พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน474พัชรีออก โรงเอง



ตอน474พัชรีออก โรงเอง

ตอนที่ 474พัชรีออกโรงเอง

วันนี้เป็นวันหยุดแถมอากาศข้างนอกก็ไม่เลวเลย

จันวิภาจำได้ว่าคราวที่แล้วเปมิศาบอกว่าอยู่ในห้องนี้นาน จนรากจะงอกก็เลยตัดสินใจว่า ในวันที่อากาศดีๆแบบนี้จะพา เธอออกไปเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านซะหน่อย

ถึงแม้มันจะเป็นการออกไปแค่สวนหน้าบ้านแต่เปมิศา ดีใจมากเธอเตรียมตัวตั้งแต่เช้า

จันวิภาที่เดินออกจากห้องของตัวเองมาเตรียมจะไปหาเป

มษาก็โดนนิเวศน์ดักไว้ก่อน

“หม่ามี้จะไปไหนเหรอ?”

“อ้อวันนี้อากาศค่อนข้างดีหม่าเลยจะพาน้าเปทิศาไปรับ แสงแดดที่สวนหน่อยน่ะ

“แบบนี้นี่เองถ้างั้นหม่ามีรอซักแป๊ปนึงค่อยไปเถอะ

“ทำไมเหรอ?”

“เพราะว่ามีผู้หญิงคนนึงมาเยี่ยมเธอ!

ยังไม่ทันรอให้นิเวศน์ตอบก็มีเสียงนึ่งชิงตอบขึ้นมาอย่างเสียงดังฟังชัดพอได้ยินเสียงแล้วจันวิภาก็รู้สึกตกใจมาก พืช รี!?”

พัชรีเดินไปยืนอยู่ข้างๆในวิภาแล้วเอามือตบไหล่นิเวศน์ เบาๆแล้วก็ตำหนิจนวิภา”เธอนี่ก็จริงๆเลยนะกลับมาตั้งนาน แล้วไม่ติดต่อฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียวถ้าเกิดว่าฉันไม่มาหาเธอ เธอก็จะซ่อนตัวยังงี้ไปเรื่อยๆ ใช่ไหม?”

“พูดเวอร์แล้วช่วงนี้ฉันก็แค่…ยุ่งนิดหน่อย

“เรื่องของเธอฉันรู้หมดแล้วจันวิภาไอ้นิสัยโทษตัวเองใน ทุกๆเรื่องเนี่ยเมื่อไหร่จะเปลี่ยนได้ซักทีต๊ะ?”

จนวิภาส่ายหัวแล้วตอบว่า เธอไม่เข้าใจครั้งนี้เรื่องมันเกิด ขึ้นเพราะฉันจริงๆฉันไม่มีทางนั่งดูอยู่เฉยๆได้หรอกพวกเธอคิด ว่าฉันแคร์มากเกินไปแต่ฉันกลับรู้สึกว่าที่ฉันทำไปมันยังไม่พอ เลยซะด้วยซ้ำ”

เฮ้อจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเองเลยรึไงยัยผู้หญิงคน นี้นี่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อย

จันวิภาคลี่ยิ้มขึ้นอีกครั้งนึงเธอยื่นมือไปจับมือพัชรีแล้วพูด ขึ้นว่า “ฉันจะอนะนำคนๆนึงให้เธอรู้จักเปมิศานิสัยจริงใจและ ตรงไปตรงมาเหมือนเธอเลยฉันว่าพวกเธอต้องกลายเป็นเพื่อน สนิทกันได้แน่ๆ

พัชรีปฏิเสธ เรื่องนั้นไม่ต้องก็ได้นะฉันไม่ได้จิตใจเหมือน เทพธิดาเหมือนเธอ
“หม?”

นิเวศน์ฝีมือพัชรีเบาๆพัชรีก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเรื่องอย่าง จำใจ บอกว่าจะพาฉันไปรู้จักเพื่อนใหม่ไม่ใช่เหรอไปสิ

“อื้องั้นฉันขอไปดูก่อนว่าเปมิศาตื่นยังเธอรอฉันตรงนี้ ก่อนนะ”

พอพูดจบจนวิภาก็รีบวิ่งออกไป

มองจันวิภาค่อยๆจากไปพัชรีเม้มปากแน่นพร้อมบ่น ว่า “กับฉันยัยผู้หญิงคนนั้นยังไม่เคยอดทนทำอะไรเพื่อฉันขนาด นี้มาก่อน!”

“เอาน่าน้าพัชรีตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งเถียงอะไรเรื่องพวก นี้นะน้ายังจำที่ผมเคยบอกได้ไหม?”

“รู้แล้วๆคอยสังเกตยัยเปมิศานั่นไม่ให้หม่ามีของเธอ ทุ่มเทเกินไปขนาดนั้น พัชรีโบกมือเรื่องพวกนี้วันนี้เธอพูดมา ไม่ต่ำกว่าห้ารอบแล้วฉันจำได้น่า

“แล้วก็ต้อง…”

“ต้องเกลี้ยกล่อมให้หม่ามกลับมาดกับปะป๊อีกครั้งนึงใช้ ไหม?” พัชรีทำสีหน้าเบื่อหน่ายในใจคิดว่าตัวเองดูเหมือนคน ลืมขนาดนั้นเลยหรือไงที่ต้องให้นิเวศน์มาคอยอยู่สามรอบรอบ

แต่คนที่นิเวศน์ไม่ไว้ใจไม่ใช่พัชรีหรอกแต่เป็นเปมิศาต่างหาก
เขาได้ยินเรื่องที่เปมิศาได้รับบาดเจ็บอีกครั้งแล้วเขาไม่ เชื่อว่าปะจะทำร้ายเธอโจ่งแจ้งแบบนั้นและก็ไม่เชื่อคำแก้ตัว ของเธอด้วย

เพราะฉะนั้นมันก็เป็นไปได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังแอบ วางแผนอะไรบางอย่าง

ให้คนที่มีเลศนัยแบบนี้อยู่ข้างหม่าเขาจะสบายใจได้ยัง

นิเวศน์คิดวิธีอยู่นานก็เลยตัดสินใจให้พัชรีออกโรง

พัชรีคือเพื่อนสนิทที่สุดของจันวิภาคำพูดของเธอคงจะน่า เชื่อถือหน่อยล่ะนะ

จันวิภาค่อยๆเปิดประตูเข้าไปเบาๆแล้วก็ยิ้มให้ผู้หญิงที่ อยู่ในห้องแล้วพูดว่า “เปมิศาพวกเราจะเข้าไปแล้วนะ”

พอหันไปมองคนสองคนที่กำลังเข้าห้องมาเปมิศาก็ยิ้ม อย่างมีน้ำใจ

พอพัชรีเข้ามาก็เริ่มทำการประเมินเปมิสา

พอเห็นว่าพัชรีกำลังมองตัวเองด้วยสายตาที่คมกริบเป ศาก็ไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจอะไรแถมยังมองเธอกลับด้วยสีหน้า นิ่งเรียบ

ผู้หญิงคนนี้แสดงเก่งจริงๆเลย
พัชรียักคิ้วส่วนในวิภาที่ยืนอยู่ข้างๆก็พยายามแนะนำให้ ทั้งสองคนรู้จักกัน “เปมิศานี่คือคนที่ฉันเคยเล่าให้เธอฟังตลอดพัชรีเธอเป็น

เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน” เปมิศาพยักหน้าทักทายพัชรีเธอยิ้มแล้วทักทายว่า “สวัสดี

ฉันคือเปมิกา”

พัชรีตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “สวัสดี

“ขอโทษจริงๆที่เจอกันครั้งแรกแท้ๆฉันกลับต้องนอนอยู่ บนเตียงตอนคุยกับเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกนี่มันเป็นสถานการณ์พิเศษนิ

“อนาคตยังอีกยาวไกลถ้าครั้งหน้าได้เจอกันอีกก็คงจะได้

ยืนคุยกับเธอดีๆ”

อนาคตยังอีกยาวไกลนั้นเหรอ?ประโยคนี้น่าคิดเหมือนกันนะ…

ผู้หญิงทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วก็ต่างยิ้มให้กันแต่ว่ารอย ยิ้มนั้นกลับไม่ใช่รอยยิ้มจริงๆของทั้งสองคน

“พอแล้วทั้งสองคนก็เป็นคนบ้าๆบอๆเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ต้องเสแสร้งเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจงดงามหรอกพัชรีพวกเรา นั่งลงคุยกันดีๆดีกว่า”

จันวิภาพูดพลางหยิบเก้าอี้มาตัวนึงแล้วก็ดันไหล่ให้พัชรีนั่งลง

เธอนั่งบนเก้าอี้ท่าทางสบายๆแล้วพูดว่า “พูดจริงๆนะฉัน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันวิภาจะเข้าไปอยู่ในบริษัทบันเทิงได้ เป็นเด็กฝึกหัดเนี่ยนะเธอน่ะคีย์คืออะไรยังไม่รู้จักแขนขายังไม่ ไปทิศทางเดียวกันเลยทำไมถึงไม่โดนถอดออกก็ไม่รู้?

จันวิภายื่นมือไปผลักไหลพัชรีขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นี่เธอ เป็นเพื่อนฉันจริงไหมนอยู่ดีๆก็เอาฉันมาแฉแบบนี้

“เพราะว่าฉันรู้จักเธอดีเลยไม่อยากชมเธอจนเกินไปรู้ไหม ว่ายิ่งบินสูงแค่ไหนก็ยิ่งตกลงมาแรงเท่านั้น?”

“เธอพูดถึงอะไรเนี่ย”

จันวิภาไม่เข้าใจในสิ่งที่พัชรีพูดแต่เปมิศากลับเข้าใจดี

เปมิศามองพัชรีตาเป็นประกายแล้วพูดว่า “ที่จริงจันวิภา เป็นคนที่มีเสน่ห์มากๆเลยนะเธอมีนิสัยในแบบที่หาได้ยากแถม ยังเรียนรู้อะไรได้ไว”

“ฟังเอาไว้ว่าคนอื่นเขาชมฉันยังไงบ้าง

ยัยผู้หญิงซื้อแค่คนอื่นชมสองสามประโยคก็คิดว่ามันเป็น เรื่องจริงแล้ว?

พัชรีกลอกตาแล้วพูดว่า “พูดตามตรงนะฉันรู้จักกันวิภามา นานหลายปียังไม่เคยเห็นข้อดีพวกนั้นจากเธอเลยไม่รู้ว่าเธอ ซ่อนลึกเกินไปหรือสายตาฉันไม่ค่อยดีกันแน่
“หรือไม่ก็จันวิภารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาให้เธอ

เห็น

พัชรีเลิกคิ้วมองหน้าเปมิศาก็เห็นว่าสายตาที่เป็นประกาย ของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว

สายตาที่เย็นชานั้นปรากฏเพียงแว๊บเดียวเท่านั้นถ้าไม่ใช่ ว่าเมื่อกี้พัชรีเห็นชัดเต็มสองตาคงจะคิดว่าตัวเองตาฝาดไป แน่ๆ

มันคืออะไรยั่วให้โกรธ

ดีถ้ากล้าทำแบบนี้แล้วล่ะก็ถ้าไม่สู้กลับซะหน่อยเดี๋ยวจะ คิดว่ากลัว!

พัชรีเชิดหน้าขึ้นกำลังจะโต้กลับก็โดนจันวิภาขัดไว้ซะก่อน

“พอแล้วเปมิศาคุยนานไม่ค่อยได้ต้องพักผ่อนพวกเราไป กันเถอะ”

พัชรีมีพลังโต้กลับอย่างเต็มที่แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรก็ โดนตั้งไว้ซะแล้วทำให้พัชรีอึดอัดจนแทบจะกระอักเลือด

“นี่เธอต้องปกป้องเขาขนาดนั้นเลยรึไงดูปฏิบัติตัวดีจังนะ

“เขาน่ะแข็งแรงดีจะตายแต่ถ้าแข็งแรงมากเกินไปก็คงจะ ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอกเนอะ

พอพูดจบจนวิภาก็หันไปมองหน้าเปมิศาด้วยสายตาข่มขู่ ให้เธอเชื่อฟัง
เปมิศาทำสีหน้าจำใจแล้วพูดว่า ใช่ๆๆท่านพูดอะไรก็ถูก หมดแหละดิฉันจะเชื่อฟังอย่างดีเลยค่ะ

“ค่อยดีหน่อย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ