พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน388ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป



ตอน388ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป

ตอนที่ 388 ไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป

แต่ก็ทำให้เจริญศรีคิดไม่ถึงว่าหัวหน้าบอดี้การ์ดจะไม่ได้ วางแผนไว้อย่างนั้น เขาไม่ได้แตะต้องเจริญศรีแม้แต่นิดเดียว

หัวหน้าบอดี้การ์ดเห็นว่าเจริญศรีไม่ได้กังวลและไม่ได้ต่อ ต้าน แต่กลับทำสายตาที่มีเสน่ห์เล็กน้อย ในชั่วพริบตาเดียว สายตาที่ไม่ดีของเขาก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่ดูถูกและเหยียด หยาม

เจริญศรีรู้สึกว่าสถานการณ์แปลกๆนิดหน่อย ผู้ชายที่แข็ง แรงกำยำที่อยู่ตรงหน้าคนนี้แท้ที่จริงแล้วต้องการจะทำอะไร? ในใจของเจริญศรีไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

หัวหน้าบอดี้การ์ดหัวเราะเยาะเสียงดัง จากนั้นก็ปรบมือ เบาๆ หลังจากนั้นพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างนอกห้องโรงแรมก็ เข้ามาสี่ห้าคน แน่นอนว่าคนเหล่านี้เมื่อก่อนเป็นลูกน้องของ เจริญศรี เพียงแต่ว่าตอนนี้พวกเขากลายเป็นฝันร้ายของเจริญ ศรี

“พวกคุณ พวกคุณฆ่าฉันไม่ได้ สิ่งที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อพวก คุณ” เจริญศรีถอยหลังตรงไปที่มุมกำแพง หลังของเธอติดกับ กำแพงห้องที่เย็นเยือก ในหัวใจรู้สึกว่ามันหนาวยิ่งกว่าน้ำแข็ง
หัวหน้าบอดี้การ์ดหัวเราะอย่างสนุกสนานแล้วพูดว่า “โอ้” มิเช่นนั้นคุณให้เงินพวกเรามั้ย?”

เจริญศรีไม่มีอะไรจะพูด เธอไม่มีเงินแม้แต่นิดเดียว เพียง แต่ต้องถ่วงเวลา เธอพูดอย่างรีบร้อนว่า “บริษัทของฉันล้ม ละลายแล้ว แต่ว่าบ้านของฉันมีเงิน ถึงยังไงฉันก็เป็นลูกสาว ของตระกูลวีระโช ไม่ว่ายังไงตระกูลวีระโชก็ไม่ทิ้งฉัน

หัวหน้าบอดี้การ์ดหัวเราะเสียงดังออกมา ถึงยังไงเรื่อง ตลกนี้ก็ไม่สามารถได้ยินทุกวัน

สิบห้านาทีถัดไปหัวหน้าบอดี้การ์ดก็ทำหน้าขรึมขึ้นมา มองเจริญศรีอย่างเงียบๆแล้วพูดว่า “คุณคิดว่าพวกเราเป็นคน โง่เหรอ? คนในตระกูลวีระโชทุกคนตัดขาดความสัมพันธ์กับ คุณทั้งหมดแล้ว เจริญศรี คุณคิดว่าตอนนี้คุณยังเป็นลูกสาวคน โตเหรอ? บอกความจริงกับคุณให้นะ ตอนนี้คุณไม่มีอะไรเลย

ร่างกายของเจริญศรีสั่นขึ้นมาอย่างรุนแรง แต่ถึงแม้ว่า เธอจะไม่มีอะไรเลยก็ไม่ได้อยากถูกฆ่าแบบนี้ เธอยังไม่ได้แก้ แค้น ยังไม่ได้เห็นความเจ็บปวดทรมานของฉันวิภา เธอไม่ อยากตายแบบนี้

หัวหน้าบอดี้การ์ดหัวเราะอีกครั้งแล้วพูดว่า “พูดว่าไม่มี อะไรเลยก็ไม่ถูก ถึงยังไงคุณก็ยังมีความงามอยู่บ้าง

หัวใจที่สิ้นหวังของเจริญศรีก็มีเปลวไฟเล็กน้อยอีกครั้ง ถ้า หากร่างกายของตัวเองสามารถกลายเป็นฟางข้าวที่ช่วยชีวิต ตัวเองได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว
ดูเหมือนหัวหน้าบอดี้การ์ดจะมองทะลุเห็นถึงความคิดที่ สกปรกของเจริญศรี เขาจึงพูดว่า “คุณอาจจะคิดมากไปแล้ว เนื่องจากฐานะของคุณไม่มีแล้ว จึงจำเป็นต้องขายคุณแล้ว

บอดี้การ์ดข้างหลังคนหนึ่งพูดตรงกันว่า “พี่ใหญ่พูดถูก แม้ว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนี้จะไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ยังไงเสียเมื่อ ก่อนก็เป็นลูกสาวของตระกูลที่มีชื่อเสียง ถ้าหากไปขายใน พื้นที่ แหะแหะ …. คงมีคนมากมายอยากลอง

หัวหน้าบอดี้การ์ดพยักหน้า ใช้สายตามองและสังเกต เจริญศรีเหมือนกับสินค้าแล้วพูดว่า “อืม พูดไม่เลว ไม่แน่ยัง สามารถขายได้ราคาดีด้วย

บางทีหัวหน้าบอดี้การ์ดก็พร้อมที่จะฆ่าเจริญศรีจริงๆ เพียงแต่ว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าจะนำไปขายได้อย่าง แน่นอน

เจริญศรีรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไร แป๊ปเดียว ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยมีโอกาสไป ที่แบบนั้น แต่เธอก็รู้ว่าสถานที่แบบนั้นเป็นสถานที่ของผู้ชายที่ มีรสนิยมพิลึกพิลั่น ไม่ไหวกับวิธีการนี้อย่างมาก ผิวขาวๆนิ่มๆ ของเธอจะทนทรมานแบบนั้นได้ยังไง?

เจริญศรีต้องการต่อต้าน แต่ด้วยความหวาดกลัวก็พูดไม่ ออก การหลบหนีออกไปจากห้องแคบๆ ยิ่งไม่ต้องพูด

หัวหน้าบอดี้การ์ดเป็นคนที่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เพียง แค่โบกมือเบาๆ ลูกน้องสี่ห้าคนรอบๆก็ขึ้นมาแล้ว
เมื่อถูกมัดมือทั้งสองไพล่หลังในสมองของเจริญศรีก็มีแต่ ความว่างเปล่า หลังจากนั้นปากของเธอก็ถูกยัดด้วยผ้าที่เหม็น เน่า เธอรู้สึกอยากจะอ้วกแต่ก็คายออกมาไม่ได้ อวัยวะภายใน และอวัยวะภายนอกบิดจนเคล็ด เจริญศรีคิดว่าตัวเองตายได้ ทุกเวลา

หลังจากนั้นเจริญศรีก็ถูกปิดตา ถูกบอดี้การ์ดยัดลงไปใน กระเป๋าผ้าลินิน หลังจากนั้นก็ลากลงตึก ยัดลงไปในท้ายรถ อย่างป่าเถื่อน

“เฮ้ ระวังหน่อย ถ้าหากบาดเจ็บมากไปอาจถูกหักเงิน

“เป็นไปได้ไง? คุณยังไม่มีประสบการณ์ละซิ ไม่แน่ว่าบาง คนอาจอยากให้มีบาดแผลเยอะหน่อยมั้ย?”

“เอ๋? มีแบบนี้ด้วยเหรอ?”

“ผู้ชายในนั้น………….

เจริญศรีได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเบาๆ รู้สึกได้ถึง ความสิ้นหวัง ทันทีหลังจากนั้นบทสนทนาน่าเกลียดเหล่านั้นก็ หายไป เจริญศรีจมดิ่งอยู่ในความมืด

เธอหวังว่าตัวเองจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เพราะว่าในเวลา นั้นกลัวว่าจะอยู่บนโลกที่เป็นนรกแล้ว

สำหรับสิ่งนี้เจริญศรีรู้จักตัวเองดี พูดได้แน่นอนว่าหลัง จากเธอตื่นขึ้นมาเธอจะอยู่บนโลกมนุษย์ที่เป็นนรกอย่างแน่นอน

เจริญศรีเข้ามาในสถานที่ขายเรียบร้อยแล้ว ถูกจับตัวอยู่ ในห้องแคบๆห้องหนึ่ง เธอเปลือยกายนิดหน่อย มือและเท้าทั้ง สองถูกมัดด้วยโซ่เหล็กที่เยือกเย็น

ในห้องมืดครึ้มมีเพียงแค่โคมไฟสลัวที่แกว่งไปมาอย่าง ช้าๆบนศีรษะ ในห้องเงียบมาก แต่ได้กลิ่นเหม็นที่ไม่รู้จัก

ผ่านไปนานมากเจริญศรีก็หลุดพ้นออกจากความเบลอ เวลานี้เธอได้ยินเสียงจากข้างนอกชัดเจน

เหมือนกับบ่อนการพนัน กลุ่มคนข้างนอกส่งเสียงตะโกน เสียงดังเป็นศัพท์ของการพนัน แต่ว่ายังเหมือนร้านเหล้า มี เสียงชกต่อยและเสียงเมาอย่างต่อเนื่อง ยังมีแม้กระทั่งเสียงผู้ หญิงผู้ชายที่ยั่วยุหยอกล้อซึ่งกันและกัน

คิดไม่ผิดจริงๆ เจริญศรีถูกขายแล้วเธอเหมือนตกนรก

ร่างกายของเจริญศรีไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียง แค่มอง โคมไฟบนศีรษะด้วยความสิ้นหวัง และยังต้องใช้เวลา ให้ตัวเองได้สติเป็นระยะๆ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เจริญศรีได้ยินบทสนทนาที่

ประตู

“นี่ ไม่น้อยไปหน่อยเหรอ? ถึงแม้ว่าจะเคยเป็นบุคคลที่

มีชื่อเสียงมาก่อนแต่ก็ยังสวยมาก เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่ แล้ว” เจริญศรีได้ยินเสียงคนเมาที่หยาบคาย
“เพียงแต่หนึ่งพันมันค่อนข้างน้อย คิดดูแล้วร่างกายของผู้ หญิงคนนี้ไม่เพียงแค่หนึ่งพัน สองพันห้า คุณต้องการความพึง พอใจแต่ว่านี่เป็นลูกสาวของตระกูลวีระโช เฮ้ ที่ไหนจะยังมี โอกาสแบบนี้?”

เสียงที่หยาบคายนั้นไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนกับว่าเป็นการ กลง ขาย

ในที่สุดเจริญศรีก็ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายของตัวเองแล้ว เธอหลับตาและกัดฟัน เมื่อเธอทรมานมาก ในใจของเธอก็คิด ว่าจะทําอย่างไรให้ในวิภาไม่ตายดี

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป………

“เฮ้ คุณเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ ทำไมต้องเรียกชื่อผู้หญิงคน หนึ่งด้วย?” ผู้ชายคนนั้นจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วย หัวเราะเยาะลูกสาวของตระกูลวีระโชที่ตกอบไปด้วย

ตอนนี้เจริญศรีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นศพ แต่เมื่อผู้ชายคน นั้นถามประโยคนี้ เธอหัวเราะแล้วพูดว่า “ผู้หญิงต่ำช้าคนหนึ่ง

ผู้ชายคนนั้นขมวดคิ้วและคิด เขาแปลกใจแล้วพูดว่า “ชื่อ นี้ฉันเคยได้ยินที่ไหน คุณไม่ควรพูดแบบนั้นกับภรรยาของ

ประธานบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด

ภรรยาประธานบริษัท…….

เจริญศรีโมโหมากที่ได้ยินทั้งสี่คำนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ