พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน340เจรจา



ตอน340เจรจา

ตอนที่ 340 เจรจา

นี่ก็เลยทำให้การประชุมใหญ่ของธนภาคคนเดียวกับผู้ถือ หุ้นรายใหญ่อีกทั้งสามคนสิ้นสุดหลังจากประชุมเสร็จธนภาค เข้าไปนั่งดื่มกาแฟสองแก้วติดต่อกันในห้องทำงานของสุมิตร เพื่อเยียวยาจิตใจ

ธนภาคเอามือวางไปบนเก้าอี้ของสุมิตรแล้วเลื่อนของมา เบาๆและคิดว่าถ้าเป็นสุมิตรจะจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้า ได้ยังไง

ดูเหมือนว่าจะมีอยู่สองวิธีวิธีแรกก็คือหาคนที่อยู่เบื้องหลัง ให้ได้ข้อนี้ก่อนหน้านี้ธนภาคก็พยายามหาแล้วแต่ก็ไม่ได้อะไร มาสักอย่างวิธีที่สองเป็นวิธีที่ยากที่สุดคือหาผู้บริหารมาเจรจา ใหม่

ตอนนี้พอที่จะช่วยบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดได้แล้วตอนนี้มีแค่ ผู้บริหารที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

พอคิดมาถึงตรงนี้ธนภาคก็เรียกเลขานุการมากำชับว่า “ไม่ว่ายังก็ตามต้องติดต่อกับผู้บริหารให้ได้ ตอนนี้คำสั่งนี้เป็น งานที่สำคัญที่สุดถ้าเกิดทำไม่ได้พรุ่งนี้ก็ออกจากงานได้เลย

เลขานุการถูกธนภาคพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาหน้าเลยซีดไปเลยเกือบจะวิ่งออกจากห้องทํางานไปแล้ว

และในตอนนี้พนักงานบางคนของบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด เตรียมตัวออกจากงานแล้ว ในมือของเขายังถือเอกสารกองไว้ ด้วยเห็นได้ชัดเจนมาก

เป็นเพราะช่วงนี้บริษัทไม่สงบสุขข้อมูลกับเอกสารต่างๆ เคลื่อนไหวบ่อยและเยอะก็เลยไม่ค่อยมีคนระวังเขา

ถ้านิเวศน์อยู่ที่นี่เขาก็รู้แน่ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนกลั่นแกล้ง จันวิภาในครั้งก่อนและเขามีอีกหน้าที่หนึ่งก็คือเป็นคนที่สุพจน์ ส่งมาสอดแนบในบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด

นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาหลบซ่อนทำภารกิจและนำเอกสาร ทั้งหมด ที่มีมูลค่า” ออกไปด้วย

สุพจน์แทบจะไม่ได้วางมือจากเอกสารใดๆเลยตรวจสอบ อยู่ตลอดเวลาเขาเหมือนกับอ่านเรื่องตลกอยู่บางครั้งเห็น เนื้อหาบางอย่างก็ออกมา

เพราะว่าตอนนี้สุพจน์กำลังเล่นเกมส์อยู่เกมส์หนึ่งเป็น เกมส์เดียวกับสุมิตร

บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดถือว่าเป็นบริษัทใหญ่ทุกๆบริษัท ใหญ่จะมีรายรับไม่กระจ่างชัดเจนอยู่หรือไม่ก็เป็นเงินที่ไม่ใส สะอาดแต่ก็ไม่ว่าจะเป็นเงินจากไหนทุกๆรายการจะต้องบันทึก ไว้ในเอกสารเพื่อปิดหูปิดตาผู้อื่นโดยปกติแล้วจะทำเป็นตารางเอกาสารฉบับปลอม

สุพจน์เหมือนเล่นเกมส์มากและสองสามปีมานี้ก็จะหา บันทึกข้อมูลช่องว่างทางกฎหมายของสุมิตรเพราะทางด้านนี้ เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญพูดได้เลยว่าความคิดคล้ายกับสุมิตรม ากๆ ดังนั้นการหาได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ประธานสุพจน์ ท่านไม่จำเป็นต้องทำงานหนักอย่าง เรื่องพวกนี้ให้ลูกน้องจัดการก็เรียบร้อยแล้ว ลูกน้องไม่รู้ว่า พจน์สนใจเอกสารอันจืดชืดมากขนาดนี้และก็ยังยิ้มออกมาคน เดียวได้

สุพจน์ชำเลืองตามองลูกน้องแวบหนึ่งพร้อมกับส่ายหัว แล้วพูดว่า “คุณไม่เข้าใจหรอกว่านี่เป็นสงครามระหว่างผมกับ คนๆหนึ่ง”

ลูกน้องคนนั้นถือโอกาสถามว่า “เพื่อผู้หญิงคนเดียวหรอ

สุพจน์หยุดการกระทำของลูกน้อง โดยการเอาเอกสารโยน ไปที่เท้าของคนนั้นพูดด้วยเสียงที่น่ากลัวว่า “พูดมากไปก็ไม่ใช่ เรื่องดีนะ และก็ไม่ต้องคิดว่าตัวเองรู้จักผมดี

ไม่ต้องคิดว่าตัวเองรู้จักสุพจน์ดีนิเวศน์คิดว่าเป็นเรื่องผิด จันวิภาเองก็ทำผิดพลาดแบบนี้เหมือนกันพวกเขาก็ไม่คิดว่าสุ พจน์จะทำกับบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดเกินไป

ที่จริงแล้วตอนนี้ก็มาถึงตอนสุดท้ายคือถ้าอีกฝ่ายตายเรา

ก็ยังอยู่
ลูกน้องเห็นสุพจน์ โมโหก็เก็บเอกสารและทำท่าเคารพ พร้อมยื่นเอกสารคืนให้

สุพจน์ยื่นมือออกไปพร้อมพูดว่า “ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจ หรอก ให้คนของลูกน้องรีบทำงานให้เสร็จพยายามใช้เวลาให้ น้อยที่สุดในการเอาบันทึกนี้ไปเก็บเรียบร้อยให้ผ่านตาผม

สุพจน์แทบไม่อยากจะให้โอกาสบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด เลยตอนนี้เขาอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญเอาช่องว่าง กฎหมายจากบันทึกทั้งหมดบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดฟ้องศาล

ข้อบกพร่องพวกนี้ของบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดไม่เป็นอะไร มากอย่างมากก็แค่จ่ายเงินนิดหน่อยแต่ตอนนี้ไม่เหมือนแต่ ก่อนแล้วบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดขาดแคลนเงินทุนและก็ยังอยู่ใน ช่วงวิกฤตและก็ยังจะถูกสุพจน์ไปฟ้องศาลอีกเหมือนไฟไหม้ทั้ง หน้าบ้านและหลังบ้านพร้อมกันถ้ามีสุมิตรสองคนก็คงจะพลิก สถานการณ์กลับมาได้

สุพจน์ยิ้มเบาๆแบบมีเล่ห์ในออกมาสงครามครั้งนี้อีกไม่ นานก็จะจบแล้วและชัยชนะยังไงก็ต้องเป็นของเขา

ในแผนการของสุพจน์ดำเนินไปทีละขั้นตอนธนภาค กำลังหาทางกอบกู้สถานการณ์ทำให้ความมืดมนในใจของเขา กลับมามีแสงสว่างอีกครั้งเพราะผู้บริหารส่งข่าวตอบกลับมา แล้วว่าให้ธนภาคไปพบพวกเขาด้วยตัวเอง

ตอนเลขานุการบอกข่าวนี้ยังรู้สึกว่าดูไม่ค่อยปลอดภัย เพราะว่าตอนนี้ธนภาคเป็นคนของสุมิตรแล้วก็ดูแลจัดการบริษัทตะวันกรุ๊ปจํากัดอยู่แต่กลับถูกฝ่ายตรงข้ามเรียกตัวแบบ ไม่เกรงใจแม้แต่นิดเดียวที่ให้ธนาคไปพบพวกเขา

แต่ธนภาคก็ไม่สนใจได้ยิ้มหัวเราะออกมาคนเดียวไม่ว่าจะ พูดยังไงก็ตามยังไงก็จะไปพบเป็นตัวแทนการเจรจาก็พอจะต้อง เสียหายอะไรก็คงต้องดูสีหน้าของผู้บริหารก่อน

ธนภาคเดินทางไปประชุมกับผู้บริหารก่อนหน้าที่นัดไว้ที่ ประชุมเป็นห้องทำงานของบริษัทแห่งหนึ่งของผู้บริหาร

ธนภาคคิดว่าต่อไปจะต้องไปงานเลี้ยงต้อนรับที่วางฉาก สังหารแขกคนเดียวและจะพูดกับกลุ่มผู้บริหารปะทะอารมณ์กัน อย่างดุเดือดแต่ที่จริงแล้วครั้งนี้ที่เขาไปได้เจอแค่คนเดียว

เจริญศรี

ไม่เหมือนเจริญศรีที่เคยเห็นมาก่อนวันนี้เธอดูมีความสุข มากจะพูดให้ถูกก็คือดูมีความมั่นใจมาก

“โอ้ มีคุณแค่คนเดียวหรอคู่หมั้นของสุมิตรเรียกคุณแบบ นี้ได้ไหม

หลังจากที่เข้ามาห้องทำงานเรื่องในใจของธนภาคก็ยังไม่ แสดงออกมา

เจริญศรีเงยหน้าขึ้นมายิ้มแล้วพูดว่า “ปกติแล้วก็ไม่เคย เห็นว่าคุณจะเรียกฉันว่าคู่หมั้นของสุมิตร ทำไมหรอตอนนี้ ลำบากก็เลยเห็นว่าฉันสำคัญแล้วใช่ไหม

“ถ้าคุณเป็นตัวแทนของผู้บริหาร ธนภาคลุกขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจังตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะใช้อารมณ์ให้

เจริญศรีใช้มือพันผมที่อยู่ข้างแก้มตัวเองเล่นไปด้วยแล้ว ยิ้มไปด้วยพร้อมพูดว่า “ไม่บังเอิญจริงๆ ฉันนี่ล่ะประชุมครั้งนี้ก็ หมายถึงฉันนี่ล่ะ”

“จริงๆ แล้วการถอนเงินของกลุ่มผู้บริหารก็เป็นคุณที่ทำ ใช่ไหมคุณที่เป็นคู่หมั้นก็มีความคิดแทนสุมิตรนะ”

ธนภาคถอนหายใจออกมาเชือกหนึ่ง

“คุณไม่ต้องยั่วอารมณ์ฉัน ที่ฉันทำแบบนี้ก็แค่อยากจะให้ คนบางคนเข้าใจว่าฉันมีคุณสมบัติที่จะอยู่กับสุมิตรแล้วผู้หญิง คนนั้นจะมานับว่าเป็นอะไรล่ะ

ใบหน้าของเจริญศรีอันสวยงามก็เปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม แบบไม่มีอะไรเทียบได้พอนึกถึงฉันวิภาใจของเธอก็โกรธอย่าง

รุนแรง

ที่จริงการคาดเดาของธนภาคก็ถูกว่าจุดมุ่งหมายของ เจริญศรีไม่ใช่บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดเพราะว่าทำแบบนี้ทำให้ เธอได้ประโยชน์อะไรจริงๆแล้วเธอแค่อยากยืมบริษัทตะวันกรุ๊ป จํากัด จัดจันวิภาออกไป

ธนภาคพูดว่า “คุณทำเกินไปแล้ว คุณเองก็แต่งงานกับสุ มิตรตั้งนานแล้วแต่จันวิภาไม่ได้เป็นอะไรเลยนะ

ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ได้คิดแบบนี้แต่ธนภาคก็ถือโอกาสพูด

กับเจริญศรีไป
ดูสีหน้าคนอื่นแล้วก็จริงที่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ