พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน485เคารพการตัดสินใจของเธอ



ตอน485เคารพการตัดสินใจของเธอ

ตอนที่485เคารพการตัดสินใจของเธอ

“ไม่สนใจ? แล้วมองดู หม่ามีไปต่างประเทศแล้วทิ้งให้เรา

อยู่กันแค่เพียงพ่อลูกอย่างนั้นหรอ?” นิเวศน์เกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าน้อยแดงเลือกด้วย

ความโกรธ

“ถ้านี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการฉันก็เคารพการตัดสินใจของ

ตัดสินใจอะไรนี่มันเห็นได้ชัดว่าหนี!!

หม่ามีกำลังจะหนีไปส่วนปะก็นิ่งนอนใจเรื่องนี้นี่มันไม่มี ทางที่จะลงเอยได้แล้วเลยใช่มั้ย?

นิเวศน์หัวใจสลาย ในขณะเดียวกันก็มองไปที่สุมิตรด้วย ความสงสาร ไม่มีหม่ามีคอยดูแลเด็กน้อยที่น่าสงสารคนนี้แล้ว ผมอยากให้แม่อยู่กับเราที่นี่จัง

“งั้นลูกก็บอกหม่ามีของลูกไปแต่ดูยังไงก็ดูเธอคงจะไม่ เปลี่ยนความตั้งใจแล้วหล่ะ

อื้อทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด

ถึงแม้ว่าสุมิตรจะดูจริงจังแต่นิเวศน์ก็ได้ยินกระแสความคาดหวังในน้ำเสียงที่เขาพูดดูเหมือนว่าสุมิตรเขาจะไม่ได้เย็น ชาอย่างที่เขาแสดงออกเรียกอีกอย่างก็คือ โกหกนั่นแหล่ะและ นั่นมันก็คือเขานั่นแหล่ะ

รอยยิ้มกระตุกบนใบหน้าน้อยๆนิเวศน์เอียงศีรษะของเขา ก่อนจะพูด”ปะที่ทำเป็นดูใจกว้างจริงๆแล้วอยากให้หม่ามีอยู่ ใช่มั้ยหล่ะ?”

“จู้จี้จริงๆปะที่มีประชุมอีกถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปก่อน เถอะ”

นิเวศน์ยังพูดไม่ทันได้พูดอะไรสุมิตรก็เดินออกไปจากห้อง ทํางานไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ปะผมยังพูดไม่จบเลยปะอย่าพึ่ง…..

โชคดีที่นิเวศน์หลบทันไม่อย่างนั้นก้นเล็กๆของเขาคงจะ ถูกประตูหนีบไปแล้ว

เขาหันไปมองที่ประตูอย่างโกรธๆเขากำหมัดน้อยๆของ เขาขึ้นเขาแอบสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับปะของเขากันแน่

“โดนไล่ออกมาหรือไง?

พอได้ยินเสียงนิเวศน์ก็หันตัวกลับไปมองก็พบเข้ากับใบ

หน้าหวานๆของธนภาค

นิเวศน์ถอนหายใจเบาๆอย่างสิ้นหวัง
“เอาหนะอย่าโมโหไปเธอไม่ใช่คนแรกหรอกที่โดนเขาไล่ ออกมา”

ในขณะที่พูดธนภาคก็พยักพเยิดไปให้นิเวศน์มองไปทาง ห้องพักข้างห้องทํางาน

พอมองไปสายตาก็ไปปะทะกับร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่มี

สีหน้าเหมือนกับนิเวศน์เป๊ะ

ผู้หญิงคนนั้นคือพัชรี

นิเวศน์รีบเดินไปที่ห้องพักทันทีก่อนจะไปนั่งข้างๆเธอดื่ม น้ำหนึ่งอีกก่อนจะถามน้าพัชเองก็มาหาปะเหมือนกันหรอ?”

พัชรีทิ้งร่างไปกับพนักพิง ใช่แล้วหล่ะแต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึก เสียใจจริงๆที่มาที่นี่! “

“อย่าโกรธไปเลยน่าผมเข้าใจความรู้สึกของน้าดีแม้ว่าสิ่ง ที่เราดั้นด้นกันตอนนี้มันจะยังไงแต่มันจะมีซักวันที่เขาสองคนจะ ต้องขอบคุณเรา

“น้าก็แค่กลัวว่ามันจะไม่มีวันนั้นหน่ะสิ โกรธจนจะระเบิดอยู่ แล้วเนี่ยเขาคิดว่าตัวเองเป็นวันทีหรือไงถึงได้นิ่งนอนใจขนาดนี้ พวกเราเป็นเดือดเป็นร้อนกันขนาดนี้แต่เขากลับคิดว่าเราเป็น ตัวยุ่งอะนี่มันน่าหัวเสียมากจริง! ”

อย่าว่างั้นงี้เลยที่เธอพูดมามันก็ถูกของเธอ

“พวกเธออย่าหัวเสียไปเลยฉันคิดอะไรน่าสนใจออกละ
ธนภาคพูดเสียงเบาๆอย่างตื่นเต้นซึ่งแตกต่างกับหน้าตาที่ ขมขื่นราวกับมะระของอีกสองคน ยังจะมีความคิดดีๆอะไรอีก หล่ะอะไรที่ควรจะคิดเราก็คิดกันมาหมดแล้ไม่ใช่หรือไงอีก อย่างสองคนนี้มีทัศนคติก็ลบมากด้วยฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว”

“จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ได้จัดการยากอะไรเลยนะเราก็ให้จันวิภา ไปเรียนนั่นแหล่ะเปลี่ยนบรรยากาศไงให้เธอได้พักผ่อนหย่อน ใจซะบ้าง

ความคิดนี้พัชรีไม่ชอบเอาซะจริงๆเธอขมวดคิ้วขึ้นก่อนจะ พูดทำไมนายถึงคิดเหมือนสุมิตรได้หล่ะนี่นายจะช่วยหรือ เติมกันแน่?”

“ก็ต้องช่วยหน่ะสิ

“หะผลักให้อีกคนไปไกลเนี่ยนะเรียกว่าช่วย ทั้งสองคนยัง ไม่ทันจะเคลียร์ปัญหาคาใจกันเลยและถ้าเป็นอย่างเบี้ยต้อง ห่างกันเป็นพันกิโลหน้าก็ไม่เจอปัญหาก็ไม่ได้แก้อีก

“ก็เพราะว่าไม่เจอไงมิตรเลยจะนั่งไม่ติด” หมายความว่า ยังไง?”

“ก็ในใจของมิตรหน่ะมันมีแค่จันวิภาตอนนี้เป็นสงคราม เย็นก็เหมือนกับว่ามีอะไรรบกวนในใจแต่ว่าในใจก็ยังมีกันอยู่ พอเวลาล่วงเลยไปบางทีปัญหามันอาจจะเจือจางลงความคิดเริ่ จะกลั่นกรองเติบโตสุดท้ายเบื้องลึกของหัวใจก็คงจะนำพาให้ ความสนิทสนมฉันสามีภรรยากลับมาแหล่ะ
“แค่ต้องอาศัยให้ใครสักคนช่วยหน่อยมันต้องสำเร็จ แน่นอนมิตรเป็นคนหัวรั้นเว้นเสียแต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการยิ่ง เราไปบังคับฝืนเขาก็เหมือนเขาจะยิ่งหนีดังนั้นสิ่งที่เราควรทำ ในตอนนี้ก็คือปล่อยมันไปก่อน

ทั้งนิเวศน์และพัชรีพยายามคิดตามก่อนที่สีหน้าจะดูโล่ง ใจขึ้นมา

“อื้อหือสุดยอดไปเลยเอ้ะลุงภาคหรือว่าลุงมีประสบการณ์ เรื่องแบบนี้มาก่อนหล่ะเนี่ย

พอนิเวศน์พูดจบสายตาคมเฉียบของพัชรีก็ตวัดไปมอง

ธนภาคจู่ๆก็งานเข้ารีบอธิบาย ก็แค่พูดตามสิ่งที่เป็นไป

ประสบกงประสบการณ์อะไรเล่านิเวศน์อย่าพูดเหลวไหลนะ

“ไม่ต้องไปโทษนิเวศน์เลยนะเนี่ยยิ่งพูดยิ่งเข้าข่ายนะเนี่ย

“เข้าข่ายอะไรเล่าแค่จะบอกว่าเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ควรจะ พูดเหลวไหลก็เท่านั้น ธนภาคไปยืนข้างพัชรีพูดเพื่อแสดง ความบริสุทธิ์ใจ พัชรึไว้ใจฉันนะไม่ว่าอดีตที่ผ่านมาจะเป็นยัง ไงก็แล้วแต่แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่อยู่ในใจของฉันมีเพียงเธอคน เดียวเท่านั้น”

คำพูดขงหวานเลี่ยนนั่นทำเอาพัชรียิ้มออกมาด้วยความ

สองคนนี้นี่นะบทจะแสดงความรักก็แสดงตรงนี้เลยหรือยังไง!

นิเวศน์สีหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเอื้อมมือไปตบโต๊ะ ให้ทั้งสองคนรู้สึกตัว

ให้รู้ว่ามีเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งอยู่ตรงนั้นด้วยพัชรีรีบกลบ เกลื่อนรอยยิ้มเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทันที “อึมจันวิภาของเรา เป็นผู้หญิงที่สวยสง่าขนาดนั้นเมื่อไปต่างประเทศก็ต้องมีคน ตามเยอะแน่ๆ ถ้าเธอไปชอบใครใหม่เข้าถึงตอนนั้นถ้าสุมิตร อยากร้องไห้ก็คงไม่มีที่ให้ร้องแล้วหล่ะ

“นี่ก็เป็นเรื่องของมิตรแล้วหล่ะเขาเป็นคนปล่อยเธอไปเอง เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ทั้งนั้นหล่ะเราไม่ต้องไปอะไรหรอก

“หือที่พูดว่าไม่อะไรเป็นไปไม่ได้หรอกจันวิภาหนีไปที่ไกลๆ

แค่คนเดียวแบบนี้

พูดได้เพียงครึ่งประโยคเหมือนว่าพัชรีก็พลันนึกบางอย่าง ออกมาได้ดวงตาเธอสว่างวาบเป็นประกาย

“ภาคฉันคิดอะไรออกแล้วหล่ะ

พัชรียังพูดไม่ทันจบธนภาคก็ตัดบททันที ไม่ได้นะ! ”

“ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยนายจะปฏิเสธเพื่อ?

“ฉันรู้จักเธอดีแค่เห็นเธอยิ้มก็รู้แล้วว่าคิดจะทำอะไร

เธอยกมือขึ้นจับไหล่ของธนภาค โอ่ยยฉันก็แค่ทำเพื่อ เพื่อนนาพูดอีกอย่างก็แค่ฉันเฝ้าดูอยู่ห่างๆเท่านั้นเองพวกเธอทุกคนก็จะได้สบายใจได้ไม่ใช่หรือไง?

มองพัชรีที่อยู่ทางซ้ายแล้วก็ย้ายไปมองที่ธนภาคนิเวศน์

ยังคงไม่ได้เข้าใจอะไรเลย

“เธอกำลังพูดถึงอะไรกันแน่?

พัชรีมองเขาด้วยความตื่นเต้น “ฉันตัดสินใจที่จะไปต่าง ประเทศกับหม่ามีเธอเพื่อที่จะได้ดูแลเธอด้วยตัวของฉันเองไง

“ดีจัง! ”

“ไม่ได้นะ! ”

คำตอบที่ตรงข้ามกันถูกพูดออกมาพร้อมๆกัน ธนภาคและนิเวศน์ต่างก็มองไปคนละทิศละทางทั้งสองยัง คงจ้องตาของกันและกัน

“นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนะ เขาหันศีรษะของเขาไปทาง ธนภาค”ลุงภาคผมรู้ว่าลุงมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับน้าพัชรี และไม่ได้เต็มใจที่จะให้เธอไปแต่มันเป็นเรื่องเร่งด่วนครอบครัว ของเราต้องการน้าพัชมากที่สุดในตอนนี้!

พัชรีเองก็สนับสนุนขึ้นมาอีกเสียงเช่นกัน ภาคนยอย่า

โกรธไปเลยนานเองก็เป็นเพื่อนของสุมิตรไม่ใช่เหรอเพื่อเพื่อน ไงและฉันก็จะไม่เป็นอันตรายจริงๆนะฉันไม่เคยไปต่างประเทศ มาก่อนเลยก็ใช้โอกาสนี้ออกไปเที่ยวสักหน่อยมันจะไม่ได้เลย หรือไง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ