พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน374ฝันหวาน



ตอน374ฝันหวาน

ตอนที่ 374 ฝันหวาน

สุมิตร หัวเราะอย่างดัง (ฮ่า ฮ่า ฮ่า) พูดว่า ” ใช่แล้ว ฉัน นี่แหละบ้ากาม แล้วเธอไม่ชอบหรือ? “

ร่างกายจนวิภาก็ซบลงไปที่อ้อมอกของ สุมิตร ไปทันที และพูดเบาๆว่า “ชอบเธอที่เป็นแบบนี้แหละ และก็ทิ้งสุมิตรคน เดียว แล้วก็หลับไป

จนวิภา จำไม่ได้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ฝันแล้วทำให้ จิตใจสบายใจไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้ที่อยู่เคียงข้างกายของ มิตรหรือว่าอยู่จากเขาสมัยที่อาศัยอยู่อเมริกากปีก่อน ภาพ ในความฝันของเขาเงียบสงัดและหนาวเหน็บ ไม่ใช่ความฝันที่ เห็นความเลวร้ายของสุมิตร แต่เป็นความฝันของฉันที่สูญเสีย คุณพ่อไป

แต่ว่าเมื่อคืน จันวิภา กลับฝันแล้วสบายใจและอบอุ่น ความงดงามนี้ทำให้ตัวเขาเอง ไม่อยากจะตื่นขึ้นมาเลย

ในความฝัน จันวิภาฝันเห็นตัวเองและสุมิตรรวมตัวกันใน บ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง แน่นอนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ นิเวศน์ผู้น่ารัก อยู่ด้วยกันสามคนอย่างมีความสุข

นั่นเป็นสิ่งที่จันวิภารอคอยมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เขาถึงใต้ยิ้มตลอดทั้งคืน ดูแล้วมีความสุขสุดๆ

แต่ว่าสุมิตรขมขื่นยิ่งกว่า เสื้อคลุมของเขาถูกนำไปให้จัน

วิภา สวมไว้กันหนาวตลอดทั้งคืน และยังถูกจัน ภาสวมกอด จนไม่สามารถขยับตัวได้ เขายังจะต้องมองดู จันวิภา ยิ้มให้ แบบไม่รู้ว่าคิดอะไร

สุมิตรประหลาดใจว่าเธอยิ้มอะไร แต่ว่าตลอดทั้งคืนเขา ไม่กล้าที่จะเรียกให้ จันวิภา ตื่นขึ้นมา

การนอนหลับของฉันวิภางามดุจความสงบของดอกบัว มี อยู่หลายครั้งที่สุมิตรอยากจะปลุกขึ้นมาแต่ก็ไม่กล้าปลุกเธอ ทำได้เพียงรอแบบกลัดกลุ้ม แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วดวงอาทิตย์ได้ ขึ้นมานานแล้ว คนมาวิ่งที่ขอบสระยิ่งมากขึ้น เขากอดจนวิภา ที่นอนหลับอยู่ตลอดที่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องในตอนนี้

จันวิภางเสียงยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง สุมิตรจึงบีบจมูกจันวิภา ทันที จันวิภาหายใจไม่ออก จึงลืมตาตื่นขึ้นมา

จนวิภา : “ไอ้บ้า คุณจะทำอะไร

เช้านี้ ในวิภาขยี้ตาเบาๆ ต่อต้านด้วยความไม่พอใจอย่าง

จนวิภา : “คนเค้าจะฝันหวานหน่อยก็ไม่ได้

สุมิตร จอมใจขึ้นไปบนฟ้าที่แสงอาทิตย์ส่องอยู่ พูดด้วย ความไม่พอใจว่า

สุมิตร : “คุณจันวิภา กรุณาดูด้วยว่าตอนนี้มันเข้าแล้ว

มากเปล่า “

แสงอาทิตย์แยงที่ตาจันวิภา ก็เลยหรี่มองรอบทั้งสี่ด้าน พบว่ารอบสระมีผู้คนเต็มไปหมดแล้ว ก็เลยลุกออกมาจากอ้อม กอดของสุมิตร ใช้แรงเป่าผมที่ปิดหน้า ยิ้มและพูดว่า

จนวิภา : “ไอหย่า นานแล้วที่ไม่ได้หลับสบายแบบนี้

จนวิภาออกแรงยึดเอว หลังจากเสร็จแล้วก็ตั้งใจคุยกับ มิตร ดูแล้วเหมือนกับว่าผ่านไปคืนนึงดูแก่ขึ้นมาหลายปี แล้ว ยังมีขอบตาสีดำอีก

จนวิภา” “อืม.. ทั้งคืนไม่ได้นอนเลยใช่ปะ

จนวิภามีอาการตกใจอย่างเห็นชัด

สุมิตร ถอนหายใจและบอกว่า “ในที่สุดคุณเองก็คิดถึงจุด นี้ หากว่าคุณไม่ได้พูดถึง ฉันเป็นลูกผู้ชายยังไงก็ไม่บอกเรื่องนี้ จากปากของฉันหรอก ฉันนอกจากจะไม่ได้นอนทั้งคืนแล้ว ยัง ไม่สามารถขยับได้ กลัวว่ารบกวนฝันหวานของคุณ คุณนอน หลับอย่างกับหมูนอนตายนั้นแหละ

จนวิภา ไม่เพียงแต่ไม่ปลอบใจแล้วยังหัวเราะ (ฮ่า ฮ่า)

“สมควร”

ก็ชัดเจนอยู่ว่าสุมิตรนั้นสมควร ยังไงๆ เมื่อคืนเขาก็ได้เอา

เปรียบ จันวิภาอยู่ดีมิเช่นนั้นจะมีบทสรุปแบบนี้ได้อย่างไรโลก ใบนี้ไม่มีอะไรที่สูญเปล่าหรอก สุมิตรส่ายหน้า พูดด้วยกลุ้มใจ สุมิตร : “เรื่องเหล่านี้ช่างมันเถอะ ที่สำคัญคือคุณไม่หยุดยิ้มเลย ถ้าหากว่าสมัยที่ฉันยังวัยรุ่นอยู่ล่ะก็ ฉันคงปลุกคุณให้ ตื่นตั้งแต่เนิ่นๆแล้วละ” หลังจากนั้นก็ถามดูว่าฝันอะไร

จนวิภาเพิ่งจะนึกถึงขึ้นมา นึกถึงภาพในฝันของเมื่อคืน จึง ดีใจจนอมยิ้มขึ้นมาเลย ปล่อยให้สุมิตรยืนงงอยู่เฉยๆคนเดียว

สุมิตร : ฮัลโหล!! สรุปว่าฝันอะไร ?

สุมิตรขมวดคิ้วมากองไว้ที่เดียว มองดูพฤติกรรมของจัน วิภาที่มองมาด้วยความไม่พอใจ

จันวิภาถูกขัดจังหวะฝันกลางวัน พูดด้วยความไม่พอใจ

จนวิภา : “ยังไงก็ไม่บอกหรอก ใครใช้ให้คุณปลุกฉันล่ะ คนเค้ากําลังฝันดีเลย

สุมิตรหัวเราะเบาๆ ใช้นิ้วมือจิ้มไปที่จมูกของจันวิภาและ

บอกว่า

สุมิตร : “ฉันรู้แล้ว คุณฝันเห็นฉัน ใช่ไหม ?

ถูกเปิดเผยแน่ ถ้าเกิดว่าฉันวิภายอมรับจะต้องเสียหน้าแน่ เลย เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและบอกว่า

จันวิภา : “ท่านประธานสุมิตร ช่างหน้าด้านจริงๆ ไอ้คน คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ว่า เห็นแก่หน้าคุณที่ปกป้องฉันตลอดทั้ง คืน” สุมิตร : “ถ้าเธอจะคิดอย่างนี้ฉันก็ทำอะไรไม่ได้

เดิมทีสุมิตรก็ไม่ได้สนใจท่าที่แกล้งทำของจันวิภาอยู่แล้ว ก็เลยพยักหน้าไป และก็พูดต่ออีกว่า
สุมิตร : “โอเค!! ตอนนี้ก็ควรจะกลับบ้านได้แล้วล่ะ จันวิภาสงสัยและถามว่า “ไอ้บ้างาน คุณไม่ต้องไปทำงาน

หรอ?”

สุมิตร : “คุณคิดว่าฉันเอาเวลาครึ่งเดือนไปทำอะไร นั่น คือทำงานทั้งหมดให้เสร็จ จากนั้นพาคุณกลับบ้าน บริษัทตะวัน กรุ๊ป จำกัด เดิมทีก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ฉันก็สามารถพักผ่อน อยู่เป็นเพื่อนคุณได้

จันวิภา : “ทำอะไร หรือว่าฉันจะต้องกลับบ้านกับคุณ?

สุมิตรมั่นใจและบอกว่า “นั่นเป็นเรื่องปกติ หรือว่าแค่ฉัน คนเดียวจึงเรียกว่าครอบครัว?

จนวิภา : (ส่งเสียง) “อ๋อ… ตอนนี้พวกเราไม่ได้คุยกันเป็น แฟนกันใช่ไหม? ขอแต่งงานไม่สำเร็จก็เลยพาฉันไปส่งบ้านนั้น หรอ!!? “

สุมิตร : “คุณนี้นะ!! หรือว่า คุณยังอยากจะอาศัยอยู่กับ ธนภาคที่นั่น จะเข้าท่าหรือ

สุมิตรมองจันวิภาด้วยความดูถูก

จันวิภา : “มีอะไรที่ฉันจะทำไม่ได้

สุมิตร : (ยิ้มมีเลศนัย) “ถ้าหากว่าคุณอาศัยอยู่ที่ธนภาค ล่ะก็ คุณจะให้พัชรอาศัยอยู่ที่ไหน

ดังที่คิดไว้ ธนภาคที่นี้จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ล้วนต้องให้สุมิตรออกปากเอง สุมิตรปิตตายคำอธิบายของฉันวิภาโดยตรง ราวกับว่า นภาไม่มีตัวเลือกมากมาย

พูดอีกนัยนึง จันวิภาตัวเขาเองชัดเจนว่าก็ไม่อยากปฏิเสธ

เรื่องที่สมควรจะทำแบบนี้

สุมิตร : วันนี้เวลาที่คุณเข้าบ้าน ก็คือเวลาเริ่มต้นใช้ชีวิต ในบ้านหลังเดียวกันก่อนแต่งงานของพวกเรา จันวิภา คุณ พร้อมแล้วหรือไม่? “

สุมิตรเปลี่ยนเป็นคนคิดไปเองตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว ฉันวิภา มองดูคนรอบๆสี่ทิศ

จนวิภา : (เสียงเบา) “อ๋อ.. น่าจะพร้อมแล้วล่ะ

ชัดเจนว่า ท่านประธานสุมิตร ไม่พอใจกับคำตอบนี้

สุมิตร – “จันวิภา จริงจังได้หรือไม่นี่เป็นเรื่องใหญ่ ฉันจะ ถามคุณอีกรอบ พร้อมแล้วรึยัง พูดให้ฉันฟังดังๆ “สุมิตรต้อง มองจนวิภา ด้วยแววตาที่สุขุม

จันวิภาจนใจ เงยหน้าขึ้นหลับตาแล้วพูดดังๆว่า ” โอเคๆ ฉันพร้อมทุกอย่างแล้ว พวกเรากลับบ้านกัน จริงๆเลย

สุมิตรจึงพยักหน้าด้วยความพอใจ ใช้มือลูบๆผมของฉัน วิภา คล้ายกับเป็นการให้รางวัลที่เชื่อฟัง พูดเสร็จก็จูงมือสุมิตร ออกจากขอบสระด้วยความรวดเร็ว เพราะว่ารอบตัวพวกเขาทั้ง สีต้านมีแววตาแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนจ้องมองมาที่พวกเขา ทุกคนคงคิดว่าแต่เช้านี้ก็เจอคนบ้าคู่หนึ่ง ช่างโชคไม่ดีเอาซะเลย ระหว่างทางกลับสุมิตรดูแล้วมีชีวิตชีวามาก แทบจะไม่มี ท่าทางของคนอดหลับอดนอนทั้งคืน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ