พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน475ยังไม่ทันสู้ก็แพ้แล้ว



ตอน475ยังไม่ทันสู้ก็แพ้แล้ว

ตอนที่475ยังไม่ทันสู้ก็แพ้แล้ว

ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมานั่นทำให้พัชรี รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน

พัชรีรู้สึกอัดอั้นอยู่เต็มอกเธอขมวดคิ้วแล้วขัดจังหวะสอง คนนั้นว่า งั้นฉันไม่อยู่ให้เกะกะละไปก่อนนะ

พอพูดจบพัชรีก็เดินออกมาก่อน โดยที่ไม่รอจนวิภา

พอเห็นหลังของพัชรีเดินออกไปเปมิศาก็พูดว่า”เพื่อนเธอ คนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยจะชอบฉันเท่าไหร่นะ

“จะเป็นไปได้ยังไงเธอคิดมากเกินไปแล้วพัชรีก็เป็นคน แบบนี้แหละเธอไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อยเดี๋ยวพอรู้จักกันไปนานๆ เธอก็รู้เองแหละ”

เปมิศาได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ยิ้มให้ไม่ได้ตอบอะไร

ธนภาคกำลังนั่งดูเอกสารต่างๆอยู่ในห้องอ่านหนังสือ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถแล่นเข้ามาเขาก็คลี่ยิ้ม ออกมาทันที

ธนาคเดินลงมาชั้นล่างเห็นพัชรีใส่ชุดแข่งรถถือหมวกกันน็อคเดินเข้ามาสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“ไปแข่งรถมาเหรอ?”

“อืม”

“ตลกละฉันเคยแพ้ที่ไหน

“แล้วทำไมดูอารมณ์ไม่ดีล่ะ?”

เธอทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วก็พูดด้วยสีหน้าอึมครึมว่า วันนี้ ฉันไปหาในวิภาที่บ้านมา

“ได้เจอเพื่อนเก่าน่าจะเป็นเรื่องที่มีความสุขไม่ใช่เหรอ”

“ถ้าเกิดว่าแค่เจอในวิภาก็คงจะมีความสุขอยู่หรอกแต่ ว่า…. “พอนึกถึงหน้ายัยผู้หญิงป่วยคนนั้นสีหน้าพัชรี เคร่งเครียดขึ้นมาทันที แต่ถ้าเจอหน้าคนที่ไม่อยากจะเจอจะมี ความสุขกับผีอะไรเล่า!

“เจอคนที่ไม่อยากเจอนั้นเหรอ ธนภาคครุ่นคิดอยู่ซักพัก แล้วก็พูดต่อว่า “ดูเหมือนว่าเธอจะได้เจอเปมิศาคนดังแล้วสินะ

“ใช่ที่แท้ยัยผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้รับมือได้ง่ายเลยนะ พัชรี หรี่ตาลงแล้วพูดต่อว่า “แล้วยัยจันวิภาที่ชื่อซื้อแบบนั้นก็เลย โดนยัยนั่นหลอกซะเละเทะเลย

“ไม่ต้องพูดถึงจันวิภาหรอกแม้แต่มิตรยังไม่รู้จะจัดการกับ เธอยังไงเลยเพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องโมโหไปหรอกเปมิศาเป็นศัตรูที่ไม่ได้รับมือได้ง่ายๆถึงเธอไม่รู้จะรับมือยังไงก็ไม่ใช่เรื่อง แปลกอะไร

คำพูดนี้ทำให้พัชรีตาโตเธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่พึ่งจะ ได้ยิน ล้อเล่น ใช่ไหมเนี่ยผู้ชายที่ร้ายกาจแถมเด็ดเดี่ยวแบบสุ มิตรยังจัดการผู้หญิงคนเดียวไม่ได้เนี่ยนะ?!”

“เพราะว่าต้องรักษาความสัมพันธ์ของเขากับจันวิภาไว้นะ

พัชรีรู้สึกไม่เข้าใจเธอขมวดคิ้วแน่นธนภาคตบไหล่พัชรี เบาๆแล้วพูดว่า ไม่ต้องคิดมากแล้วปัญหาของพวกเขาพวกเขา จัดการเองได้น่ะคนนอกเข้าไปยุ่งไม่ได้หรอก”

“แต่ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาหลอกใช้เพื่อนของฉันหรอก นะ!”พัชรีตอบอย่างหนักแน่น ฉันเจอเปมิศาแค่ครั้งแรกก็รู้แล้ว ว่าเธอคนนี้ไม่ธรรมดาแต่จันวิภาอยู่กับเธอมาก็ตั้งนานทำไมถึง ดูไม่ออก?”

“เธอรู้ได้ยังไงว่ากันวิภาดูไม่ออก

คำพูดนี้ทำให้พัชรีกันไปมองหน้าธนภาคอย่างงุนงง

ธนภาคอื่นมือไปบีบจมูกพัชรีเบาๆแล้วพูดต่อว่า “จันวิภา ไม่ใช่คนโง่เรื่องที่เธอมองออกเขาก็ต้องมองออกเหมือนกันแต่ ว่าการโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของเขาทำให้มองข้ามเรื่อง พวกนี้ไปถ้าเปมิศายังไม่หายดีจนวิภาก็ไม่สามารถเดินออกมา จากความรู้สึกผิดในใจได้หรอก”
พัชรีเอามือจับคางราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

“เธอกำลังคิดจะทําอะไรอีก?”

อยู่

พัชรีเอียงคอแล้วตอบว่า “เปมิศาก็แค่ได้รับบาดเจ็บแค่นิด หน่อยไม่ใช่เหรอรักษาไม่น่ายากเดือนเดียวก็น่าจะหายได้แล้ว

“เธอแน่ใจเหรอว่าแค่เดือนเดียว?

พอคิดถึงเรื่องที่เปมิศาบาดเจ็บรอบที่สองพัชรีก็นิ่งเงียบไม่

ได้ตอบอะไร

“พอแล้วไปอาบน้ำเถอะเรื่องขัดแย้งวุ่นวายแบบนี้ไม่ได้

เหมาะกับเธอเลยนะ

ธนภาคพูดพร้อมกับดันพัชรีเข้าไปในห้องอาบน้ำ

ตอนที่พัชรีกำลังอาบน้ำอยู่นั้นเสียงเรียกเข้าของธนภาค

ดังขึ้น

สุมิตรโทรมานั่นเอง

โทรมาเวลานี้คงจะไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?

ธนภาคขมวดคิ้วแน่นพลางรีบกดรับโทรศัพท์

“ฮัลโหลนาย….

“ออกมาดื่มเหล้ากันเจอกันที่เดิม

พอพูดจบสุมิตรก็วางสายไป
ธนภาคองไปพักนึงแล้วก็ยิ้มพลางส่ายหน้าช้าๆ

ตอนที่ธนภาครีบจนไปถึงที่บาร์นั้นสุมิตรก็ดื่มเหล้าหมดไป แล้วขวดนึงคนเดียว

ตอนที่สุมิตรกำลังจะเปิดอีกขวดนั้นธนภาคก็ยื่นมือออกไป

ห้ามเขาไว้

“ดื่มแบบนี้ไม่อยากจะมีชีวิตต่อแล้วยังไง?”

สุมิตรผลักธนภาคออกสีหน้านิ่งเรียบแล้วพูดว่า “ชีวิตฉัน มันไม่มีค่าถึงขนาดที่เหล้าขวดเดียวก็จัดการฉันได้ง่ายๆแล้วเห รอ?”

“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น

“พอแล้วไม่ต้องพูดมากนั่งลงแล้วดื่มกัน

พอพูดจบสุมิตรก็เทเหล้าใส่แก้วให้ธนภาค

ธนภาคมองขวดเหล้าที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดออกมาว่า “ถ้า อยากดื่มทำไมไม่ไปที่บ้านนายล่ะ?ฉันจำได้ว่านายไม่ได้ชอบ บาร์แบบนี้ซะเท่าไหร่น

สุมิตรดื่มต่อด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วตอบว่า “ก็เพราะว่า ไม่ชอบถึงจะได้รู้สึกไม่เมามากไงแถมจะได้ไม่ต้องถูกข้าศึก โจมตีได้ด้วย”

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคำพูดนายมันมีความหมายอะไร แอบแฝงอยู่”
สุมิตรเอียงหัวมองธนภาคอย่างสงสัยแล้วถามว่า นาย อยากจะพูดอะไรกันแน่?

ธนาคยักไหล่เบาๆแล้วตอบว่าไม่มีอะไรนายมีความสุข

ก็ดีแล้ว”

“ถ้าอยากให้ฉันมีความสุขก็รีบดื่มซะอย่ามัวชัดช้า

“ได้วันนี้ฉันจะดื่มเป็นเพื่อนนายจนสุดชีวิตเลยโอเคไหม?”

พอพูดจบธนภาคก็ยกดื่มหมดแล้วแล้วชูแก้วเปล่า ให้สุ

สุมิตรเหลือบมองธนภาคนิ่งๆไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วก็เท

มิตรดู

เหล้าเติมให้ธนภาค

พอดื่มยังงี้ต่อไปล่ะก็เดาว่าอีกไม่นานธนภาคคงจะเมา

เละเทะแน่นอน

เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองต้องถูกแบกกลับบ้านธนภาค พยายามโน้มน้าวเจ้าเพื่อนคนนี้

เขายกมือขึ้นมาตบไหล่สุมิตรเบาๆแล้วพูดว่า “พูดมาเถอะ ทะเลาะกับจันวิภาอีกแล้วใช่ไหมล่ะ”

“ฉันก็อยากจะให้เธอทะเลาะกับฉันอยู่หรอกน่าเสียดาย…

เขาหัวเราะ ราวแล้วก็ยกขึ้นดื่มต่อ

“ที่แท้ก็เดาไม่ผิดก็คงจะมีแต่เรื่องของจันวิภาที่ทำให้คุณสุ มิตรผู้ยิ่งใหญ่ต้องหอบความทุกข์มานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์
“พูดจาไร้สาระเยอะขนาดนี้สงสัยจะยังดื่มไม่พอใจสินะ พอสุมิตรพูดจบก็เอาขวดเหล้าไปวางไว้ตรงหน้าของธน ภาค นายจัดการเองแล้วกัน”

พระเจ้าดื่มแบบนั้นได้ตายกันพอดี

ธนภาคยิ้มอย่างขมขื่นแอบคิดเงียบๆว่าเขาพูดตรงไหน ผิดไปถึงกลายเป็นหาเรื่องให้ตัวเองมากกว่าเดิมล่ะเนี่ย?

“งงอะไร มสิ!”

ธนาคเทเหล้าใส่แก้วอย่างจำใจแต่เขาก็ยังไม่ดื่ม

“ถ้าให้ฉันพูดนะฉันว่านายบอกเหตุผลกับจันวิภาไปเถอะ ยังไงเธอก็เข้าใจนาย

สุมิตรยิ้มอย่างขมขื่นแล้วถามกลับว่า “เธอจะเข้าใจฉัน

หรือว่าจะยิ่งเข้าข้างเพื่อนกันแน่?

“ไม่ตั้งนายไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ของคู่ตัวเองเลยเห

สุมิตรเงียบสนิทไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“อย่าให้คนนอกเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกนาย สั่นคลอนได้ มันไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้นนายกับจันวิภาก็ผ่าน อะไรด้วยกันมามากมายน่าจะรู้จักกันและกันดี

“เพราะว่ารู้จักเธอดีไงถึงรู้ว่าเธอจะเลือกอะไร สุมิตร กอดอกแล้วพิงเก้าอี้เขาหรี่ตาลงพร้อมพูดว่า “ถ้าให้หลักฐานนั้นไปจะสามารถทําลายฉันได้แต่ก็จะทำให้เปมิศาได้สมหวังในสิ่ง ที่ปรารถนาเธอว่านวิภาจะเลือกใคร?

เรื่องนี้พูดออกไปไม่น่าจะดีเท่าไหร่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ