พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน408ละลายน้ำแข็งในใจ



ตอน408ละลายน้ำแข็งในใจ

ตอนที่ 408 ละลายน้ำแข็งในใจ

พัชรีเห็นจันวิภาไม่ยอมหยุดหัวเราะซักที แถมด้านหลังพ่อ ลูกยังพยายามกลั้นขำ แล้วทั้งสองคนพ่อลูกยังแต่งตัวเหมือน กันอีก อย่างกับตุ๊กตารัสเซียยังไงยังงั้น ภาพที่เห็นทำให้พัชรี โกรธไม่ลงจริงๆ

“พวกนายสนุกมากไหม เกลียดจริงๆเลย!

พัชรีขมวดคิ้ว พร้อมกับมองหน้าสองพ่อลูกด้วยสายตา

โกรธเคือง

สุมิตรกับนิเวศน์ไม่ได้คิดว่าพัชรีจะขี้อายขนาดนี้ ทั้งสอง หันมามองหน้ากัน แล้วก็ค่อยๆยิ้มออกมา

ธนภาคคิดว่าตอนพัชรีโกรธแล้วดูน่ารักมาก แต่ก็ไม่กล้า หยอกเธอแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มบทสนทนาอีกครั้ง “มาแล้วก็มา นั่งก่อนสิ มายืนตะโกนคุยกันอยู่ได้

จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งลง นิเวศน์นั่งข้างๆ ธนภาคกับพัชรี ศีรษะของเขาสูงเลยขอบโต๊ะมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น แล้วก็ มองไปซ้ายทีขวาที

“มองอะไรของหนู ไม่เจอกันไม่กี่วันกล้าขึ้นเยอะนะ? หรือ ว่าอยากโดนตีตูด?”
พัชรีจ้องเขม็ง พลางย่นจมูก

นิเวศน์หรี่ตาทันทีพร้อมกับพยักหน้าและพูดว่า “ผมจะ บอกว่า คุณน้าพัชรีนี่ก็แต่งตัวเป็นเหมือนกันเนอะ ผมว่าสวย มากเลย

พอเขาพูดจบทุกคนก็เลยพึ่งสังเกตเห็นว่าพัชรีไม่เพียงแต่ สวมใส่ชุดเดรส แต่ยังแต่งหน้าบางๆอีกด้วย

ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็กลับไปจ้องที่พัชรีอีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเธอที่พึ่งจะหายแดงจากความอายกลับ มาแดงอีกครั้งนึง

ธนภาคกระแอมสองครั้งเพื่อให้ทุกคนหยุดมอง “เฮ้ พวก นายเล่นอะไรกันเนี่ย ตอนนี้พัชรีเป็นแฟนของฉัน จะแต่งตัวสัก หน่อยมันจะแปลกอะไรล่ะ? หัดเปิดหูเปิดตาซะบ้างนะ

พอนิเวศน์ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา “ผ่านไปไม่กี่วัน คำก็พัชรีของฉัน สองคำก็แฟนฉัน ลุงธนภาคนช่าง…งๆ

เลย….”

ธนภาครู้อยู่แล้วว่า วันนี้ทั้งสามคนนี้จงใจมาแซวเขากับ

พัชรี เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่ส่ายหัว “ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้อง เป็นแบบนี้”

ในที่สุดสุมิตรก็พูดขึ้นมา “มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลย นะ ถ้าไม่แซวพวกนายสักหน่อยก็ถือว่าพลาดโอกาสนะสิ แล้ว อีกอย่างฉันยังไม่เคยเห็นตอนมีผู้หญิงรุมรอบมาก่อนเลย
จันวิภากำลังจะแซวขึ้นมาเหมือนกัน แต่โดนพัชรีมองหาง ตา ใส่พร้อมพูดว่า “ทำไม? ดูถูกผู้หญิงหรือยังไง? นายพูดมาส ว่าผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชายตรงไหน?

แล้วบรรยากาศก็ตึงเครียดขึ้นมา ธนภาคกับจันวิภาต่าง มองหน้ากัน แล้วก็หันไปดูสีหน้าของสุมิตร ทั้งสองคนกลัวว่า พัชรีกับสุมิตรจะทะเลาะกัน

ถ้าเป็นแบบนั้นความตั้งใจที่จะนัดรวมให้พวกเขามาคุย กันก็พังน่ะสิ

แต่เมื่อสุมิตรได้ยินพัชรีพูดดังนั้นกลับยิ้มออกมา ยกขาขึ้น ดื่มแล้วพูดออกมาว่า “คุณพัชรีเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่นไม่ ได้หรอก นี่ไม่ใช่คำชมเกินจริงนะ ฉันก็เคยเจอมากับตัว ถ้า เกิดมีครั้งหน้าที่ฉันพูดจาให้ตะขิดตะขวงใจ ก็ขอให้ยกโทษให้ คำพูดที่พูดโดยไม่ใช้สมองของฉันด้วย

หลังจากได้ยินสุมิตรพูดแบบนี้ ความคิดแรกของพัชรี คือ : นี่คือสุมิตรตัวจริงเหรอ? สุมิตรคนก่อนที่ไม่มีใครใน โลกจะขัดใจเขาได้จะมาพูดขอโทษง่ายๆแบบนี้เหรอ?

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ

พัชรีมึนงง ธนภาคก็ดึงมือให้เธอนั่งลง สุดท้ายพัชรีก็นั่ง ลงด้วยความมึนงง

สุมิตรคิดว่าบรรยากาศตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะขอโทษ ก็ เลยได้แต่พูดกับทุกคนว่า “ฉันคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในวันนี้ก็คือมาเลี้ยงฉลองเพื่อแสดงความยินดีให้กับความรักของธน ภาคและพัชรี”

หลังจากพูดจบสุมิตรก็ชูแก้วขึ้น แล้วบอกทุกคนว่า “พวก ที่น่ายินดีมากเลยนะ”

นายต้องอย่าให้บรรยากาศมันน่าอึดอัด เรื่องนี้มันเป็นเรื่อง

มันน้อยมากที่จะเห็นสุมิตรพูดจาสร้างบรรยากาศ เพราะ ฉะนั้นก็ไม่มีใครกล้าทำให้เขาเสียหน้า แม้แต่นิเวศน์เองก็ แก้วขึ้นมาเหมือนกัน

ธนภาคยิ้มแล้วตอบว่า “ต้องขอบคุณที่ทุกคนช่วยเหลือ ไม่งั้นไม่รู้ว่าด้วยนิสัยของเราสองคนจะทำให้เรามาคบกันได้ยัง ไง”

จันวิภาตอบอย่างเริงร่าว่า “ขอให้พวกนายอยู่กันไปจนแก่

เฒ่า”

“มีลูกชายไวๆ

จู่ๆนิเวศน์ก็พูดประโยคนี้ออกมา แต่น่าจะคิดไกลไปหน่อย แต่ไม่ว่ายังไงมันก็เป็นคำอวยพรเหมือนกัน ก็เลยไม่มีใครด เขา แต่ทุกคนกลับหัวเราะออกมา

การที่นิเวศน์โพล่งออกมาแบบนั้นทำให้ทุกคนหัวเราะ สนุกสนาน แล้วทุกคนก็ดื่มแก้วแรกพร้อมกับเสียงหัวเราะ

พอดื่มไปสามแก้ว พัชรีก็เริ่มไม่วางมาดแล้ว เข้าสู่การ สนทนาอย่างเต็มตัว ใบหน้าขาวๆตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแรงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ตอนนั้นเองสุมิตรก็คิดว่าถึงเวลาที่เหมาะสม แล้ว จึงพร้อมที่จะพูดเรื่องที่เขาตั้งใจมาในวันนี้

สุมิตรเทเหล้าให้พัชรีเต็มแก้ว ตอนนั้นทุกคนรู้ว่าอะไรควร ไม่ควร ก็เลยไม่มีใครพูดอะไรแทรกออกมา

“พัชรี เหล้าแก้วนี้แทนคำขอโทษจากฉัน

สุมิตรดื่มเข้าไป แล้วก็มองหน้าพัชรีอย่างจริงจัง “เมื่อก่อน ตอนที่ฉันชอบรังแกจนวิภา เธอเองคงคิดว่าฉันเป็นผู้ชายเลวๆ คนนึง แล้วก็ยังทะเลาะกับฉันหลายครั้งเรื่องกันวิภา ความผิดที่ ฉันเคยทำมันมากมายเหลือเกิน มันเป็นเรื่องที่ฉันต้องยอมรับ

พัชรีเงียบ เธอไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ได้แต่เม้มริมฝีปาก

“แต่ว่าสิ่งที่ฉันอยากพูดก็คือ หวังว่าหลังจากนี้เธอจะ เปลี่ยนความคิดที่มีต่อฉัน

“หลังจากฉันหายป่วย ฉันก็ได้สังเกตเห็นสิ่งที่ไอก่อนฉัน ไม่เคยคิดแม้แต่จะสนใจด้วยซ้ำ และก็ยังได้เห็นว่าเมื่อก่อนฉัน เคยโง่เขลาและบุ่มบ่ามแค่ไหน

“ไม่ว่าจะกับเธอหรือกับจันวิภา ฉันก็อยากจะชดใช้ด้วย ความจริงใจ ฉันจะไม่มีวันกลับไปเป็นสุมิตรคนเก่าอีกแล้ว…

ต้องบอกว่า หลังจากได้ยินคำพูดพวกนี้ จันวิภาก็ขนลุก ขึ้นมาทันที

ท่านประธานสุมิตรคนนั้นน่ะ ถึงจะรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้ว แต่การที่เขาทำถึงขนาดนี้ก็ทำให้ทุกคนตะลึงไปเหมือนกัน
พัชรีคิดเหมือนกันจนวิภาเป๊ะ

ดรึเปล่า

เธอกำลังสงสัยว่าเธอฟัง

แต่หลังจากได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของสุมิตรแล้ว เธอก็ เชื่อเขา แต่เธอก็ยังคงไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

สุมิตรเห็นว่าเธอไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ที่ จริง ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เข้าใจเธอนะ เธอจะปฏิเสธคำขอโทษ ของฉันก็ได้ หรือจะยอมรับก็ได้ เป็นสิ่งที่เธอมีสิทธิตัดสินใจ ฉันไม่มีทางเปลี่ยนความคิดเพราะสิ่งที่เธอเลือกหรอก

ไม่รู้ว่าธนภาคไปยืนอยู่ตรงข้างหลังของพัชรีตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาจับมือเธอ แล้วก็ก้มกระซิบบางอย่างที่ข้างหู

สุมิตรทำขนาดนี้แล้ว ถ้าพัชรียังนั่งนิ่งอยู่แบบนี้ เขาคง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

พัชรีถอนหายใจยาว แล้วก็พูดด้วยสีหน้าเรียบเชียบว่า “ช่างมันเถอะ นายเป็นถึงคนใหญ่คนโต ถ้าไม่ตอบอะไรนาย ก็คงจะถือว่าไม่ไว้หน้าท่านประธานไปหน่อยล่ะมั้ง

ถึงแม้ว่าเธอจะมีสีหน้าเย็นชา แต่ทุกคนก็รู้ว่าในใจของ เธอให้อภัยเขาแล้ว

พัชรีเป็นคนปากแข็งมาโดยตลอด โดยเฉพาะเหตุการณ์ แบบนี้ยิ่งยากที่เธอจะพูดความในใจออกมา เรื่องนี้ทุกคนต่างรู้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ