตัดสินใจแบบนี้แต่มันก็เป็นการตัดสิน ใจที่ถูกแล้วจันวิภาควรจะหาเวลาพานิเวศน์ไปผ่อนคลายบ้าง พอคิดได้แบบนั้นแล้วในวิภาก็ไม่รอช้าหลังจากออกมา

จากห้องของเปมิศาก็ตรงไปหานิเวศน์ทันที

“นิเวศน์ช่วงนี้ลูกทุ่งไหม?”

นิเวศน์ที่กำลังเล่นกับโมเดลหุ่นนต์อยู่นั้นพอมองจันวิภา ฉีกยิ้มแบบจําใจ

“หม่ามีผมควรถามหม่ามีมากกว่าดูเหมือนว่าหม่าจะยุ่ง กว่าผมนะ”

จันวิภายิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วพูดว่า “หม่ามีเวลา ว่างสองวันเลยอยากมาถามลูกว่าอยากออกไปเที่ยวกันไหม?

“จริงเหรอหม่ามีไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? “เรื่องแบบนั้นจะล้อเล่นทำไมล่ะเรื่องจริงสิ

“แย่สุดยอดไปเลย!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ