พิชิตใจนายปีศาจ

ตอนที่ 279 ให้จันวิภามาหาผม



ตอนที่ 279 ให้จันวิภามาหาผม

“พูด! ตอนพวกคุณอยู่ที่บริษัท ตะวันกรุ๊ป จำกัด มันมี อะไรเกิดขึ้น ทำไมทุกคนถึงทำหน้าแบบนั้น เป็นใบ้กันไปหมด แล้วเหรอ!”

ในที่สุดเจ้านายก็ตบโต๊ะด้วยความโมโห เพื่อนร่วมงาน ฝ่ายขายจึงเป็นหน่วยกล้าตายเอ่ยปากเล่าเรื่องเมื่อเช้าที่ไป ประชุมกับบริษัท ตะวันกรุ๊ป จำกัด

แต่ก่อนเมื่อพวกเขาไป จะได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติ แต่วันนี้เมื่อมาถึงที่แผนกต้อนรับส่วนหน้าได้ยินว่าพวกเขาเป็น บริษัทออกแบบ และทันทีที่มีคนมารับพวกเขาก็กลับมีท่าทีไม่ สุภาพ

หลังจากนั้น ไม่รู้ว่าทำไม เรียกผู้หญิงคนเดียวที่มาเข้าไป ในสำนักงาน เพื่อนร่วมงานในฝ่ายขายคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ จําเป็นเพื่อหารือเกี่ยวกับโครงการความร่วมมือ นั่น หมายความว่าพวกเขาจะร่วมมือ แต่ทำไมกลับกันเอาไว้ข้าง นอก

เพื่อนร่วมงานฝ่ายขายเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็คิดว่ามัน อาจเป็นเหตุผลที่คงต้องการที่จะฟังแนวคิดของการออกแบบจึงไม่ได้สนใจอีกและยืนรออยู่ข้างนอก

แต่ว่าในขณะนั้นก็มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น

เพื่อนร่วมงานขายของฝ่ายขายพูดถึงเรื่องนี้แล้วก็หยุดลง ไม่พูดอะไรต่ออีก

เจ้านายพูดอย่างหงุดหงิด “พูดต่อไปสิ ทำไมไม่พูดล่ะ!”

เพื่อนร่วมงานชายฝ่ายขายมองตากันกับกษีรา แล้วจึงพูด กับเจ้านายอย่างลังเล “เรื่องหลังจากนี้ให้กษราอธิบายให้คุณ ฟังแล้วกันครับ”

ได้ยินคนอื่นพูดถึงชื่อตัวเองร่างกายของกษิราก็สั่นเล็ก น้อย เธอมองเจ้านายอย่างไม่สบายใจ และมองจันวิภาอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเจ้านายกำลังจะระเบิดจึงรีบเอ่ยปากขึ้นมาก่อน “มัน เป็นอย่างนี้ค่ะ หลังจากที่ฉันเข้าไปในออฟฟิศ

เมื่อมาถึงกษิรา มันก็กลายเป็นน่าตื่นเต้นขึ้นมามาก

ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อเข้าไปในออฟฟิศ กลับพบว่ามีเพียงคน เดียวอยู่ในนั้น และผู้ชายคนนั้นดูน่ากลัวเหมือนกับจะกินเธอ เมื่อเห็นกราแล้วเขาก็ถามว่าเธอเป็นใคร กษีราหน้าซีดเผือด ด้วยความกลัว ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะรายงานจุดประสงค์ของ ตัวเองได้

ผลลัพธ์คือหลังจากที่เขาได้ยินชื่อบริษัทสีหน้าก็แย่ลง เขา โกรธมากและให้กษิราออกมา แล้วเขาก็บอกให้

“ให้อะไร พูดออกมาเร็วๆ” เจ้านายไม่พอใจทักษิราเอาแต่ขี้กลัวจึงส่งเสียงออกมา

คำพูดของเจ้านายทำให้กราตกใจ จนวิภายืนมองอย่าง เศร้าใจ อดไม่ได้ที่จะลูบไหล่เธอเพื่อส่งสัญญาณให้เธอผ่อน คลาย

กษิรามองจนวิภาอย่างขอบคุณ แต่ในดวงตาก็ยังคงมี แววประหลาด กษีราหันไปหาเจ้านายของเธอ ใช้เวลาครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรวบรวมความกล้าพูดออกมา “ผู้ชายคนนั้นบอก ว่า….ให้จนวิภามาหาเขาด้วยตัวเอง! นั่นคือคำพูดที่เขาพูดออก มาค่ะ……..

คำพูดของกษิรา ออกมาทำให้ทั้งออฟฟิศเงียบกริบ ไม่ เพียงจันวิภาที่ตกใจ แม้แต่เจ้านายก็เองตกใจ

ประโยคสำคัญที่พูดออกมามันไม่ได้มีอะไรน่ากลัว แต่ ใบหน้าของกษราค่อนข้างไม่ดีหลังจากพูดออกมา

หลังจากผู้ชายคนนั้นตะโกนประโยคนี้ก็ให้กษราออกมา ทันที กษีรากลัวมาก ออกมาจากสำนักงานด้วยใบหน้าซีด เผือด กษิราบอกกับฉันวิภาเป็นการส่วนตัวว่าชายคนนั้นมอง เธอราวกับว่าเขากำลังจะฆ่าเธอ ความกดอากาศและอุณหภูมิ ในออฟฟิศนั้นเกินไป มันน่าขนลุกทั้งที่อยู่ในวันที่อากาศ ร้อนเช่นนี้

เพื่อนร่วมงานฝ่ายขายเองก็ยังรู้สึกแปลก ๆ แต่ก่อนที่เขาจะถามอะไร ก็มีคนมาเชิญพวกเขาออกไปทันที และเช่นเคยกับ ทัศนคติที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการเคารพ

มันเหมือนกับว่าเป็นการจงใจไล่พวกเขาออกไป

ระหว่างทางที่กลับมา เพื่อนร่วมงานฝ่ายขายถามกษิรา เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากได้ยินรายละเอียดจากกษีรา สีหน้า ของฝ่ายชายก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ดีเช่นกัน

แม้แต่เจ้านายและจันวิภา หลังจากฟังเรื่องราวของกรา แล้ว สีหน้าก็ไม่ค่อยดีไม่ต่าง ต่างไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเป็น อะไรที่น่าทึ่งมากเช่นนี้

ตอนนี้มีข้อสงสัยว่า ผู้ชายที่กษิราเจอมานั้นเป็นใคร คำ อธิบายของกษิราไม่ใช่ผู้จัดการหรือบุคคลที่รับผิดชอบในการ เจรจาทางธุรกิจ แต่เป็นคนที่พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้

คำถามที่สองคือ ทำไมเขาถึงอยากให้จันวิภาไปหาเขา เป็นการส่วนตัว ไปหาเขาเพื่ออะไร คุยเรื่องธุรกิจหรือเรื่องส่วน ตัว และกับจันวิภามีความสัมพันธ์แบบไหนกัน

เหล่าคำถามปรากฏในจิตใจของทุกคน เจ้านาย กษีรา และเพื่อนร่วมงานฝ่ายขายอดไม่ได้ที่จะมองไปที่จันวิภา ดู เหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะหาคำตอบจากจั่นวิภา

แต่กลับไม่มีใครเอ่ยปากถามเธอ

ผู้ที่รู้คำตอบทั้งหมดมีเพียงจันวิภาเท่านั้น เธอรู้ว่าผู้ชาย คนนั้นคือใคร และก็รู้ด้วยว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงตามหาเธอ
แต่ว่าอารมณ์ของเธอตอนนี้ซับซ้อนมาก เธอไม่ได้คิดเลย ว่าสุมิตรจะค้นพบว่าตัวเองทำงานในบริษัทนี้

ในเวลาเดียวกัน จันวิภาก็ประมวลความคิดอย่างรวดเร็ว เธอสงสัยว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไรว่าเธอทำงานให้บริษัทนี้ ที่สุ มิตรบอกว่าจะพบตนนั้นเขารู้ได้อย่างไร ตามหลักแล้วเขาไม่ ควรรู้

หัวใจของฉันวิภาตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างแสน สาหัส ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาสามคน แม้แต่ตัวเธอเองก็มี คําถามมากมายรอคนอื่นมาตอบคำถามเธอ

ในที่สุดคนที่ได้สติขึ้นมาก่อนก็คือเจ้านาย เขากระแอมไอ เบา ๆ เป็นสัญญาณให้กษราและเพื่อนร่วมงานจากฝ่ายขาย ออกไปก่อน

แม้ว่าจะมีข้อสงสัยในใจ และสงสัยความสัมพันธ์ระหว่าง จันวิภากับผู้ชายคนนั้นที่ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา แต่ต่อหน้าเจ้า นายตัวเอง กษิราและเพื่อนร่วมงานชายในฝ่ายขายยังสามารถ ระงับความสงสัยในใจเอาไว้ได้ และเก็บมันไว้ไปถามส่วนตัว อีกครั้ง

หลังจากที่พวกเขาออกไป ก็เหลือเพียงจันวิภาและเจ้านาย

ในห้องทํางานแค่สองคน

จากที่เงียบอยู่นานเจ้านายก็เปิดปาก “จันวิภา นั่งลงมา คุยกันก่อน”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ลุกขึ้นจากที่ของเขา แล้วเดินไป ข้าง ๆ จนวิภา กดให้วันวิภาที่กำลังตกอยู่ในความคิดนั่งลง บนโซฟา

เมื่อเริ่มรู้สึกถึงแรงกดที่ด้านหลัง วันวิภาก็เพิ่งได้สติ นั่ง บนโซฟาและเธอมองเจ้านายด้วยความอับอาย พูดด้วยน้ำ เสียงอึดอัดว่า “เจ้านายคะ….”

เจ้านายยกมือขัดจังหวะจันวิภา เขานั่งลงตรงข้ามกับจัน วิภาและพูดอย่างเข้าใจ “ผมรู้ ทุกคนมีอดีตของตัวเอง มันไม่ เหมาะที่จะคุยเรื่องส่วนตัวในที่ทำงาน แต่ว่า….จันวิภา…คุณ ขัดใจอะไรใครในบริษัทของพวกเขาใช่ไหม

อ่า…ถ้าให้พูดว่าขัดใจอะไรใครบางคนมันก็มี แต่นั่นไม่ได้ เรียกว่าคน

จนวิภาพูดในใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายพลางครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดออกไป “มันเป็นอย่างนั้นค่ะ ฉันมีปัญหากับใครคน หนึ่งในบริษัท ตะวันกรุ๊ป จำกัด แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ มันเป็นแค่การเข้าใจผิดกัน

เทียบกับสิ่งเหล่านี้แล้ว เจ้านายเป็นกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับ เรื่องที่ว่าพวกเขาจะสามารถเจรจาความร่วมมือในโครงการนี้ ได้หรือไม่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ