พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน350ผมก็เป็นที่พึ่งได้นะ



ตอน350ผมก็เป็นที่พึ่งได้นะ

ตอนที่ 350 ผมก็เป็นที่พึ่งได้นะ

นิเวศน์มองไปที่จันวิภาที่เธอลอยและไร้อารมณ์ จน ปัญญาแล้ว เสียงเริ่มกังวลมาพร้อมกับเสียงเหมือนกำลังจะ ร้องไห้ จากนั้นก็ร้องไห้ครั้งแรกแล้วเปลี่ยนเป็นร้องไห้อย่าง เสียงดังกลบเกลื่อนไปในหัวของจันวิภา

จันวิภาถึงได้ดึงสติออกจากฝัน มองดูไปที่นิเวศน์ที่กำลัง ร้องไห้ รีบเข้าไปกอดแน่นไว้ในโอบอก

“นิเวศน์ ไม่เป็นไรนะ มานี่ไม่ได้เป็นอะไร ลูกเป็น

ทําไมยังไม่ได้ทําอะไรก็ร้องไห้แล้ว

“ใช่เรื่องหรือเปล่า” จนวิภาปลอบโยนไปมือก็เช็ดน้ำตาที่ ไหลบนหน้าให้สะอาด

“ผมนึกว่ามาไม่สนใจผม…..

นิเวศน์ยกหัวขึ้น เหมือนกับเสกเวทมนต์ ดวงตาไม่มีน้ำตา ไม่เปียก เปลี่ยนเป็นใบหน้าก็ยิ้มแย้มสดใส

จันวิภาไม่ได้พูดอะไร รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกเจ้าตัว เล็กเล่นเข้าแล้ว เธอหยิกปลายจมูกของนิเวศน์ พูดอย่าง อารมณ์ไม่ดีไป : “ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวคงไม่ได้อ่อนแอแบบ
นิเวศน์ยกหน้าอกขึ้น เรียนแบบลังคิงคองทำท่าที่หน้าอก พูดไปอีกว่า : “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมามีก็ไม่ใช่ คนอ่อนแอนะ ตะกี้มาทำผมตกใจหมดเลย จริงๆเลย

“ตกใจอะไรกัน มามีแค่คิดเรื่องนิดหน่อยเอง” จันวิภา พยายามฝืนยิ้มออกมา แต่ทว่ายิ่งพยายามแค่ไหนก็ยิ่งเจ็บไป อีก

“ออ ที่แท้เป็นแบบนี้เอง ผมนึกว่ามาตกใจจนเอ๋อไป แล้ว…… นิเวศน์ยิ้มขึ้นมา

นิเวศน์น้อยวันมากที่จะโรแมนติก แต่ถ้าปกติ แน่นอนที่ ในใจของฉันวิภาให้อบอุ่นขึ้นมาได้ แต่ทว่าตอนนี้เธอรู้ว่าแค่ว่า นิเวศน์กำลังแค่ปลอบใจเธออยู่เท่านั้นเอง

ตัวเองทำผิดมามากมาย แถมยังถูกที่เชื่อใจที่สุดหลอก ถึงสุดท้ายก็ต้องมาถูกลูกชายตัวเองปลอบใจ จันวิภารู้สึกตัว มีความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน

ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ตอนแรกจะวางลงเรื่องในใจแล้วอ ยๆจนวิภาก็จมไปกับเรื่องอีกครั้ง

กับคำพูดเลวร้ายที่สุพจน์เอ่ยออกมานั้นได้ลอยขึ้นมาใน สมองเธอ หลังจากที่แผนการของสุพจน์ได้เปิดเผยอารมณ์ ก็ได้โกรธแค้นจากพฤติกรรมที่ต่ำต้อยของสุพจน์ก่อนหน้านี้ให้ จันวิภา รู้สึกขยะแขยงกับเขามาก

สิ่งที่สำคัญคือ เธอกลับถูกหักหลังเอง
ก่อนหน้านี้ระยะเวลาตลอดหกปีที่อยู่อเมริกาวนเวียนอยู่ ในหัวสมองเธออีกแล้ว เมื่อก่อนสุพจน์อ่อนโยนและเอาใจใส่ ทั้งหมดยิ่งถูกเปลี่ยนไป อย่างน่ากลัว

ตอนแรกเธอนึกว่าจะสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้

พอนึกถึงก็จมูกเปรี้ยวอยากร้องไห้ น้ำตากำลัง ทำงาน ก่อนหน้าจะยังฝืนเข้มแข็ง ตอนนี้สุพจน์ไม่ได้อยู่ตรงแล้ว ฉัน วิภาเหมือนอัดไว้ไม่อยู่

นิเวศน์หุบยิ้มทันที เขายืนบนโบกหลังรถแท็กซี่ ใช้มือ แตะๆไหล่ในวิภาพูดค่อยๆว่า “มามี่ อยากร้องไห้ก็ร้องเลย ถึง แม้ว่าผมจะอายุน้อย แต่ก็สามารถพึ่งพาได้นะ

จนวิภากัดปากแน่น อดกลั้นกับน้ำตาที่กำลังจะไหล

“ตอนนี้แดดดี้ไม่อยู่ ไหลของผมยืมให้มามีซบได้นะ

“มามี่ แม่ไม่ได้กลั้นมันไว้แล้ว มา……

นิเวศน์พูดแล้วพูดอีก จนเรื่องราวที่แบกไว้ใจของจันวิภา ทั้งก็ได้เทออกมาพร้อมกับเธอได้จับไหล่ของนิเวศน์แล้วร้องไห้ ออกมา

สองมือของนิเวศน์ได้กอดหัวของฉันวิภาไว้ ราวกับเหมือน กำลังปลอบเด็กอยู่ค่อยๆลูบหัว ใบหน้าที่ดูสง่าและสงบอย่าง ผู้ใหญ่ที่อยู่ในร่างเล็ก

เขาเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้จริงๆ
จนวิภาที่ตอนแรกร้องอย่างเสียงเบา จากนั้นเปลี่ยนเป็น ร้องไห้เสียงดัง คนขับรถแท็กซี่มองดูสองแม่ลูกอย่างทำตัวไม่ ถูกและแปลกใจ แต่ว่าไปแล้วเห็นจันวิภาร้องไห้ก็น่าเห็นใจ ใน ตอนนั้นก็ถึงที่หมายแต่ไม่ได้เรียกสองแม่ลูก รอจนให้เธอหยุด ร้องเสียก่อน

ในตอนนี้เองคนที่ตกใจที่สุดน่าจะเป็นธนภาค จันวิภาจาก ไปก่อน ตามมาด้วยนิเวศน์ที่พูดเรื่องน่าประหลาดใจ ทำให้ ตนเองสุดงงไปหมด จากนั้นก็วิ่งจากไป

ธนาคตอนนี้กำลังอยู่พาวงความแปลกใจ ไม่รู้ว่าเกิด อะไรขึ้น เขาเดาว่ากันวิภากำลังโกหกตัวเอง เธอกับเจริญศรี จริงที่ไม่ถูกกัน และพร้อมที่จะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยบริษัท ตะวันกรุ๊ปจํากัด

ธนภาคอยากรีบวิ่งตามไป แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นเจริญศรีหรือ จันวิภา รวมถึงนิเวศน์ไม่รับโทรศัพท์เขาอีก เขาไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะไปตามหาที่ไหนหาคน ไม่ว่ายังไงก็คงต้องรออยู่ที่โรง พยาบาล

ถึงแม้ว่าธนภาคจะเป็นคนที่นิสัยที่ใจเย็นยังรู้สึก กระวนกระวาย หัวสมองเหมือนมีปีศาจอยู่ในหัว แถบจะบ้า คลั่งจนจะเอาเล็บจิกอวัยวะภายในของตัวเอง

แน่นอน ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องของจันวิภา เพราะว่าตอนนี้ ในโรงบาลก็มาแล้วหนึ่งคน
ตอนนี้คนคนนั้นกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทำตาแป๋ว มองไปทั่ว ทิศของห้อง แล้วหยุดอยู่ที่ตรงหน้าของสุมิตร จากนั้นทำตา เหมือนดูเมน เราหันไปมองดูที่เพดาน พื้นหรือว่าดูเล็บตัวเอง

ยังไงก็ตามก็เหมือนถูกวันนี้หมอไปทั่วหมดแล้ว เหลือแค่

บภาค

คนคนนี้เดิมทีก็คือพชรเอง นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธน

ภาคอีตอัดที่ต้องอยู่

นอกจากที่คุยกับพชรไปแล้วสิงสามประโยค หลังจากนั้น สองคนก็อยู่ในความเงียบต่อ ธนภาคคิดถึงแต่เรื่องของธน ภาค รออย่างใจจิตใจจอด แต่ว่าพชรไม่แสดงอาการออก ไม่รู้ ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

จะว่าไปแล้วผู้หญิงที่มีแต่นมแต่ไม่มีสมองอย่างเธอ จะคิด อะไรได้ละ? คือ?นี้ก็คือฉันกำลังแปลกใจในตัวเธออยู่นะ ไม่ได้ ไม่ควรถามแบบนี้

ธนภาคไม่รู้จะเริ่มคุยยังไงดี

พูดยังไงถึงจะเหมาะสมละ

“นี่ เพราะยังงั้น เพราะอะไรเธอถึงได้มาที่นี้? มาฟื้นฟู สภาพจิต?” ธนภาคค่อยๆเดินไปตรงหน้าพชรี เอียงหัวมองผู้ หญิงคนนั้น

ในเวลานี้พชรึได้มองไปทางหน้าของสุมิตร และยังเปิด หน้าใส่เขา
“เธอป่วยหรือไง”

“อะไรนะ ? ป่วย ? ฉันไม่ได้ป่วย เขาป่วย….สุมิตรนิ้วชี้

ไปทางสุมิตร

จากที่พูดมานี้คือความจริงที่ไม่สามารถตีกันต่อไป

พชรขมวดคิ้วตอบ: การหาคำพูดของยากไปหรือไง? เมื่อฉันเข้าประตูครั้งแรกเมื่อชั่วโมงที่แล้วประโยคแรกของคุณ คือคำพูดพวกนี้”

ธนภาคย้อนคิด จากนั้นพยักหน้า มันก็จริงแบบนั่นแหละ

“แต่ว่า คุณก็ไม่ได้ตอบคำถามผม เพราะพชรไม่ได้มอง เขา และธนภาคก็กลับไปวิ่งบนเก้าอี้ พิงกำแพง ค่อยๆพูด ว่า “คุณบอกคุณเจอจนวิภา แต่ผมรู้สึกว่าคุณเหมือนมาฝึกจิต แหละมั่ง”

พชรถามกลับ: “คุณจะรีบทำไม? ตั้งแต่แรกมาคุณก็ทำท่า ทางกระวนกระวาย ถามคุณก็ไม่ตอบ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ