พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน373อบอวลไปด้วยความโรแมนติก



ตอน373อบอวลไปด้วยความโรแมนติก

ตอนที่ 373 อบอวลไปด้วยความโรแมนติก

แน่นอนว่าก็อาจจะเป็นต่อหน้าในวิภาเขาถึงได้เป็นแบบนี้

ตอนที่นึกถึงตรงนี้จนวิภาก็ใจเต้น เธอยังหวังว่าสุมิตรจะอ่อน

โยนกับเธอจริงๆ

ทั้งสองคนหยอกล้อกันบ้างบางครั้ง บางครั้งก็รู้สึกลึกๆว่า จนวิภารู้สึกอึดอัดใจ ขวดไวน์ที่ดื่มแลกกันระหว่างสองคนนั้น ค่อยๆมองเห็นก้นขวด

ลิมิตรของจันวิภาก็ไม่เลวเลย แต่วันนี้ไวน์นี้ดูเหมือนทำให้ คนเมาเป็นพิเศษ บวกกับบรรยากาศและแสงเทียนที่เหมือนดั่ง ฝัน จันวิภาก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมา

แต่ฉันวิภาชอบความรู้สึกมึนหัวแบบนี้มาก แบบนี้ เหมือนฉากและความรู้สึกอยู่ในฝันชัดเจนและสมจริงเพิ่มขึ้นไป อีก ในอารมณ์เมาก็เห็นสุมิตรทำให้เธอยิ้มได้

นราวิชญ์ก็ไม่สามารถให้เธอได้ สุพจน์ก็ไม่สามารถให้เธอ ได้ บนโลกนี้มีเพียงแต่สุมิตรเท่านั้นที่สามารถทำให้ใจของเธอ เก็บความรู้สึกนี้ได้

ตินเนอร์ใต้แสงเทียนของทั้งสองคนดำเนินมาจนถึงมือ จริงๆแล้วเวลาส่วนใหญ่ทั้งสองคนล้วนสะกดไว้ในอารมณ์ลึกซึ่งเท่านั้น

หลังจากมื้อเย็นผ่านไปก็มืดแล้ว สุมิตรดึงแขนของฉัน วิภาเดินออกไปข้างนอกร้านอาหาร พระจันทร์ในเมืองยังคง ส่องสว่าง กระทบตกลงมาทำให้เงาของทั้งสองคนดูยาวขึ้น

“เดินกันไปแบบนี้แหละ ข้างๆผม” จันวิภาที่ยิ้มอยู่ ก็จับ มือสุมิตร เหมือนกับเด็กผู้หญิงที่เขินอาย

แต่ในสายตาของสุมิตร จันวิภาในตอนนี้ยังดูสาวและน่า

รักกว่าเด็กผู้หญิงเสียอีก

“อือ” สุมิตรจับมือฉันวิภาไว้แน่น ทั้งสองคนเดินข้างกัน เดินกันไปบนถนนที่ไม่มีผู้คนรอบๆ

ไม่มีความเร่งรีบและวุ่นวายตอนกลางวัน เมืองในตอน

กลางคืนที่ดูเหมือนมีแค่พวกเขาสองคน

จันวิภารู้สึกว่าถูกสุมิตรจับมือตัวเองไว้เหมือนไปวางไว้ใจ กลางของโลก และเพราะแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ ทำให้ความ เขินอายของฉันวิภาหายไป เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขมา แทนที

ต้นไม้สูงสองข้างทางถนนขึ้นเงียบๆ ในเวลากลางคืน พวก มันเห็นทั้งสองคนที่มีความสุขที่สุดในโลกเดินเล่นอย่างไร้จุด

หมาย

แต่ว่าก็เงียบสงบตลอด จนวิภาและสุมิตรไม่ได้พูดอะไร ออกมา เวลานี้ได้แต่คิดถึงใจของอีกฝ่าย และบางครั้งก็ส่งกระแสจิตและหันมายิ้มให้กัน

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงไป ท้องฟ้ามืดมิด สายลมพัดมาปก

คลุมแสงจันทร์ ตามด้วยสายลมที่พัดมาจากบนท้องฟ้ากระทบ กับร่างกายของทั้งสองคน

“หนาวจังเลย” จนวิภากอดตัวเองอย่างไม่รู้ตัว “ดูเหมือน จะง่วงนิดหน่อยด้วย

สุมิตรมองไปรอบๆ ไม่ไกลจากนี้มีทะเลสาบ จึงดึงแขนจัน วิภาวิ่งไปถึงทะเลสาบ ทั้งสองคนนั่งริมฝั่งทะเลสาบ

สุมิตรถอดเสื้อผ้าตัวเองไปห่มให้จันวิภา ตามด้วยโอบ กอดเธอไว้แน่น

ความงามบนท้องฟ้า พระจันทร์ในตอนนี้ก็โผล่ออกมา จากก้อนเมฆ แสงจันทร์ที่ตกกระทบลงบนผิวน้ำทะเลสาบ สว่างสดใสเหมือนกระจก สายลมที่พัดมาลูกใหญ่ ดวงดาวนั้น สวยงามไม่เหมือนโลกมนุษย์

“ชีวิตนี่มันดีจริงๆ ได้โอบกอดคุณไปพร้อมกับดูโลกที่ สวยงาม สุมิตรเงยหน้าเหมือนกับพูดต่อท้องฟ้าถึงความสุข ของตัวเอง

สุมิตรในตอนนี้เหมือนเป็นคนที่ทำธุรกิจประสบความ สำเร็จ และเหมือนเด็กเล็กที่มองเห็นทะเลเป็นครั้งแรก

จนวิภาที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ฟังเสียงคลื่นทะเลสาบ ปิดตาแล้วพูดว่า “นี่เป็นความรู้สึกในใจที่ป่วยเป็นครั้งแรกของท่านสุมิตร ใช่ไหม”

สุมิตรพยักหน้า แล้วโน้มศีรษะลงมาหาจนวิภา แบบที่ดู น่าหลงใหล

“ไข่แล้ว ของบางอย่างเมื่อหายไปแล้วถึงจะรู้ว่ามีคุณค่า อย่างเช่นคุณ หรือชีวิต ผมรู้สึกถึงมันแล้ว ชีวิตคุณกับผมมี ความสำคัญในการใช้ชีวิตอยู่ต่อเหมือนกัน

จนวิภาแกล้งทำปาก พูดอย่างไม่ต้องคิดว่า “ว้าว ลึกซึ้ง อะไรเช่นนี้

สุมิตรไม่ชินจันวิภาในแบบนี้ จนวิภาก่อนหน้านี้ไม่ได้ แสดงอะไรแบบนี้ออกมา หรือผู้หญิงดุร้าย ตอนอารมณ์ดีก็จะมี ความเขินอายมากกว่า

ในสายตาสุมิตรมีความประหลาดใจ เขาบีบจมูกจนวิภา เบาๆ พูดว่า “ก็ลึกซึ้งแบบนี้ คุณมองผมเป็นโรคร้ายแรงก็คงจะ เป็นโรคซินโดรมจันวิภา คุณว่าผมเป็นแบบนั้นไหม

“คุณมันโง่มานานแล้ว ก็ถึงได้เป็นแบบนี้” จันวิภาขยับตัว ออกจากอ้อมกอดของสุมิตร รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกอด โลกไว้

เลย

“เอ้ สุมิตร” เสียงจันวิภาดูเหนื่อยเล็กน้อย

“หม” สุมอตรใช้มือขี่ม้วนผมในวิภาเล่น เล่นด้วยความ อ่อนโยน

จนวิภาถามว่า “วันนี้เป็นไม่กลับบ้านดีไหม ฉันอยากจะอยู่ที่นี่กับคุณ”

สุมิตรยิ้ม แล้วพูดว่า “งั้นคุณก็นอนไม่ได้ คุณนอนแล้วผม จะทำยังไงล่ะ หรือเราจะนั่งดูพระจันทร์ทั้งคืน

จันวิภาลุกยืนขึ้น พูดอย่างขอร้องว่า “แต่ฉันเหนื่อยแล้ว จนวิภาไม่มีโอกาสพูดเสร็จเพราะตอนเธอเพิ่งผงกหัวขึ้น

สายตาก็พบว่าปากของตัวเองถูกสุมิตรจูบไปแล้ว

สุมิตรกัดปากจั่นวิภาเบาๆ แล้วก็พูดเบาๆว่า “แสงจันทร์ ช่างสวยอะไรอย่างนี้ หรือมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

จันวิภาแค่รู้สึกว่าปากตัวเองร้อนหน่อยๆ ใจเต้นแรงหลาย ครั้ง แต่เธอก็รีบหลับตาอย่างเร็ว ทั้งสองมือก็จับไหล่กว้างของ สุมิตร

สุมิตรยิ่งจูบยิ่งเพลิน จับจันวิภาไว้ในอ้อมกอดแน่น แต่จูบ กลับอ่อนโยนและนิ่มนวล

ความแข็งแกร่งของผู้ชายบังจันวิภาไว้อยู่ เธอปล่อย ร่างกายตัวเองเพื่อรับความอ่อนโยนของสุมิตร

จมูกของสุมิตรยิ่งหนักขึ้น จนเปิดปากของจันวิภาได้ สําเร็จ ได้ยินเสียงจันวิกาลอดออกมา

แต่ถึงข้างทะเลสาบจะไม่มีคน สุมิตรก็ไม่กล้าทำอะไรไป มากกว่านี้ ได้แค่จูบจันวิภาอยู่แบบนี้

ในการจูบลึกซึ้งนี้ จันวิภาปล่อยตัวเองไป สุมิตรก็ยิ่งแสดงตัวตนของตัวเองมากขึ้น

หลังจากสิ้นสุดลงจนวิภากหน้าแดง ใจกลับยังเต้นแรง ตอนนี้ในใจของฉันวิภารู้สึกกระสับกระส่าย จะพูดยังไงก็ เหมือนมีหลายเส้น

สุมิตรมองที่จันวิภายิ้มแล้วพูดว่า “อ่า ไม่รู้สึกมีความสุขเห รอ ถ้าค่าที่คุณคิดอยู่ที่นี่ก็ได้นะ

จนวิภาชายตามองเขา ไม่โต้ตอบอะไร แต่กลับพูดบ่นว่า “ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนกวนเหรอ โรคจิต

สุมิตรหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว ผมเป็นโรคจิต หรือว่า คุณไม่ชอบ

ทั้งตัวของต้นวิภาก็ไปอยู่ในอ้อมกอดของสุมิตรทันที พูด

เสียงเบาว่า “ชอบคุณคนนี้เหลือเกิน จากนั้นก็ทิ้งตัวหลับไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ