พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน477ปัญหาเริ่มรุนแรงแล้ว



ตอน477ปัญหาเริ่มรุนแรงแล้ว

ตอนที่477ปัญหาเริ่มรุนแรงแล้ว

เธอเสแสร้งขำแล้วจันวิภาก็หยิบดอกไม้ออกมาจากแจกัน แล้วโยนทิ้งลงไปในถังขยะแล้วพูดว่า”ไว้เดี๋ยวฉันจะสั่งดอกไม้ มาให้ใหม่

“ไม่เป็นไรหรอกยังไงฉันก็ไม่ได้มีนิสัยชอบชมดอกไม้อยู่ แล้ว เธอยื่นมือไปแตะเข่าจนวิภาเบาๆแล้วถามว่า “มีอะไรกวน ใจอยู่รึเปล่า?”

“ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องกวนใจหรอกก็แค่เรื่องที่ฉันเคย รับปากเธอไว้ยังทำไม่สำเร็จซักที่ฉันรู้สึกผิด

“เรื่องราวมันไม่ราบเรียบเหรอ?”

จันวิภาพยักหน้า

“จันวิภาแค่เธอมาช่วยฉันฉันก็ซาบซึ้งใจมากแล้วทำไม่ สำเร็จก็ไม่เป็นไรหรอกเพราะยังไงคนๆนั้นก็คือสุมิตรถ้าจะถูก ปฏิเสธก็ไม่แปลกหรอก

“ไม่ว่าฝั่งตรงข้ามจะเป็นใครก็ไม่เกี่ยวหรอกเรื่องที่รับปาก เธอไปแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ จันวิภาตอบอย่างขึงขัง ฉันมี แผนใหม่แล้วให้เวลาฉันหน่อยนะ
“อย่าทำให้ตัวเองลำบากเลยเดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง

“ไม่ได้ลำบากเลยยังไงเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ฉันแค่ ยังคิดไม่ออกว่าทำไมมิตรถึงดึงดันขนาดนี้ก็เห็นอยู่ชัดๆว่ามัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำสู้รีบเอาเอกสารมาให้ เธอทุกคนก็แฮปปี้ดีจะตาย

เปมิศาดวงตาเป็นประกายแล้วพูดต่อว่า หรือบางทีมิตร อาจจะยังโกรธเธออยู่

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเพราะนอกจากเหตุผลนี้แล้ว ฉันก็คิดไม่ออกแล้ว”จันวิภาฬิดฟัดด้วยความโกรธแล้วพูด ต่อว่า เรื่องนี้มิตรก็จริงๆเลยนะทั้งๆที่ตัวเองผิดแท้ๆยังไม่รู้ตัว อีกว่าตัวเองผิดแถมยังทำให้เรื่องราวร้ายแรงขึ้นอีกทำเกินไป จริงๆ”

เปมิศาเงยหน้าไปมองหน้าในวิภาแล้วพูดต่อว่า “จันวิภา อย่าให้เรื่องของฉันไปกระทบความสัมพันธ์ของพวกเธอเลย

“ไม่ได้หรอกฉันต้องทำให้มิตรรู้ว่าเขาผิดจะดื้อรั้นแบบนี้ ต่อไปไม่ได้ จันวิภาพูดอย่างแน่วแน่“โลกใบนี้ไม่ได้หมุนรอบ ตัวเขานะถ้าเกิดว่าเขาคิดเรื่องนี้ไม่ได้พวกเราก็จะขัดแย้งแบบนี้ กันตลอดไปนั่นแหละ

“ฉันเข้าใจแล้วพวกเธอสองคนมองคุณค่าของแต่ละอย่าง ไม่เท่ากันถูกไหม?”
จันวิภาเกาหัวแกรกๆแล้วตอบอย่างลังเลว่า น่าจะจะพูด แบบนั้นก็ได้”

“ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ถือว่าเป็นปัญหาร้ายแรงเลยนะ เนี่ยทั้งสองคนมีวิธีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกันได้ชอบสิ่งที่ไม่ เหมือนกันได้แต่ถ้ามึงคุณค่าของสิ่งใดสิ่งนึงไม่เท่ากันแล้วก็จะ ขัดแย้งกันได้ง่าย

คําพูดพวกนี้ทําให้นวิภารู้สึกกังวลเธอรีบถามออกมา ว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?” “จะยกตัวอย่างให้ฟังแล้วกันนะฉัน น่ะเป็นตำรวจหน้าที่ของฉันคือจับกุมคนไม่ดีเพื่อไม่ให้พวกเขา ไปทําเรื่องทั่วๆได้อีกเพราะฉะนั้นฉันก็จะไม่มีในเป็นเพื่อนกับคน ชั่วเรื่องอยู่ด้วยกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

“แต่ว่าฉันไม่ใช่ตำรวจมิตรเองก็ไม่ใช่คนชั่ว

“ฉันแค่ยกตัวอย่างนะเธอไม่ต้องคิดว่าเป็นตัวเองก็ได้

เธอจ้องหน้าในวิภาเขม็งแล้วพูดต่อว่า เรื่องเกี่ยวกับการ ให้คุณค่าเนี่ยเธอก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วเช่นเธอรู้สึกว่าคนๆนึง ใสซื่อ บริสุทธิ์มากๆแต่ว่าสุมิตรคนๆนั้นทำผิดมหันตร์หรืออาจจะเป็น ฆาตกรก็ได้”

จันวิภาพยักหน้าแสดงออกว่าเห็นด้วยกับสิ่งที่เปมิศาพูด

เปมิศาถอนหายใจแล้วก็จ้องหน้าจันวิภาด้วยความรู้สึก เดียวกับเธอ เธอน่ะยังมีวันที่ขมขื่นรอคอยอยู่

จันวิภาสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลแล้วรีบถามขึ้น ทำไมพูดแบบนั้น?”

“ยิ่งปล่อยเวลาให้มันผ่านไปนานเท่าไหร่ความขัดแย้ง ระหว่างพวกเธอสองคนก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเคยรักกัน มากแค่ไหนก็ซื้อไว้ไม่ได้หรอกนะสุดท้ายก็จะกลายเป็นคู่รักที่ ไม่มีความสุขจากคนรักกลายเป็นคนแปลกหน้า

“น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ตอนแรกเปมิศาก็พยักหน้าแล้วก็เปลี่ยนเป็นส่ายหน้าแล้ว พูดว่า“โธ่เอ้ยดูจากสิ่งที่ฉันพูดมาเหมือนจะยุยงให้พวกเธอเลิก กันเลยเนี่ยถ้างั้นอย่าเธอเก็บไปใส่ใจเลยนะถือว่าฉันพู ดมั่วๆทั่วๆไปแล้วกัน”

จันวิภาลูบมือของเปมิศาเธอยิ้มแล้วพูดว่า ไม่เป็นไรหรอก เธอก็แค่ให้คำแนะนำฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ขึ้นอยู่กับตัวฉันเอง นั่นแหละ”

“เธอจะไม่คิดมากใช่ไหม?

จันวิภาส่ายหน้าอย่างไม่แคร์ ไม่หรอกฉันกับมิตรมีเรื่อง ขัดแย้งกันก็จริงแต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไรขนาดนั้นหรอกฉันก็ แค่ฟังๆไว้”

เปมิศาถอนหายใจอย่างโล่งอกงั้นก็ดีแล้ว

“ถ้ายังงั้นฉันไปตัดดอกไม้จากในสวนมาให้เธอใหม่ดี

“โอเค”

กว่า”
จันวิภาเดินออกจากห้องมาด้วยรอยยิ้มแต่ทันทีที่ประตูปิด ลงรอยยิ้มนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป เธอยืนพิงประตูอยู่ขมวดคิ้วแน่นแล้วก็คิดในใจว่าปัญหา

ของเธอกับสุมิตรนั้นมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?

นิเวศน์ที่กำลังเล่นกับโมเดลของเขาอยู่นั้นสายตาก็มอง ออกไปข้างนอกอยู่บ่อย

5, 4, 3, 2, 1……

พอนับจนถึง1ประตูก็ถูกเปิดออก โดยคนๆนึงพอเป็นหน้า นิเวศน์เธอก็ฉีกยิ้มออกมาทันที

“นิเวศน์ลูกหิวน้ำไหมหม่ามีทำน้ำลูกพลัมมาให้อยากมา

ดื่มหน่อยไหม?”

“โอเคเลย”

พอพูดจบน้ำลูกพลัมก็ถูกส่งถึงมือนิเวศน์ทันที

“ลูกหิวไหมหม่ามีไปทำคุกกี้ให้ลูกกินดีไหม?ลูกอยากกิน รสอะไรดีช็อกโกแลตหรือว่าสตอเบอร์รี่ อืมหรือว่าอยากกิน ทุกรสเลย

พอจันวิภาพูดจบก็รีบหันตัวเตรียมจะออกไป

นิเวศน์รีบหยุดเธอไว้แล้วพูดว่า “หม่ามีในนี้ไม่ยุ่งเรือทำไม ถึงมาหาผมทุก20นาทีเลยล่ะ?”
“นี่หม่ามีก็แค่เป็นห่วงกลัวลูกจะหิว

“ตอนนี้ไม่หิวแล้วอิ่มจนพุงกางแล้วต่างหากหม่ามีเป็น อะไรไปกันแน่บอกมาตรงๆเลยดีกว่า

จันวิภาพบริมฝีปากเบาๆแล้วพูดต่อว่า “นิเวศน์หม่ามี ขอร้องอะไรลูกซักเรื่องสิ

พอได้ยินจันวิภาพูดดังนั้นนิเวศน์ก็ถอนหายใจออกมา อย่างโล่งอกเขานั่งพิงเก้าอี้แล้วพูดว่า “ดูที่หม่ามีพูดเข้าสิขอแค่ สั่งมาคำเดียวอะไรผมก็ทำให้หม่ามีได้ทั้งนั้นแม้แต่เด็ดดาวลง มาจากฟ้าก็ทําได้

“เจ้าเด็กนี้ปากหวานจริงๆเลยนะ”จันวิภายิ้ม ที่จริงมันก็ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกก็แค่ช่วยหม่ามีสืบเรื่องอะไรหน่อยดี ที่สุดคือก้อปปี้ออกมาได้ด้วย

นิเวศน์จ้องหน้าในวิภาแล้วถามต่อว่า “หม่ามีควไม่ได้จะ ให้ผมสืบเรื่องของธามอะไรนั่นใช่ไหม”

จันวิภาชีเบิ้วออกไปเป็นสัญลักษณ์ว่าถูกต้องเธอยิ้มแล้ว พูดว่า “สมกับเป็นลูกชายฉันจริงๆ ฉลาดมาก!

“หม่ามีเรื่องนี้เกรงว่าผมจะทำให้หม่ามีไม่ได้

รอยยิ้มนั้นค่อยๆหายไปในวิภามองหน้านิเวศน์อย่างไม่ เข้าใจ เมื่อกี้ยังบอกว่าจะเก็บดาวมาให้หม่ามีอยู่เลยทำไมตอน นี้เปลี่ยนใจซะแล้วล่ะ?”

“ถ้าผมไปเก็บดาวก็ยังไม่กระทบกับผลกำไรของปะไร
“แต่ก้อปปี้หลักฐานกระทำความผิดจะไปมีผลกระทบต่อ ผลกำไรของเขาได้ยังไงกัน?

นิเวศน์ส่ายหน้าแล้วพูดว่า มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ผมรู้ว่า หม่าอยากจะช่วยน้าเปมิศาแต่หม่ามีคิดดูนะถ้าปะปั๊มห้หม่ามี ได้จริงๆคงไม่ดึงดันอยู่จนถึงตอนนี้และก็คงไม่ทำสงครามเย็น อยู่กับหม่ามีจนถึงตอนนี้หรอก

“นี่แหละทำให้หม่ามโกรธ จันวิภาตอบอย่างฟืดฟัดเขา โกรธเพราะว่าหมาณสนใจเปมิศามากกว่าเขาเลยไม่ยอมให้ หน่อมแน้มยิ่งกว่าเด็กอนุบาลอีกไร้สาระ!

นิเวศน์หันไปมองหน้าจั่นวิภาแล้วถามว่า “หม่ามีคิดแบบ

นั้นจริงๆเหรอ?”

“แล้วมันไม่ใช่เหรอ?”

“เรื่องนั้น..…..”

“พอแล้ว ไม่ต้องสอนหนังสือหม่าแข้วตอบมาแค่คำเดีย วจะช่วยหม่ามีหรือปะ

นิเวศน์เกาหัวแกรกๆด้วยความสับสนแล้วตอบว่า “ผมไม่ อยากเลือกเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ