พิชิตใจนายปีศาจ

ตอนที่ 6 พอตอนเช้าก็อยากจะโอบกอด



ตอน6พอตอนเช้าก็อยากจะโอบกอด

เมื่อคิดถึงตรงนี้

เพียงชั่วพริบตาเดียวสายตาของสุมิตรก็กลับมาเย็ เขาปล่อยมือที่บีบคางของจันวิภาจนแน่นออก

นชาอีกครั้ง

แต่ทว่าไม่รอที่จะให้เธอถอนหายใจออกมาด้วยคว

ามโล่งอก

ต่อมาจึงจับมือทั้งสองข้างของเธออย่างแน่นหนา ยกขึ้นเหนือหัว พันธนาการเอาไว้

“อย่านะ”

นัยน์ตาของจันวิภาส่องประกายความสบสันอยู่เล็ กน้อย ความอัปยศเช่นนี้ การกระทำเช่นนี้ มันเป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ

“อะไร อย่านะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอแล้ว จะแกล้งทำเป็นบริสุทธิ์ทำไมอีก” สุมิตรจ้องมองดูจันวิภาที่อยู่ตรงหน้า

แล้วรู้สึกรื่นรมย์เป็นอย่างมาก

“ปล่อยฉัน” จันวิภาร้องตระโกน เสียงแหบแห้งเล็กน้อย แฝงไว้ด้วยการวิงวอน

สุมิตรไม่มีความลังเลอยู่เลยแม้แต่น้อย “หึมอะไร ทนไม่ไหวแล้วอ้อนวอนผมสิ แล้วผมจะปล่อยเธอไป”

จันวิภาเจ็บปวดราวกับใจจะแตกสลายเมื่อฟังคำพูดของสุมิตร แต่กลับยังคงบีบริมฝีปากอย่างดื้อรั้น

ต้องการให้เธอเธออ้อนวอนเขาไม่มีทาง

แม้ว่าคนผู้นี้จะเป็นสามีของตนเอง แต่ทว่าเขากลับเป็นผู้ชายที่เหมือนกับปีศาจ ทำไมเธอจะต้องอ้อนวอนเขาด้วย

เมื่อสุมิตรเห็นจันวิภาไม่มีท่าทีตอบสนองอะไรเลย แม้แต่น้อย จึงยิ้มออกมาไม่หยุด

ระบายความโกรธที่อยู่ในหัวใจของตนเอง..

ค่ำคืนนี้ จันวิภารู้สึกเหนื่อยจนนอนราบ

จนถึงเวลาเกือบเช้าตรู่ สุมิตรจึงจะปล่อยเธอไป ในที่สุดก็ปล่อยให้เธอได้นอนพักเสียที

หลังจากตื่นขึ้นมา

จันวิภารู้สึกได้ถึงความปวดเมื่อยทั่วทั้งร่างกายตน เอง ร้องเสียงครวญคราง แล้วเธอจึงลืมตาขึ้น

เมื่อมองเห็นเพดานอันนั้น

จึงคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเดิมของเธอ ที่นี่คือบ้านใหม่ และเธอก็แต่งงานแล้ว

แต่งงาน…

เมื่อคิดถึงผู้ชายที่ทรมานตัวเธอเองไม่หยุดเมื่อคืน นี้ จันวิภารู้สึกไม่ยอมรับอยู่เล็กน้อย ในดวงตามีน้ำตาคลออยู่รอบๆ

แต่กลับถูกเธออดทนกล้ำกลืนไปอีกแล้ว

จันวิภาพลิกตัวเพื่อต้องการที่จะลงจากเตียง

แต่พอเธอพลิกตัว

ก็ได้ไปชนกระแทกเข้ากับอ้อมกอดที่แข็งแรงเข้าเมื่อเงยหน้าขึ้นมาจึงเห็นผู้ชายที่หล่อเหลาอยู่ตรง หน้า จันวิภาจึงรู้สึกตกใจอยู่นิดหน่อย

สุมิตรคนนี้ช่างหล่อเหลาจริงๆเลย

ใบหน้าราวกับรูปปั้นแกะสลักในตำนานเทพเจ้ากรี

ก ใบหน้าที่ถูกมีดแกะสลักจนงดงาม นัยน์ตาอันเยือกเย็นที่ทั้งมืดและลึก

ทั่วทั้งเรือนร่างแผ่ซ่านกลิ่นหอมที่เยือกเย็นออกมา ริมฝีปากกระดูกขึ้น มันช่างดูดุร้ายและเย้ายวน

เขาคนนี้มีจิตวิญญาณของราชาสามารถสร้างผล กระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลก

ชั่วร้ายและสวยงาม

ทำให้อดไม่ได้ที่ร่างกายจะหนาวจนสั่นไหว

ชายคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกกลัว

มองดูสุมิตรอย่างตกใจ

ไม่รอให้จันวิภามีท่าทีตอบสนอง

หูก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยถากถางของเขาดังขึ้นมาทั

นที “เธอ อะไรพอถึงตอนเช้าก็เข้ามาสู้อ้อมกอดของผมอย่า

งอดใจไม่ไหว”

พอคิดถึงผู้ชายคนนี้ทรมานตัวเธอเองอย่างโหดเมื่ อวาน ร่างกายของจันวิภาแข็งขึ้นมาทันที มองไปยังชายรูปหล่อที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างเย็นชา “ฉันเปล่า”

สุมิตรยิ้มอย่างเยือกเย็นมองจันวิภาที่อยู่ตรงหน้า เธอในตอนนี้ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยจูบ

แม้ว่าจะเป็นลูกสาวของคนนั้นแต่รถชาติก็ถือว่าไม่เลวนัก

ได้สังเกตุสายตาที่เปลี่ยนไปของสุมิตร จันวิภานึกขึ้นมาได้ทันทีว่าตอนนี้เธอไม่ได้สวมใส่

อะไรอยู่เลย

จึงรีบดึงผ้าห่มมาปิดเรือนร่างของตนเองอย่างรวด เร็ว โดยไม่อยากที่จะให้สุมิตรเห็น

เมื่อมองดูจันวิภาที่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนแล้ว

สุมิตรมีแต่ความรู้สึกข้า

พูดจาถากถางไปโดยไม่รู้ตัว “ทำไม เคยนอนด้วยกันแล้ว จะอายอะไรอีก”

“นาย….หุบปากไปเลยนะ” จันวิภากัดฟันพูด

เมื่อคืน แม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกของตนเอง แต่เธอก็ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรมาก่อน ถูกผู้ชายคนนี้บังคับทรมานเธอทั้งคืน

เธอจะไม่โกรธได้อย่างไรล่ะแม้ว่าเขาจะเป็นสามีค นใหม่ของตนเอง

แต่ก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติต่อตนเองอย่างนั้นได้

“ก็ไม่ใช่ครั้งแรก

ยังจะแกล้งเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์อะไรอีก” สุมิตรมองไปยังจันวิภาแล้วพูดจาถากถาง “เรื่องอย่างนี้

เธอฟินไม่ใช่หรือไม่รู้ว่าเทคนิคของผมเป็นอย่างไง

บ้าง”

มองไปยังแก้มซีดของจันวิภา

สายตาของสุมิตรมีความสุขเป็นอย่างมาก “กับคนที่เธอนอนก่อนหน้า เป็นอย่างไง””ต่างกันมาก

จันวิภาฉีกยิ้มที่มุมปากแล้วพูดจาถากถาง “เทคนิคของนายยังใช้ไม่ได้”

พูดได้ว่าประสบการณ์ทั้งสองครั้งนี้ที่จริงแล้วไม่มี อะไรที่ต่างกันเลย

มันเป็นความเจ็บปวดแบบเดียวกัน

แต่ในการเปรียบเทียบแล้ว

การทรมานของสุมิตรกลับทำให้เจ็บปวดเสียมากก

ว่า

สุมิตรคาดไม่ถึงว่าจันวิภาจะกล้าพูดอย่างนี้กับเขา

สีหน้าอิมครีม พูดอย่างเยือกเย็น “ทำไม เธออยากให้ผมทำอีกครั้งหรอ เพื่อที่เธอจะได้สัมผัสกับมันได้เป็นอย่างดี”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ