พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน261ลูกรักดึงด้ายแดง



ตอน261ลูกรักดึงด้ายแดง

ตอนที่261 ลูกรักดึงด้ายแดง

เมื่อนิเวศน์ได้ยินคำพูดของจันวิภาก็ขยั บเคลื่อนไหวกระสับกระส่าย เขาดิ้นออกจากอ้อมแขนของจันวิภา ลุกขึ้นนั่งบนเตียงและมองไปที่จันวิภา

ถามย้ำอีกครั้งพร้อมกับน้ำเสียงที่มีร่อง รอยแห่งความสุข “มามี มามีสัญญากับคำขอของนิเวศน์แล้วใช่

ไหมครับ

สรุปว่ามามี้จะอยู่กับคุณพ่อแล้วใช่ไหม” จันวิภาดึงนิเวศน์ลงบนเตียงอย่างอารม ณ์เสีย และพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “มามี้พูดตอนไหน มามพูดว่าจะไม่พาลูกกลับไปอเมริกาแ ล้ว จะอยู่กับลูก จีนสักพัก รอลูกเปิดใจรับได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นแม่ก็จะกลับไปกับลูก”

เมื่อได้ยินดังนั้นนิเวศน์ก็ทำปากยื่น เถียงกลับอย่างกำปั้นทุบดินด้วยน้ำเสีย งดื้อรั้นว่า “ผมจะไม่เปิดใจรับ มามี ถ้ามามีไม่อยู่กับคุณพ่อ ผมก็จะไม่มีวันเปิดใจ ผมต้องการพ่อครับ คุณพ่อของผม….. เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วนิเวศน์ก็เริ่มออดอ้ อนงอแงในอ้อมแขนของจันวิภา คำพูดที่ไร้เดียงและดื้อรั้นของนิเวศน์นี้ จันวิภาสมควรที่จะโกรธ

แต่เมื่อได้ยินประโยคท้ายของเขาเธอก็ ไม่โกรธอีก มีอาการแสบจมูกเกิดขึ้น จันวิภาสดจมูกก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเ สยังละอนว่า “หยุดโวยวายได้แล้ว

รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้มา จะพาลูกไปเที่ยว

“ไปเที่ยวเหรอครับ”

คำพูดของจันวิภาเบี่ยงเบนความสนใจข

องนิเวศน์

เขาค่อนข้างตื่นเต้นขณะที่มองไปที่จันวิ ภา เอ่ยถามว่า “กับใครครับ

คุณพ่อไปด้วยหรือเปล่า”

“ไม่!”

จันวิภาใช้นิ้วชี้ดันศีรษะของนิเวศน์ พูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “ทั้งวันเอาแต่เรียกหาคุณพ่อคุณพ่อ ลูกยังมีแม่เป็นมาในสายตาไหม หม?”

“แหะแหะ…” ถูกจั่นวิภาอบรมเข้าแล้ว แต่นิเวศน์ก็ยิ้มออกมาอย่างไม่มีความรู้ ลกผิด

เขามองเข้าไปในดวงตาของจันวิภาแล

ะพูดอย่างจริงจัง

“ใครบอกว่าผมไม่มีมาในสายตา มองผมด้วยสายตาที่จริงใจสิครับ ในสายตาของผมน่ะไม่ใช่ว่ามันสะท้อน แค่มามีหรอกเหรอ”

เจ้าเด็กคนนี้

ตัวแค่นี้ก็รู้จักพูดคำหวานแล้วงั้นเหรอ ทำไมถึงได้เหมือนพ่อแบบนี้

ถึงแม้ว่าในหัวใจจันวิภาจะไม่พอใจ แต่กลับสนุกกับพฤติกรรมของนิเวศน์ พูดออกมาทั้งรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ

เลิกเล่นตลกได้แล้ว

ให้ประโยชน์ไปแล้วลูกกลับทำสิ่งที่ไม่ สมเหตุสมผลเหรอ รีบนอนซะ พรุ่งนี้ยังต้องออกไปเที่ยวอีก” นิเวศน์ฝังศีรษะลงในอ้อมแขนของจันวิ ภาสักพัก แล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “แต่มามี้ยังไม่ได้บอกผมเลยนะว่าจะไป กับใคร”

“ไปกับเพื่อนของมามีที่สนิทกันมาหลา ยปี ลูกจะต้องชอบเธอมาก”

จันวิภาพูดด้วยรอยยิ้ม เธอสัญญากับพัชรีเอาไว้ว่าถ้าหาลูกชา ยพบก็จะพาไปพบเธอ ถึงแม้ว่าวันนี้จะได้เจอกันแล้ว แต่บรรยากาศในวันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไร จันวิภาเองก็ไม่ได้มีการพูดอะไรมากนัก ใช้ประโยชน์จากโอกาสในวันนี้ จันวิภาก็จะได้สอบถามพัชรีว่าไปที่บ้าน ของธนภาคได้อย่างไร * ความสัมพันธ์ของพวกเขาเติบโตขึ้นลับ หลังเธอจนเธอไม่รู้สถานะเลยเหรอ

เป็นเพื่อนสนิทของพัชรี แต่จันวิภากลับไม่ค่อยเห็นพัชรีมีความรั กเลย นี่ก็อายุมากแล้ว

ยังไม่ได้แต่งงานเลย ต่อให้เป็นเธอก็เป็นกังวลแทนพัชรีมาก

เห็นลักษณะพัชรีมีเจตนาแอบแฝงต่อธ

นภาค ถ้าทำได้

จันวิภาต้องการดึงด้ายแดงของพัชรี

ให้พัชรีแต่งงานโดยเร็ว

แต่อย่างไรก็ตามธนภาคก็ไม่ใช่คนดี

ในขณะที่จันวิภาวางแผนเอาไว้ในใจอย่ างมีความสุขก็หลับไปในระหว่างนั้น

วันต่อมา

สองแม่ลูกนอนหลับไปและตื่นขึ้นมาตา มปกติ

จ้นวิภายังคงถูกปลุกด้วยเสียงร้องของ นิเวศน์ เธอลูบศีรษะไปมา

งัวเงียไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน

จนเมื่อเธอออกมานิเวศน์ก็แต่งตัวเสร็จ แล้ว

จันวิภาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา มันเป็นสิ่งที่ดีมากที่มีลูกชายที่มีไอคิวสู ง เพราะไม่มีอะไรที่เธอต้องกังวลเลย

เรียกนิเวศน์ให้ไปล้างหน้าแปรงฟัน หลังจากจันวิภาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เอา โทรศัพท์มือถือมาโทรหาพัชรี

ให้เธอทำตัวให้ว่างเพื่อที่วันนี้จะได้ไปเ ที่ยวกัน

แต่พัชรีกลับบอกว่าไม่ว่าง

ขอนัดเป็นวันอื่น เมื่อวางสายไปจนวิภากย่นจมูก

นี่พัชรีคงจะไม่ได้โกรธเธอหรอกนะ อาจเพราะเธอไม่ได้บอกว่านิเวศน์เป็นลู กชายของสุมิตร ดังนั้นเธอจึงโกรธหรือเปล่า

แต่เมื่อคิดดูดี ๆ แล้วมันก็เป็นไปได้ พัชรีเกิดมาเพื่อเป็นผู้ปกป้อง ตราบใดที่เธอเป็นเพื่อนคนสำคัญ ไม่ว่าจะถูกหรือผิดเธอก็จะกางแขนออ กปกป้อง ถึงแม้ว่าจะดูโง่ไปสักหน่อย แต่พัชรีก็เป็นคนที่รักความชอบธรรม

ความคิดช้า ความรู้สึกช้า แต่กลับพูดออกมาตรงๆ ตรงไปตรงมาและไม่จุกจิกเรื่องเล็กน้อ ย

โดยบรรทัดฐานก็คือไม่อนุญาตให้เพื่อ นทรยศเธอ เจตนาหลอกลวงยิ่งไม่ได้ ดงบนจนวิภาจึงค่อนข้างเข้าใจพชร หลายปีมานี้จึงชินกับอารมณ์กับเธอแล้ ว

เก็บโทรศัพท์มือถือ จันวิภาคิดใรแง่ดี แค่ซื้อของกินไปง้อพัชรีก็พอแล้ว

ไม่มีอะไรหรอก

เร่งนิเวศน์ให้เร็วขึ้นอีกหน่อย จันวิภาเพิ่งเก็บโทรศัพท์มือถือไปแต่เสี ยงเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาอีก คิดว่าไม่ใช่ว่าพัชรีจะเปลี่ยนใจรวดเร็วข นาดนี้หรอกนะ

แต่เมื่อเห็นสายเรียกเข้า

จันวิภาก็อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา

ที่แท้เป็นสุมิตร

“สุมิตร คุณโทรหาฉันมีอะไรเหรอ” ไม่ได้ทำงานที่บริษัท จนวภากไม่เรียกเขาว่าประธาน

“ทำไมคุณไม่มาทำงาน” สุมิตรเปิดปากเป็นคำถาม

จันวิภาเลิกคิ้วอ

ตั้งแต่เมื่อวานนี้หลังจากที่สุมิตรไปแล้ว เธอตัดสินใจที่จะไม่ไปทำงานอีก และก็คิดเอาไว้แล้วว่าสุมิตรจะมีปฏิกิริย าแบบนี้ แล้วจึงพูดอย่างยั่วโมโหว่า

“ขอโทษด้วย จากนี้ฉันจะไม่ไปทำงานอกแล้ว

ฉันบอกแล้วไง

ถ้าฉันคิดจะไปคุณก็ไม่สามารถหยุดฉัน ได้”

“คิดจะไปงั้นเหรอ

ค่าผิดสัญญายังไม่ได้จ่าย คุณก็มาลาออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลที่ตามมาคณจ่ายไหวเหรอ” สุมิตรกดเสียงตา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ

“จริงเหรอ”

จันวิภานั่งอย่างสบายใจลงบนเตียงและ พูดว่า “แต่เมื่อวานนี้ฉันศึกษามาแล้ว โดยพื้นฐานแล้วบริษัทไม่ได้มีการเรียก ร้องค่าเสียหายเมื่อลูกจ้างผิดสัญญา เห็นได้ชัดว่าคุณพูดเองเออเอง! เพื่อต้องการทำให้ฉันกลัว! สุมิตร ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะมาคุกคา มไร้สาะแบบนี้ คุณนี่มันใช้ไม่ได้!”

ได้ยินคำพูดของจันวิภา อีกด้านเกิดความเงียบงัน ไม่นาน จันวิภาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังมาจาก

สุมิตร คาดว่าเขาหยิบโทรศัพท์มือถืออีกเครื่อ งขึ้นมา

จันวิภาอดไม่ได้ที่จะสงสัย ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าสุมิตรคิดจะทำอะไร แต่เธอก็ยังคงนิ่งฟังเงียบๆ ไม่ได้วางสายไป

โทรศัพท์อีกฝั่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จันวิภาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

ได้ยินเพียงประโยคสั้นๆ ได้ใจความของสุมิตร “ผู้จัดการจ้าว ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ผมต้องการให้บริษัทข องเรามีกฎในคู่มือพนักงานดังนี้: ผู้ใดที่เข้าบริษัทมาน้อยกว่าหนึ่งปี ต้องจ่ายค่าเสียหายเมื่อผิดสัญญาหนึ่ง ล้านดอลลาร์ ได้ยินแล้วใช่ไหม”

อีกฝั่งดูเหมือนจะพูดอะไรกลับมาอีก จากนั้นสุมิตรก็วางสายไป แล้วเขาก็กลับมาพูดช้าๆชัดๆกับจันวิภา ว่า เป็นไง ตอนนี้เรื่องเท็จกลายเป็นจริงแล้วใช่ไห ม จันวิภา

ค่าเสียหายจากการผิดสัญญาล่ะ”
201489651_186845753355375_4711976340610202196_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ