พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน265เกิดเรื่องมาเอะอะโวยว ายถึงหน้าประตู



ตอน265เกิดเรื่องมาเอะอะโวยว ายถึงหน้าประตู

ตอนที่265 เกิดเรื่อง มาเอะอะโวยวายถึงหน้าประตู

จันวิภาสงสัย แต่สีหน้ากลับเรียบเฉยขณะเดินอยู่ข้าง สุมิตร

ลิฟต์มาถึงชั้นที่ตั้งสำนักงาน

ลิฟต์เพิ่งเปิดออกก็เห็นเจริญศรีนั่งอยู่ก ลางทางเดิน

ไม่รู้ว่าเธอเอาที่นั่งมาจากตรงไหน ถึงได้มานั่งหันหน้ามาทางลิฟต์แบบนี้ พร้อมกับท่านั่งที่ดูเหมือนเจ๊ใหญ่

ทันทีที่เห็นจันวิภากับสุมิตรและนิเวศน์ เธอขยับขายาวขึ้น บนใบหน้าฉาบด้วยน้ำแข็ง

กลับไม่มีอาการทุรนทุราย เธอเดินเข้ามาตรงหน้าทั้งสามคน ใบมีดซ่อนอยู่ในรอยยิ้มและแววตาที่ม องไปที่สุมิตร “สุมิตร

ในที่สุดคุณก็กลับมาสักที”

เมื่อสุมิตรเห็นเธอรอยยิ้มก็จางหายไป พยักหน้าให้อย่างไร้อารมณ์ “อืม”

เจริญศรีมองสำรวจขึ้นลงนิเวศน์ที่ยืนอ ยู่ระหว่างทั้งสองคน

หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มอย่างเย็นชา มองไปที่สุมิตรและถามว่า

“นี่ลูกชายของคุณเหรอ”

สุมิตรสีหน้าจมลง

มองเจริญศรีอย่างเย็นชาแล้วถามว่า “คุณมาที่นี่มีเรื่องอะไร อย่างไรก็ดี

ทุกคนต่างรู้ว่าทำไมเจริญศรีถึงมาที่บริ ษัท นั่นทำให้สุมิตรเยือกเย็นมากขึ้น เพียงเพราะเมื่อตอนเช้าเธอก็ได้รับข่าว ลือ

นั่นจึงสามารถอธิบายอะไรบางอย่างได้ อธิบายได้ว่าบริษัทนี้มีหูตามากมาย บริษัทของเขากลายเป็นเครื่องมือสอด แนมของเจริญศรีไปตั้งแต่เมื่อไหร่

คำพูดและการกระทำของเจริญศรี มันเทียบเท่ากับการท้าทายขีดจำกัดขอ งสุมิตร

เจริญศรีเหลือบมองจันวิภาอย่างเย็นชา แสดงสายตาดูหมิ่น

เธอมองไปที่สุมิตรและพูดด้วยน้ำเสียง ประชดประชัน “สุมิตร ฉันมาหาคุณที่นี่เพื่อคุยเรื่องบางอย่างกั

บคุณ

ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพอจะมีเวลาว่างใหม

สุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมก็มีบางอย่างจะคุยกับคุณเหมือนกั น”

เจริญศรีที่อยู่สูงกว่ามองเล็งลงไปยังนิเ วศน์ที่อยู่เบื้องล่างพลางพูดด้วยน้ำเสีย งเย่อหยิ่งว่า “งั้นไปกันเถอะค่ะ”

ดูแล้วไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ หันเดินไปด้วยใบหน้าขยะแขยง ตามสุมิตรไปยังห้องทำงาน

สถานการณ์กำลังเคลื่อนไปสู่บรรยากา ศที่เคร่งเครียดหนักหน่วง จันวิภาหนักใจ เธอก็ไม่ได้คิดว่าแค่เพียงเพราะนิเวศน์ มาเล่นที่บริษัทถึงกลับทำให้เจริญศรีห

วั่นเกรง

เธอไม่ทันคิดเกี่ยวกับจุดนี้

เป็นเธอที่ลืมเอง

นิเวศน์ได้รับการถ่ายทอดลักษณะของ

ทั้งสองมา

นั่นทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็

นแบบนี้

จันวิภามองไปที่สุมิตรอย่างกังวลใจ แต่สุมิตรเพียงแค่มองตาจันวิภาอย่างใ จเย็น เพื่อให้เธอวางใจ

จากนั้นก็ก้มลงไปลูบศีรษะนิเวศน์พลาง ปลอบโยนว่า

“นิเวศน์ไม่ต้องไม่เป็นห่วงนะ

ลุงกับป้ามีเรื่องบางอย่าง เธอเล่นกับมามีไปก่อนนะตกลงไหมครั บ” นิเวศน์รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เขาไม่กลัวเลย ในใจมีแต่ความสงบ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มไร้เดียงสา

พูดด้วยเสียงหวานว่า

“คุณลุงไปก่อนเถอะครับ

ไม่ต้องเป็นห่วงนิเวศน์”

“โอเคครับ” สุมิตรเผยรอยยิ้มบางๆ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้น

มองลึกเข้าไปในดวงตาของจันวิภา แล้วก็เดินไปยังห้องทำงานโดยที่ไม่พูด

อะไรสักคำ

หลังจากเจริญศรีกับสุมิตรเดินเข้าไปใน

ห้องทำงานแล้ว

นิเวศน์กับจันวิภาก็ยังยืนอยู่นิ่ง ๆ

ไม่ได้ขยับ ในใจจันวิภาค่อนข้างสับสน

ว่าเธอควรทำอย่างไรดี

หากรู้ว่าจะเกิดสถานการณ์ตรงหน้า เธอก็คงไม่พานิเวศน์มาที่บริษัท

จบแล้ว มันจะไม่สงบอีกแล้ว

ในทางตรงกันข้ามนิเวศน์กลับจิตใจสง บ เขาเอื้อมไปจับมือของจันวิภา ยิ้มอย่างมีเลศนัยและพูดว่า “มามี้ มากับผมเถอะครับ

เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วก็ดึงจันวิภาวิ่งไปที่ โต๊ะเลขาฯ ของเธอ

เปิดคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานของจันวิภ

า ในเวลาไม่ถึงนาที

ไม่รู้ว่านิเวศน์ไปเอาหูฟังมาจากไหน เสียบเข้ากับซีพียู

ยื่นให้จันวิภาข้างหนึ่งและตัวเองอีกข้าง หนึ่ง

และจากนั้นนิเวศน์ก็กดรหัสจำนวนหนึ่ง บนคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็วราวโผบิน เพียงไม่กี่วินาที หูฟังก็มีเสียงดังออกมา

นิเวศน์ยิ้มเจ้าเล่ห์

จันวิภากำลังจะถามว่าเขาทำบ้าอะไร ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนเข้ามาใน หูฟังเสียก่อน “สุมิตร!

ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกกับเด็กนั่นนี่มันเรื่อ

งอะไรกัน!

คุณแอบไปเลี้ยงชู้ไว้ข้างนอกใช่ไหม!”

จันวิภาตกตะลึง

เสียงกรีดร้องแหลมโหยหวนนั่นเป็นขอ

งเจริญศรี

มองด้วยสายตาสงสัยไปยังนิเวศน์

นิเวศน์ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ส่งสายตาให้เธอฟังต่อไป

จันวิภาเห็นแล้วจึงฟังอย่างตั้งใจ เมื่อเทียบกับปฏิกิริยาที่รุนแรงของเจริ

ญศรี

เธอได้ยินอีกเสียงที่เป็นเสียงแก้วแตกโ ต้ตอบกลับมา ฟังจากเสียง

คงเป็นสุมิตรที่ปาแก้วน้ำลงพื้นเพราะคว

ามโมโห

พร้อม ๆ

กับเสียงแก้วแตกก็ตามมาด้วยเสียงเกรี้

ยวกราดของสุมิตร “เจริญศรี

ผมอยากถามคุณ

คุณวางหูตาไว้ที่บริษัทของผมกี่คนเ

คุณไม่รู้เหรอว่าบริษัทวีระโชมีอิทธิพล

มาแค่ไหน

มันสอดมือเข้ามาในบริษัทของผมแล้ว!

“สุมิตร.……..

เห็นได้ชัดว่าเจริญศรีตกใจกับปฏิกิริยา ของสุมิตร เธอตกตะลึงไปหลายนาที แล้วก็เหมือนว่ามีปฏิกิริยาตอบสนองกลั บมา ตวาดสุมิตรกลับไปอยางกล้าหาญ

“สุมิตร! อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง

ตอนนี้คำถามคือ

ทำไมคุณถึงมีลูกที่โตขนาดนี้กับจันวิภา ! เธอไม่ใช่คนรักเก่าของคุณเหรอ คุณยังไม่ลืมเธอใช่ไหม!”

ได้ยินเนื้อหาของบทสนทนาก็สามารถจิ นตนาการได้ถึงความรุนแรงของสถาน การณ์

เมื่อนึกไปถึงการแสดงออกทางสีหน้าที่ ยอดเยี่ยมของทั้งสอง

จันวิภาอดไม่ได้ที่จะใจเต้นรัวแรง

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำตัวลับๆล่อๆแบบ นี้ อีกอย่าง

เธอค่อนข้างคาดหวังว่าสุมิตรจะตอบส นองต่อความรู้สึกของพวกเขาอย่างไร จะยอมรับหรือปฏิเสธไปตรง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเจริญศรี สุมิตร ครางเสียงเย็นและพูดเหน็บแน มว่า

“คุณไม่ใช่ว่ามีความสามารถมากหรอกเ หรอ ทําไมคุณไม่สืบเอาล่ะ ก็รู้ว่าผมกับจันวิภามีความสัมพันธ์เก่า ต่อกัน แทนที่จะมาที่นี่อย่างไร้เหตุผล ก็ไปหาหลักฐานมาจะดีกว่า รอคุณหาหลักฐานมาว่าลูกของจันวิภาเ ปืนของผมเสียก่อนถึงตอนนั้นค่อยมาก ล่าวหาผมอีกครั้งแล้วกัน!”

“หลักฐานงั้นเหรอ ครั้งก่อนที่พวกคุณไปถ่ายรูปกันที่เมือง B นั่นไม่ใช่หลักฐานเหรอ” เจริญศรีไม่ใช่คนพาล โดยปกติแล้วเพราะเธอชอบสุมิตรจึงยิ นดีที่จะเชื่อฟังเขา

ความจริงแล้วเมื่อเธออยู่บ้านนั้นเป็นเห มือนม้าป่าที่วิ่งพล่าน

ไม่มีใครสามารถทำให้เชื่องได้ ตอนนี้สุมิตรกลับพาชู้กับลูกมาที่บริษัท ทำให้เธอเสียหน้า

ด้วยอารมณ์รุนแรงของเจริญศรี แน่นอนว่าไม่อาจทนได้

ต่อให้วันนี้ต้องฉีกหนังหน้า เธอก็ต้องให้สุมิตรชดใช้เธอให้ได้

“งั้นเหรอ” เมื่อเทียบกับเจริญศรีแล้วน้ำเสียงของสุ มิตรดูมั่นคงและมั่นใจกว่ามาก เขายิ้มและพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง

ๆ แล้วยังไง

คณหนใหญ่วีระโชจะถอนหมั้นผมไหม ล่ะ”

“ถอนหมั้นงั้นเหรอ” เจริญศรีเหมือนกำลังถูกโจมตี ตะโกนออกมาว่า “สมิตร

คุณไม่ใช่ว่าวางแผนมานานแล้วหรอกเ

หรอ

ตอนนั้นคุณตั้งใจไปทำธุรกิจกับผู้หญิง คนนั้นที่เมือง B

วันนี้คุณจงใจพาชู้กับลูกมาที่บริษัท ก็เพื่อบังคับให้ฉันต้องบอกคุณพ่อให้ถ อนหมั้นใช่ไหม”
201324476_1036030853595391_5491692668868506871_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ