พิชิตใจนายปีศาจ

ตอนที่ 64 ความอับอาย และเดียวตาย



ตอนที่ 64 ความอับอาย และเดียวตาย

เมื่อเถ้าแก่เนี้ยกวาดสายตามองจันวิถา สุมิตรก็ได้ไปเสีย

แล้ว

เถ้าแก่เนี้ยนั่งลงข้างๆจันวิภา มองจันวิภาใกล้ๆอย่างไร้ซึ่ง มารยาท จากนั้นจึงยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “เป็นคนที่สวยจริงๆ”

จันวิภาเครียดขึ้นมาทันที พูดขึ้นอย่างรีบร้อน “สุมิตรได้ พูดอะไรกับคุณไปหรือเปล่า?”

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “ดูเหมือนว่าเธอจะถูกเจ้านายขาย ให้มาเป็นเจ้าหญิงของที่นี่แล้ว แต่ตัวเองกลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะ

ไรเลย ฮิฮิ! ”

ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของจันวิภาก็ได้ตึงเครียดขึ้นมาทันที เธอพูดอย่างหวาดผวา “คุณพูดอะไรนะ? เป็นเจ้าหญิง?”

เถ้าแก่เนี้ยหลี่ตาลง แล้วพยักหน้า

สติของจันวิภาในเวลานี้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที ลุกขึ้น ยืนเตรียมที่จะพุ่งออกไปนอกประตู

คราวก่อนที่สุมิตรเอาเธอไปประมูลขายก็น่าเวทนามากอยู่ แล้ว ครั้งนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะให้เธอเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้จันวิภา อดใจรอไม่ไหวที่จะวิ่งกลับไปหาสุมิตรแล้วหั่นเข้าเสียให้ออก เป็นชิ้นๆ

แต่ทว่าเธอกลับไม่มีโอกาสเอาเสียเลย ตอนที่ 64 ความอับอาย และเดียวตาย

เมื่อเถ้าแก่เนี้ยกวาดสายตามองจันวิถา สุมิตรก็ได้ไปเสีย

แล้ว

เถ้าแก่เนี้ยนั่งลงข้างๆจันวิภา มองจันวิภาใกล้ๆอย่างไร้ซึ่ง มารยาท จากนั้นจึงยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “เป็นคนที่สวยจริงๆ”

จันวิภาเครียดขึ้นมาทันที พูดขึ้นอย่างรีบร้อน “สุมิตรได้ พูดอะไรกับคุณไปหรือเปล่า?”

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “ดูเหมือนว่าเธอจะถูกเจ้านายขาย ให้มาเป็นเจ้าหญิงของที่นี่แล้ว แต่ตัวเองกลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะ

ไรเลย ฮิฮิ! ”

ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของจันวิภาก็ได้ตึงเครียดขึ้นมาทันที เธอพูดอย่างหวาดผวา “คุณพูดอะไรนะ? เป็นเจ้าหญิง?”

เถ้าแก่เนี้ยหลี่ตาลง แล้วพยักหน้า

สติของจันวิภาในเวลานี้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที ลุกขึ้น ยืนเตรียมที่จะพุ่งออกไปนอกประตู

คราวก่อนที่สุมิตรเอาเธอไปประมูลขายก็น่าเวทนามากอยู่ แล้ว ครั้งนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะให้เธอเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้จันวิภา อดใจรอไม่ไหวที่จะวิ่งกลับไปหาสุมิตรแล้วหั่นเข้าเสียให้ออก เป็นชิ้นๆ

แต่ทว่าเธอกลับไม่มีโอกาสเอาเสียเลย ชายชุดดำหลายคนเข้ามาขวางกั้นด้านหน้าของเธอเอาไว้ ภายใต้คำสั่งของเถ้าแก่เนี้ย เธอจึงถูกผลักกลับมาตรงโซฟา

จันวิภานั่งหดตัวจนแน่นอยู่บนโซฟา กอดแขนทั้งสองข้าง จนแน่นเพื่อป้องกันตัวเอง กอดแขนทั้งสองข้างของตนเองจน แน่นแล้วมองชายชุดดำพวกนั้นอย่างระมัดระวัง

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “คุณจันวิภา คุณจะหนีไปไหนไม่ได้ ทั้งนั้น ไม่งั้นฉันจะรับผิดชอบไม่ไหวเอา”

จันวิภาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเธอทำอย่างนี้มันผิด กฎหมายนะ ฉันจะไปแจ้งความ”

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “แจ้งความ? คุณจันวิภาคุณอย่ามา พูดเรื่องตลกหน่อยเลย ที่นี่เดิมทีมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่สะอาด อะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว”

จันวิภาหายใจถี่ขึ้น ร่างกายของเธอสั่นเทา และไม่รู้ว่าจะ ต้องทำอย่างไรต่อไปดี

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มอย่างมีความหมายแอบแฝง “ที่นี่ คุณ สามารถทำตามใจตนเองได้ แอบเอาผู้ชายมาซ่อนไว้อยู่ตลอด ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากใจหรือไงกัน?”

จันวิภาโกรธขึ้นมา จึงตระโกนด่าออกไปทันที “ยายแก่ หุบปากเสียที เธอคิดว่าทุกคนเขาจะมีความคิดเหมือนเธอกัน หรือไง?”

เมื่อเถ้าแก่เนี้ยเห็นจันวิภาไม่ไว้หน้ากัน ทั้งยังจะด่าทอกัน อีก ทันใดนั้นเองจึงตบลงบนที่ใบหน้าที่บอบบางของเธอ ชายชุดดำหลายคนเข้ามาขวางกั้นด้านหน้าของเธอเอาไว้ ภายใต้คำสั่งของเถ้าแก่เนี้ย เธอจึงถูกผลักกลับมาตรงโซฟา

จันวิภานั่งหดตัวจนแน่นอยู่บนโซฟา กอดแขนทั้งสองข้าง จนแน่นเพื่อป้องกันตัวเอง กอดแขนทั้งสองข้างของตนเองจน แน่นแล้วมองชายชุดดำพวกนั้นอย่างระมัดระวัง

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “คุณจันวิภา คุณจะหนีไปไหนไม่ได้ ทั้งนั้น ไม่งั้นฉันจะรับผิดชอบไม่ไหวเอา”

จันวิภาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเธอทำอย่างนี้มันผิด กฎหมายนะ ฉันจะไปแจ้งความ”

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “แจ้งความ? คุณจันวิภาคุณอย่ามา พูดเรื่องตลกหน่อยเลย ที่นี่เดิมทีมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่สะอาด อะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว”

จันวิภาหายใจถี่ขึ้น ร่างกายของเธอสั่นเทา และไม่รู้ว่าจะ ต้องทำอย่างไรต่อไปดี

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มอย่างมีความหมายแอบแฝง “ที่นี่ คุณ สามารถทำตามใจตนเองได้ แอบเอาผู้ชายมาซ่อนไว้อยู่ตลอด ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากใจหรือไงกัน?”

จันวิภาโกรธขึ้นมา จึงตระโกนด่าออกไปทันที “ยายแก่ หุบปากเสียที เธอคิดว่าทุกคนเขาจะมีความคิดเหมือนเธอกัน หรือไง?”

เมื่อเถ้าแก่เนี้ยเห็นจันวิภาไม่ไว้หน้ากัน ทั้งยังจะด่าทอกัน อีก ทันใดนั้นเองจึงตบลงบนที่ใบหน้าที่บอบบางของเธอ จันวิภารู้สึกแต่เพียงความปวดแสบปวดร้อนที่อยู่บน ใบหน้า ใบหน้าหันไปข้างๆ

เถ้าแก่เนี้ยพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “นางเด็กปากไม่สิ้น กลิ่นน้ำนมคนนี้ ที่นี่ยังไม่มีใครกล้าพูดกับฉันขนาดนี้ นี่แกไป กินดีหมีมาหรือไงหะ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?”

พูดจบ เถ้าแก่เนี้ยก็ได้ส่งสายตาไปให้เหล่าบอดี้การ์ดชุด

ดำ

เหล่าบอดี้การ์ดเข้าใจได้ทันที ดึงมือของจันวิภาเอาไว้ อย่างสุดกำลัง พาเธอไปเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ย

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มออกมาอย่างทะนงตน จุดบุหรี่ที่อยู่ในมือ แล้วสูบเข้าไปเบาๆ จากนั้นจึงพ่นควันออกไปที่ใบหน้าของจัน

วิภา

จันวิภาไอออกมาอย่างรุนแรง แต่พอเธอเคลื่อนไหว ก็ได้ ถูกมือที่ใหญ่คู่นั้นดึงผมของเธอเอาไว้อย่างรุนแรง จนแทบที่จะ ทำให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเธอเล็ดออกมา

เถ้าแก่เนี้ยใช้มือไปลูบแก้มที่ราบเรียบขาวๆของจันวิภา แล้วค่อยๆ ใช้นิ้วมือม้วนปลายผมของเธอเล่นอีกด้วย

เธอเข้ามาใกล้ใบหน้าของจันวิภา ทำท่าเหมือนจะแสร้ง ทำเป็นสงสารจันวิภา ถอนหายใจออกมาแล้วพูด “นี่คุณยาย ที่ นี่มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลิศ แต่เมื่อมาที่นี่แล้ว วิธีที่ใช้ในข้างนอก ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

จันวิภากัดฟันอย่างรุนแรง ร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย จันวิภารู้สึกแต่เพียงความปวดแสบปวดร้อนที่อยู่บน ใบหน้า ใบหน้าหันไปข้างๆ

เถ้าแก่เนี้ยพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “นางเด็กปากไม่สิ้น กลิ่นน้ำนมคนนี้ ที่นี่ยังไม่มีใครกล้าพูดกับฉันขนาดนี้ นี่แกไป กินดีหมีมาหรือไงหะ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?”

พูดจบ เถ้าแก่เนี้ยก็ได้ส่งสายตาไปให้เหล่าบอดี้การ์ดชุด

ดำ

เหล่าบอดี้การ์ดเข้าใจได้ทันที ดึงมือของจันวิภาเอาไว้ อย่างสุดกำลัง พาเธอไปเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ย

เถ้าแก่เนี้ยยิ้มออกมาอย่างทะนงตน จุดบุหรี่ที่อยู่ในมือ แล้วสูบเข้าไปเบาๆ จากนั้นจึงพ่นควันออกไปที่ใบหน้าของจัน

วิภา

จันวิภาไอออกมาอย่างรุนแรง แต่พอเธอเคลื่อนไหว ก็ได้ ถูกมือที่ใหญ่คู่นั้นดึงผมของเธอเอาไว้อย่างรุนแรง จนแทบที่จะ ทำให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเธอเล็ดออกมา

เถ้าแก่เนี้ยใช้มือไปลูบแก้มที่ราบเรียบขาวๆของจันวิภา แล้วค่อยๆ ใช้นิ้วมือม้วนปลายผมของเธอเล่นอีกด้วย

เธอเข้ามาใกล้ใบหน้าของจันวิภา ทำท่าเหมือนจะแสร้ง ทำเป็นสงสารจันวิภา ถอนหายใจออกมาแล้วพูด “นี่คุณยาย ที่ นี่มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลิศ แต่เมื่อมาที่นี่แล้ว วิธีที่ใช้ในข้างนอก ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว

จันวิภากัดฟันอย่างรุนแรง ร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างยังคงมีความดื้อดึงอยู่ สิ่งนี้ทำให้เถ้าแก่เนี้ย ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ผู้หญิงที่สวยอย่างนี้ ถ้าหากว่าเธอเป็น เด็กดีแล้วเชื่อฟัง บางทีอาจจะซวยน้อยลงก็ได้ เธอว่าจริงมั้ย?”

จันวิภายิ้มเยาะเย้ย “สวะ! ”

ครั้งนี้เถ้าแก่เนี้ยไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มหัวเราะร่าออกมา เธอพยักหน้าแล้วพูด “ไม่ผิด ที่นี่ ผู้หญิงก็เป็นได้แค่สวะ แต่ว่า นะ เธอคิดว่าเธอมีดีอะไร? เจ้านายสุมิตรทิ้งเธอไว้ที่นี่ และให้ โอกาสแก่เธอ เรื่องที่ควรทำก็คือ…”

เถ้าแก่เนี้ยพูดยังไม่ทันจบ เสียงของจันวิภาก็ได้ดังขึ้นมา “อย่าได้ฝันเลย ยัยหมูแก่!

เสียงของจันวิภาดังมาก แต่มันกลับแหบแห้ง เสียงเช่นนั้น ที่ได้ส่งผ่านไปถึงหูของทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบ แม้แต่เถ้า แก่เนี้ยเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

เธอโกรธเสียจนตัวบิด หยิบแก้วไวน์ แล้วสาดไวน์แดงทั้ง แก้วไปที่หน้าของจันวิภา

“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย นางร่าน เธอจะล่วงเกินใครที่นี่ก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉัน คนที่ทำให้ฉันไม่พอใจ มันจะอยู่ไม่สุขอีกต่อไป” พูดจบ เธอก็หันหน้าไปพูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “เอาคุณจัน วิภาไปขังไว้ที่ห้องด้านหลัง แล้วให้สมองเธอตื่นขึ้นมาสัก หน่อย! ”

ดังนั้น จันวิภาจึงถูกผู้ชายสองสามคนลากไปยังห้องเล็กที่ อยู่ทางด้านหลังของบาร์ นัยน์ตาทั้งสองข้างยังคงมีความดื้อดึงอยู่ สิ่งนี้ทำให้เถ้าแก่เนี้ย ไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ผู้หญิงที่สวยอย่างนี้ ถ้าหากว่าเธอเป็น เด็กดีแล้วเชื่อฟัง บางทีอาจจะซวยน้อยลงก็ได้ เธอว่าจริงมั้ย?”

จันวิภายิ้มเยาะเย้ย “สวะ! ”

ครั้งนี้เถ้าแก่เนี้ยไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มหัวเราะร่าออกมา เธอพยักหน้าแล้วพูด “ไม่ผิด ที่นี่ ผู้หญิงก็เป็นได้แค่สวะ แต่ว่า นะ เธอคิดว่าเธอมีดีอะไร? เจ้านายสุมิตรทิ้งเธอไว้ที่นี่ และให้ โอกาสแก่เธอ เรื่องที่ควรทำก็คือ…”

เถ้าแก่เนี้ยพูดยังไม่ทันจบ เสียงของจันวิภาก็ได้ดังขึ้นมา “อย่าได้ฝันเลย ยัยหมูแก่!

เสียงของจันวิภาดังมาก แต่มันกลับแหบแห้ง เสียงเช่นนั้น ที่ได้ส่งผ่านไปถึงหูของทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบ แม้แต่เถ้า แก่เนี้ยเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

เธอโกรธเสียจนตัวบิด หยิบแก้วไวน์ แล้วสาดไวน์แดงทั้ง แก้วไปที่หน้าของจันวิภา

“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย นางร่าน เธอจะล่วงเกินใครที่นี่ก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉัน คนที่ทำให้ฉันไม่พอใจ มันจะอยู่ไม่สุขอีกต่อไป” พูดจบ เธอก็หันหน้าไปพูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “เอาคุณจัน วิภาไปขังไว้ที่ห้องด้านหลัง แล้วให้สมองเธอตื่นขึ้นมาสัก หน่อย! ”

ดังนั้น จันวิภาจึงถูกผู้ชายสองสามคนลากไปยังห้องเล็กที่ อยู่ทางด้านหลังของบาร์ ภายในห้องเล็กนั้นมีดมิดเป็นอย่างมาก ไม่มีแสงไฟ ไม่มี เก้าอี้ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง หลังจากที่จันวิภาถูกลากเข้าไป ข้างในแล้ว แม้แต่เสียงเอะอะที่อยู่ทางด้านนอกก็ไม่สามารถที่ จะได้ยิน

ห้องเล็กๆที่มืดมิดคับแคบเป็นอย่างมาก จันวิภาเดินไป เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็ชนเข้ากับผนังที่เย็นเฉียบเสียแล้ว เธอจึง ทำได้เพียงแค่นั่งลงไป แล้วใช้มือโอบกอดตัวเองเอาไว้ สั่นเทา ไม่หยุดหย่อน ไม่รู้เป็นเพราะว่ามันน่าหวาดหวั่น หรือเป็นเพราะ ความหนาวเย็นกันแน่

“สุมิตร แกมันสารเลว วิปริต ป่าเถื่อน ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะ ทำ ให้แกขายขี้หน้า และฉันจะแก้แค้น ทีละอย่างๆ แน่นอน! ! ! ”

ภายในความนึกคิดนี้ ทันใดนั้นเองจันวิภาก็นึกถึงนรา วิชญ์ขึ้นมาได้ทันที

ถ้าเขาอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว แต่ทว่า สุดท้ายแล้วนี่ก็แค่เป็นความ

ฝันอยู่

จันวิภาหลับลงไปอย่างซึมกะทือ ทันใดนั้นเองจึงถูกความ เย็นปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หนาวเสียจนเธอสั่นสะท้าน

เป็นเช่นนี้ต่อไปมันไม่ใช่หนทางที่ดีแน่ จันวิภารู้สึกว่าถ้า หากต่อต้านอยู่ตลอดล่ะก็ ร่างกายของเธอก็จะต้องรับการทน ทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน

เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงมีแผนการในใจ รีบเดินไปคลำหา ภายในห้องเล็กนั้นมีดมิดเป็นอย่างมาก ไม่มีแสงไฟ ไม่มี เก้าอี้ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง หลังจากที่จันวิภาถูกลากเข้าไป ข้างในแล้ว แม้แต่เสียงเอะอะที่อยู่ทางด้านนอกก็ไม่สามารถที่ จะได้ยิน

ห้องเล็กๆที่มืดมิดคับแคบเป็นอย่างมาก จันวิภาเดินไป เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็ชนเข้ากับผนังที่เย็นเฉียบเสียแล้ว เธอจึง ทำได้เพียงแค่นั่งลงไป แล้วใช้มือโอบกอดตัวเองเอาไว้ สั่นเทา ไม่หยุดหย่อน ไม่รู้เป็นเพราะว่ามันน่าหวาดหวั่น หรือเป็นเพราะ ความหนาวเย็นกันแน่

“สุมิตร แกมันสารเลว วิปริต ป่าเถื่อน ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะ ทำ ให้แกขายขี้หน้า และฉันจะแก้แค้น ทีละอย่างๆ แน่นอน! ! ! ”

ภายในความนึกคิดนี้ ทันใดนั้นเองจันวิภาก็นึกถึงนรา วิชญ์ขึ้นมาได้ทันที

ถ้าเขาอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว แต่ทว่า สุดท้ายแล้วนี่ก็แค่เป็นความ

ฝันอยู่

จันวิภาหลับลงไปอย่างซึมกะทือ ทันใดนั้นเองจึงถูกความ เย็นปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หนาวเสียจนเธอสั่นสะท้าน

เป็นเช่นนี้ต่อไปมันไม่ใช่หนทางที่ดีแน่ จันวิภารู้สึกว่าถ้า หากต่อต้านอยู่ตลอดล่ะก็ ร่างกายของเธอก็จะต้องรับการทน ทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน

เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงมีแผนการในใจ รีบเดินไปคลำหา ประตูของห้องเล็กๆ ที่มีตมิดทันที แล้วใช้ฝ่ามือทุบบานประตู อย่างแรง “มีใครอยู่มั้ย มีใครอยู่มั้ย เปิดประตู เปิดประตูที่! ปล่อยฉันออกไป! ”

ทันใดนั้นเองจึงมีรูเล็กๆปรากฏขึ้นมาที่ประตู ดวงตาที่ เยาะเย้ยคู่หนึ่งปรากฏออกมาให้เห็นอยู่ที่นั่น

“จะเรียกอะไรนักหนา อยากตายหรือไง” เสียงที่หยาบ คายของคนๆนั้นเงียบสงัดลง แล้วรูโหว่เล็กๆนั่นก็ถูกปิดลงไป ในทันที

จันวิภาตกตะลึง แล้วใช้แรงทุบประตูอีกครั้ง “ฉันอยาก

ออกไป”

“คุณจันวิภา คุณแน่ใจหรอว่าคุณจะออกไป?” ช่องประตู เล็กๆถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของผู้ชายที่อยู่ด้านนอกดังเข้า มาข้างใน “คุณก็น่าจะรู้นี้ ถ้าหากออกไปข้างนอกมันจะหมาย ถึงอะไร”

“ฉันอยากจะออกไป เรียกเธอมาหาฉันที” จันวิภาพูด

พร้อมกับทุบประตู

ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ช่องประตูเล็กๆ ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แล้วพูด “คุณจันวิภา คุณรอสักประเดี๋ยวแล้วกัน”

เพียงไม่นาน จันวิภาก็ได้มาเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ยอีก ครั้ง ครั้งนี้ประตูได้ถูกเปิดออกมาแล้ว

กลิ่นอายที่แปลกประหลาดและเสียงเพลงที่หนวกหูของ ในต์คลับทะลักพรั่งพรูเข้ามาทันที หลังจากที่จันวิภาคิตถึงเรื่อง ประตูของห้องเล็กๆ ที่มีตมิดทันที แล้วใช้ฝ่ามือทุบบานประตู อย่างแรง “มีใครอยู่มั้ย มีใครอยู่มั้ย เปิดประตู เปิดประตูที่! ปล่อยฉันออกไป! ”

ทันใดนั้นเองจึงมีรูเล็กๆปรากฏขึ้นมาที่ประตู ดวงตาที่ เยาะเย้ยคู่หนึ่งปรากฏออกมาให้เห็นอยู่ที่นั่น

“จะเรียกอะไรนักหนา อยากตายหรือไง” เสียงที่หยาบ คายของคนๆนั้นเงียบสงัดลง แล้วรูโหว่เล็กๆนั่นก็ถูกปิดลงไป ในทันที

จันวิภาตกตะลึง แล้วใช้แรงทุบประตูอีกครั้ง “ฉันอยาก

ออกไป”

“คุณจันวิภา คุณแน่ใจหรอว่าคุณจะออกไป?” ช่องประตู เล็กๆถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของผู้ชายที่อยู่ด้านนอกดังเข้า มาข้างใน “คุณก็น่าจะรู้นี้ ถ้าหากออกไปข้างนอกมันจะหมาย ถึงอะไร”

“ฉันอยากจะออกไป เรียกเธอมาหาฉันที” จันวิภาพูด

พร้อมกับทุบประตู

ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ช่องประตูเล็กๆ ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แล้วพูด “คุณจันวิภา คุณรอสักประเดี๋ยวแล้วกัน”

เพียงไม่นาน จันวิภาก็ได้มาเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ยอีก ครั้ง ครั้งนี้ประตูได้ถูกเปิดออกมาแล้ว

กลิ่นอายที่แปลกประหลาดและเสียงเพลงที่หนวกหูของ ในต์คลับทะลักพรั่งพรูเข้ามาทันที หลังจากที่จันวิภาคิตถึงเรื่อง ในต์คลับทะลักพรั่งพรูเข้ามาทันที หลังจากที่จันวิภาคิดถึงเรื่อง ที่จะต้องทำแล้ว ในใจก็เกิดความรู้สึกที่บ้าคลั่งขึ้นมาอยู่นิด หน่อย

ตบหน้าอกของตนเอง เธอแหงนหน้าขึ้นมอง จึงได้เห็นเถ้า แก่เนี้ยยืนพิงประตูแล้วกำลังกอดอกอยู่ คิ้วทั้งสองกระดกขึ้น ด้วยความประหลาดใจ แล้วหัวเราะขึ้นมา “โฮ่ คุณจันวิภา ไม่รู้ ว่าคุณตามฉันมาเพราะมีอะไรจะสั่งฉันอย่างนั้นหรอ?”

จันวิภาระงับแรงกระตุ้นที่จะด่าเธอเอาไว้ได้ แล้วพูดออก ไปอย่างสงบนิ่ง “ฉันคิดได้แล้ว เธอจัดการได้ตามใจชอบเลย” ในต์คลับทะลักพรั่งพรูเข้ามาทันที หลังจากที่จันวิภาคิดถึงเรื่อง ที่จะต้องทำแล้ว ในใจก็เกิดความรู้สึกที่บ้าคลั่งขึ้นมาอยู่นิด หน่อย

ตบหน้าอกของตนเอง เธอแหงนหน้าขึ้นมอง จึงได้เห็นเถ้า แก่เนี้ยยืนพิงประตูแล้วกำลังกอดอกอยู่ คิ้วทั้งสองกระดกขึ้น ด้วยความประหลาดใจ แล้วหัวเราะขึ้นมา “โฮ่ คุณจันวิภา ไม่รู้ ว่าคุณตามฉันมาเพราะมีอะไรจะสั่งฉันอย่างนั้นหรอ?”

จันวิภาระงับแรงกระตุ้นที่จะด่าเธอเอาไว้ได้ แล้วพูดออก ไปอย่างสงบนิ่ง “ฉันคิดได้แล้ว เธอจัดการได้ตามใจชอบเลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ