พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน471 แปลกประหลาด



ตอน471 แปลกประหลาด

ตอนที่471 แปลกประหลาด

นิเวศน์วางโมเดลของเล่นลงและกระโดดโลดเต้นอย่าง

ดีใจพอเห็นว่าเจ้าลูกชายของเธอดีใจกับอะไรเรียบง่ายแบบนี้ ยิ่งทำให้จนวิภารู้สึกติดค้างเขามากขึ้นไปอีก

เธอยิ้มพร้อมเอามือลูบไปที่หัวของนิเวศน์อย่างแผ่วเบา แล้วถามต่อว่า คิดเลยว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี

“เดี๋ยวผมไปถามปะก่อนว่ามีที่ไหนแนะนำไหม

ทันใดนั้นรอยของเธอก็หายไปแล้วพูดว่า “เอ่อแม่คิดว่า ครั้งนี้ปะป๊ไม่ต้องไปก็ได้นะ

นิเวศน์มีสีหน้าแปลกประหลาดใจเหมือนกับว่าไม่ค่อย เข้าใจสิ่งที่จันวิภาพูดซักเท่าไหร่

“หม่ามีหมายความว่าช่วงนี้ปะค่อนข้างยุ่งไม่มีเวลาไป

กับพวกเราหรอกไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน

ครั้งหน้า?ครั้งหน้าหมายถึงตอนไหนกันล่ะมันพูดยากมาก

เลยเหรอ

รอยยิ้มของนิเวศน์ค่อยๆหายไปแล้วนิเวศน์ก็ตอบว่า ถ้า ปะไม่ไปมันก็ไม่ถือว่าเป็นกิจกรรมของครอบครัวแล้ว
“ครั้งหน้าค่อยไปก็ได้นี่ครั้งนี้ก็ถือว่าไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาแม่ลูกไง แต่ถ้าลูกกลัวว่ามันจะน่าเบื่อก็เรียกลุงธน ภาคกับน้าพัชรีมาด้วยก็ได้นะ

“ช่างมันเถอะตอนนี้คู่นั้นเขาจู้จี้ฉันจะตายเราอย่าไป ขัดจังหวะพวกเขาเลย

“งั้นลูกก็ไปคิดดูละกันว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง

“โอเค”

ถึงแม้ว่าจันวิภาจะแสดงออกเป็นนัยๆว่าไม่ต้องการให้สุ มิตรไปด้วยแต่คิดว่านิเวศน์จะเชื่อฟังง่ายๆงั้นเหรอ?

หลังจากคุยกับฉันวิภาเสร็จนิเวศน์ก็ไปหาสุมิตรทันที

“ปะป๊”

“มีอะไรรึเปล่า?”

นิเวศน์ฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวๆแล้วพูดว่า ก็มีเรื่องนั่นแหละ หม่ามีบอกว่าจะพาผมจะไปเที่ยวพรุ่งนี้ถึงแม้ว่าตอนนี้ปะปีจะ ยุ่งๆแต่ว่าหาเวลาว่างซักครึ่งวันก็น่าจะได้แหละเนอะหม่ามีบอก ว่าช่วงนี้ดอกซากุระบานที่สวนสาธารณะสวยงามมากๆเลยแต่ ว่าสวนสาธารณะใหญ่โตขนาดนั้นแต่ว่าถ้าปะไปด้วยคงจะ ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิด……

นิเวศน์ช่วยสุมิตรคิดแผนการแต่ก็ไม่อยากโดนตัดบท
“ช่วงนี้ปะยุ่งมากคงไม่มีเวลาพาแม่ลูกไปเที่ยวลูกก็พา หม่าไปเที่ยวให้สนุกนะเดี๋ยวครั้งหน้าปะป๊ไปด้วย

นิเวศน์อึ้งไปอยู่พักนึงแล้วก็ถามออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัว เอง ไม่จริงมั้งปะจะไม่ไปจริงๆเหรอ?”

“อืม”

น้ำเสียงของสุมิตรนิ่งเรียบมากไม่ได้มีความโกรธหรือท่าที หงุดหงิดอะไรเลย

นิเวศน์หันไปมองหน้าสุมิตรแล้วรู้สึกว่ามันแปลก ประหลาดมาก

แปลกจังนี่มันไม่ใช่ตัวตนของสุมิตรเลยนะถ้าเป็นเมื่อก่อน ถึงรู้ว่าฉันวิภาไม่อยากให้เขาไปเขาก็ต้องแอบตามไปอย่าง แน่นอนไม่ว่าจะต้องใช้วิธีอะไรก็ตาม

แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่ยอมต่อสู้เพื่อตนเองเลยจะยอมรับความ

พ่ายแพ้แบบนี้งั้นเหรอ?

หรือว่าเขาโกรธหม่า…….

พอคิดมาจนถึงตรงนี้นิเวศน์ก็เอามือกุมหน้าผากแล้ว อธิบายว่า “ปะที่จริงที่หม่ามีไปดูแลน้าเปมิศาก็เพื่อความ ยุติธรรมเฉยๆเธอไม่ได้โทษอะไรปะเลยนะ

“หม่ามี้ของลูกคิดอะไรอยู่ปะรู้สึกว่าลูกอยู่แล้ว

สุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเพื่อหยุดเรื่องเพ้อเจ้อของนิเวศน์

นิเวศน์ยักไหล่เบาๆแล้วตอบว่า”จะว่ายังงั้นก็ได้ถ้ายังงั้น ผมจะได้ไม่ต้องเสแสร้งละถ้างั้นปะปีจะปล่อยให้หม่ามเข้าใจ ผิดอยู่แบบนี้เหรอ? จะเฉยชาใส่กันแบบนี้เนี่ยนะ?การออกไป เที่ยวด้วยกันคือโอกาสที่ดีมากเลยทำไมปะปีถึงยอมทิ้งไป ง่ายๆล่ะ?”

นิเวศน์เริ่มทนสองคนนี้ไม่ไหวแล้วดูก็รู้ว่ายังมีความรู้สึก ดีๆ ให้กันอยู่แต่มัวแต่ทำสงครามเย็นใส่กันอยู่นั่นนี่มันอะไรกัน!

“ปะปไม่ได้ยอมแพ้แค่รอให้หม่ามีอารมณ์เย็นลงก่อน เท่านั้นแล้วอีกอย่างในเวลาแบบนี้ถ้าปะไม่ทำอะไรน่าจะ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้มากกว่าและก็ไม่ให้โอกาสคนที่

ไม่หวังดีได้ลงมือทำอะไรด้วย “ผมรู้ว่าปะหมายถึงน้าเปมิศาแต่ว่าตอนนี้เธอก็โดน

ควบคุมอยู่นี้ยังจะทำอะไรได้อีกปะกังวลมากเกินไปรึเปล่า?

พอพูดถึงเปมิศาสุมิตรก็หรี่ตาลงแล้วพูดว่า ผู้หญิงคนนั้น มีความคิดลึกซึ้งจะตายยังไงก็ต้องมีวิธีเราก็ต้องกันไว้ก่อน

พอพูดถึงความขัดแย้งของทั้งสองคนนี้นิเวศน์ก็ถามออก มาด้วยความสงสัยว่า “ความขัดแย้งระหว่างปะกับน้าเปมิศา เกิดขึ้นก็เพราะว่าเธออยากจะได้หลักฐานเกี่ยวกับคดีของธาม แค่ปะให้เธอไปก็จบแล้วถึงยังไงมันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ต่อบริษัทตะวันกรุ๊ปของเราอยู่แล้วพอแก้ไขความขัดแย้งได้ปะ กับน้าเปมิศาก็จับมือสงบสุขกันหม่ามีก็จะเลิกโทษปะแค่นี้เรื่องทั้งหมดก็จะจบด้วยดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”

มันจะแก้ไขได้จริงๆเหรอ?ถ้าเงินว่าเรื่องทั้งหมดมันง่าย ขนาดนั้นสุมิตรก็คงไม่ทำสงครามเย็นกับจันวิภาจนถึงตอนนี้ หรอก

พอเห็นว่าสุมิตรไม่ได้พูดอะไรนิเวศน์ก็ก้มหน้าลงอย่าง หมดหวังแล้วพูดว่า “โอเคๆเรื่องของผู้ใหญ่ก็ให้ผู้ใหญ่ปวดหัว กันไปเองแล้วกัน”

พอพูดจบนิเวศน์ก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องไปปวดหัว

สุมิตรวางปากกาลงแล้วเอามือมาลูบคางสายตาเหม่อ

ที่สุด

ลอย

ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกปเที่ยวเล่นเพื่อผ่อนคลายแต่ว่า จิตใจของจันวิภาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลยจะถึงเวลาออกเดินทาง แล้วเธอยังไม่ได้เตรียมอะไรสักอย่างได้แต่หยิบหมวกมาใส่ใบ นึงแล้วก็เดินออกไป

แต่นิเวศน์ไม่เหมือนกันเขาเตรียมของล่วงหน้าก่อนหน้า นั้นหนึ่งวันกระเป๋าแน่นไปด้วยสิ่งของ

จันวิภาพึ่งจะเห็นกระเป๋าเป้ของนิเวศน์ก่อนออกเดินทาง เธอตะลึงไปแป๊ปนึงแล้วถามว่า “ลูกเอาอะไรไปด้วยเนี่ยทำไม กระเป๋าถึงได้ตุงขนาดนี้”
“อาหารเครื่องดื่มของเล่นอ้อแล้วก็มีครีมกันแดดของหม่า มด้วย พอพูดจบนิเวศน์ก็ชี้นิ้วไปนอกหน้าต่างแล้วอธิบาย ต่อว่า วันนี้ด้านนอกแดดแรงมากเดี๋ยวก็โดนแดดเผาหลอก

คำตอบที่มาจากใจที่เอาใจใส่ของลูกน้อยทำให้ฉันวิภา รู้สึกอับอาย

นี่มันเป็นสิ่งที่คนเป็นแม่อย่างเธอควรทำแต่เธอกลับทำให้ ลูกชายต้องเป็นห่วงเธอนี่ช่างเป็นแม่ที่ล้มเหลวจริงๆ

จันวิภายื่นมือไปหยิบกระเป๋าเป้ที่ไหล่ของนิเวศน์มาถือไว้ เธอคลี่ยิ้มแล้วพูดว่า ถึงแม้ว่าแดดจะแรงไปหน่อยแต่ว่าอากาศ ไม่แย่เลยนะวันนี้พวกเราไปเล่นกันให้เต็มที่เลยเถอะ!

“โอเคเดี๋ยวผมจะถ่ายรูปหม่ามให้สวยๆเลย

สองคนแม่ลูกหัวเราะคิกคักกันระหว่างจะเดินออกไปข้าง นอกระหว่างทางนั้นจันวิภาก็เงยหน้ามองท้องฟ้าแต่ดันไป สบตากับสุมิตรที่อยู่บนชั้นสองพอดีสุมิตรยืนอยู่ข้างหน้าต่าง มือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงแอบมองจันวิภากับนิเวศน์อยู่ อย่างเงียบๆในวิภาตกใจแว๊บนึงแล้วก็รีบมองไปทางอื่นแล้ว เธอก็จับมือนิเวศน์ให้เดินเร็วขึ้น

“เอ๊ะปะอยู่ตรงนั้นนี่นาหม่าม

“นิเวศน์พวกเรารีบไปกันเถอะ”

ยังไม่ทันรอให้เขาพูดจบในวิภาก็ลากมือนิเวศน์ให้เดิน

ตามไป
นิเวศน์หันหน้ากลับไปมองสุมิตรอย่างทำอะไรไม่ถูก

สุมิตรได้แต่มองแผ่นหลังของฉันวิภาเดินจากไปจนเธอลับ

สายตาไป

เขาก้มหน้าลงครู่นึงแล้วก็เริ่มเดินไปตามทางเดินจนไป หยุดอยู่ที่หน้าห้องๆนึง

พอได้ยินเสียงเปิดประตูเปมิศาก็เงยหน้ามองพอเห็นหน้า

สุมิตรสีหน้าของเปมิศาก็ยังคงเรียบเฉยราวกับรู้อยู่แล้วว่าเขา ต้องมา

“นายใจเย็นกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเหมือนกันนะถึงพึ่งจะมา หาฉันตอนนี้”

พอเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเปมิศาสุมิตรก็ก้มหน้ามองเธอ

แบบไร้สีหน้าใดๆ

ในตอนนี้นั้นขอแค่สุมิตรต้องการเขาสามารถพรากชีวิตเป มิศาไปได้ง่ายๆซะด้วยซ้ำ

แต่ว่าเปมิศาไม่ได้รู้สึกกังวลแม้แต่นิดเดียวแถมยังยั่วยุ เขาอีกต่างหากเพราะเธอมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางกล้าทำ อะไรเธอแน่นอนอย่างน้อยก็ตอนนี้แหละนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ