พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน460เบาะแสใหม่



ตอน460เบาะแสใหม่

ตอนที่460 เบาะแสใหม่

“ไม่ใช่ว่ามีที่อยู่แล้วเหรอ ส่งกำลังคนไป จะสามารถดึง

ฝ่ายตรงข้ามออกมา

มือลูบไปที่หัวของนิเวศน์ สุมิตรพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ครั้ง นี้พวกเราจะต้องพาแม่ของลูกกลับบ้านไปด้วยกัน

“ครับ แน่นอน”

ภายในรถ พ่อและลูกชายให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ความมุ่งมั่นที่จะได้รับ

แต่การรอคอยของพวกเขามันเป็นอนาคตที่ไม่แน่นอน

สุมิตรที่เพิ่งถึงเมืองปี ถูกคนของสุพจน์พบลาดเลาเข้าแล้ว เอาข่าวดีอย่างนี้ไปบอกสุพจน์ ชายหัวล้านที่เจอสุพจน์ แล้วพูดอย่างดีใจว่า “นายครับ สุมิตรมาเมืองแล้วครับ สุพจน์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจแล้วถามว่า “เขามา

ด้วยตัวเองเหรอ”

“ไม่ครับ เขามากับลูกชายครับ” ชายหัวล้านดูตื่นเต้นดวงตาดุร้ายแล้วพูดว่า “เมืองที่เป็นพื้นที่ของพวกเรา สุมิตรมา ที่นี่ มันก็เหมือนกับการโยนตัวเองเข้าไปในกับดักใน ครั้งนี้ ต้องฆ่าเขาให้ตาย

“อย่าเพิ่งลงมือทำอะไร

เมื่อได้ยินคำสั่งดังกล่าวชายหัวล้านก็ตะลึงและไม่อยากจะ เชื่อเลยถามขึ้นว่า “ทำไมครับ

“มาโดยไม่มีเหตุผล ต้องเกี่ยวข้องกับวันวิภาแน่ ก่อนที่จะ ยินข่าวของฉันวิภา อย่าเพิ่งทำอะไรเขา

จนวิภา เพื่อกันวิภาอีกแล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย ใช่ไหม นายใหญ่ถึงไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้

ชายหัวล้านโกรธมาก จนหน้าทิ้ง

พบว่าลูกน้องไม่พูดไม่จา สุพจน์ขมวดคิ้วถามลูกน้อง ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ”

ชายหัวล้านหันกลับมาแล้วพูดว่า “ได้ยินแล้วครับ

“เมื่อได้ยินอย่างนั้นส่งคนมาจับตาดูไว้ ไม่มีคำสั่งไม่ต้อง ลงมือ

ครับ”

“ไปสิ”

เมื่อได้สัญญาณ ชายหัวล้านก็หันตัวกลับออกไป
ยืนอยู่ด้านนอก ชายหัวล้านกำหมัดแน่น และสงสัยว่าสิ่ง ที่ดีเกี่ยวกับจันวิภามีอะไรดี ถึงทำให้สุพจน์เป็นแบบนี้ยอมสูญ เสียสถานะของเขาอีกครั้งและอีกครั้งแม้แต่อำนาจในมือก็ไม่ ต้องการ

ผู้หญิงคนนี้เป็นหายนะ

ชายหัวล้านหรี่ตามอง สีหน้าเต็มใบด้วยความอาฆาตและ พูดว่า “จันวิภา คนหายนะอย่างเธอ ไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลก

สุมิตรพบว่าตัวเองถูกสะกดรอยตาม

สุมิตรมองรถที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหลัง แล้วพูดว่า “ข้าง

หลังคือคนของใคร

ลูกน้องตอบกลับว่า “ดูจากรอยแผลแล้วเหมือนจะเป็นคน ของสุพจน์”

“อ้อ สุพจน์ก็นั่งไม่ติดแล้ว

“ท่านนั่งให้มั่นนะครับ ตอนนี้ผมจะโยนพวกข้างหลังนั้น

ทิ้ง”

สุมิตรเพิ่งจะตกลง นิเวศน์จึงแย่งพูดขึ้นว่า “พ่อครับ รีบ โยนพวกเขาทำไมกัน เล่นกับพวกเขาก่อนสิ

“เล่นเหรอ”

“ชัดเจนแล้วว่าสุพจน์กำลังมองพวกเราอยู่ เขาไม่รีบร้อนจะลงมือ เพราะว่าเขาก็อยากจะตามข่าวแม่จากพวกเรา เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ให้ข่าวดีพวกเขาหน่อย

ใน

มองไปที่ใบหน้าเจ้าเล่ห์ของนิเวศน์ สุมิตรถามอย่างสงสัย ว่า “ความหมายของลูกคือ ให้ข่าวปลอมกับพวกเขาเหรอ”

นิเวศน์พยักหน้า “ใช่ครับ แบบนี้แล้ว มันเป็นทางที่ดีที่สุด ที่จะกำจัดกำลังของสุพจน์

“แล้วลูกคิดจะทำยังไง

“เราติดตามในพื้นที่เดิม แต่ให้สุพจน์ในเส้นทางตรงกัน

“ในเมื่อลูกมีวิธี ก็ทำเถอะ

ข้าม

สุมิตรไม่มีความคิดที่จะคิดเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆเหล่านั้น ในเมื่อนิเวศน์วีความคิดก็ให้เขาไปเล่นดีแล้ว

เมื่อมาถึงวันนัด สุมิตรเอาข้อมูลออกมา

ไม่อยากให้คนของสุพจน์เจอเข้า สุมิตรเลยให้คนนั่งแทน เขาในรถสีดำออกไป และตัวเขาเองกลับนั่งอยู่ในรถธรรมดาๆ อีกคัน

ผู้หญิงคนนั้นให้สถานที่ คือข้างตลาดอาหารทะเล โดย รอบมีคนผ่านไปผ่านมา ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวของ สัตว์น้ำ
สุมิตรกดหมวกลงต่ำวางถุงกระดาษสีน้ำตาลไว้ในถังขยะ หลังจากนั้นก็ยืนอยู่แถวนั้นไม่ขยับและไม่ออกไปไหน

เวลาผ่านไปนานมาก นานจนคนรอบๆมองสุมิตรอย่าง สงสัย เขาถึงจะได้รับสายโทรศัพท์

สุมิตรไม่ไปไหน เปมิศาก็ไปเอาของไม่ได้ ก็เลยโทรไปหา เพื่อส่งสัญญาณให้เขา คุณไปได้แล้ว

“คนที่ฉันต้องการละ

“ก็อยู่ใกล้คุณ ฉันได้ของแล้วก็จะส่งเขากลับให้คุณ

“อย่ามาหลอกฉัน ฉันต้องการเจอเขาตอนนี้

“เฮ้อ ผู้ชายอย่างพวกคุณก็ใจร้อนจัง โอเค ก็จะให้คำ แนะนำคุณหน่อย ไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่สบายใจ

พูดพลาง เปมิศาก็โบกมือให้กับจันวิภาและบอกที่กำลัง เลือกอาหารทะเล ทิพานั้น เลือกเสร็จรึยัง

จันวิภายกถุงกุ้งมังกรขึ้น แล้วพูดว่า “ฉันเลือกมาเยอะ มากแล้ว แต่ปองก็บอกว่ายังไม่พอ พวกเราแค่สามคนก็กินไม่ หมดแล้วเยอะมาก

ช่วงเวลา ที่ได้ยินเสียงของจันวิภาอีกครั้ง ใจของสุมิตรที่ สั่นราวกับกลองและกฝ่ามือไว้แน่

มองดูถุงกุ้งมังกรเล็ก เปมิศาก็ส่ายหน้า “ไม่ได้ๆ แค่นี้ฉันกินคนเดียวก็ยังไม่พอ ไปเลือกอีกหน่อยเถอะ

เห็นเปมิศารับโทรศัพท์อยู่ เหมือนจะยังไม่วางสาย

วิภาจึงถามอย่างสงสัย “คุณอยู่กับใคร

“เพื่อนคนหนึ่ง”

“อ้อ”

จันวิภาพยักหน้า หันตัวกลับไปเลือกกุ้งต่อที่เดียวกับของ เอาโทรศัพท์แนบหูแล้วเปมิศาก็พูดอย่างยิ้มๆว่า “เป็นไง ตอนนี้วางใจได้รึยัง คุณสุมิตร

“ฉันเพียงแค่ฟังเสียง ใครจะไปรู้ว่าเธออัดเสียงไว้แล้ว เปล่า ส่งรูปมาให้ฉันหนึ่งรูป ฉันจะออกไปตอนนี้

“ยุ่งยากจริงๆ”

เปมิศาวางสาย แล้วถ่ายรูปของจันวิภาหลังจากนั้นก็ส่ง

ให้สุมิตร

เมื่อได้เห็นรูปใจของสุมิตรยิ่งตื่นเต้น

แต่เขายังไม่หยุด เขาโทรหานิเวศน์

“นิเวศน์ พวกเขาน่าจะอยู่แถวตลาด เวลาของพวกเรา น้อย ลูกมีเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น

“แค่นี้ก็พอแล้ว”

ด้วยความมั่นใจนิเวศน์ใช้นิ้วมือกดลงบนแป้นพิมพ์
สุมิตรออกห่างจากถังขยะ แล้วขอทานก็มาเอาของ

จดหมายไปหลังจากเลี้ยวสองสามรอบก็หายตัวไปในถนน

ถ่ายรูปข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือและส่งมันให้ใครบางคน แล้วขอทานทำลายข้อมูลทั้งหมด

ดูเปลวไฟกินมุมสุดท้ายของกระดาษข้อมูล แล้วขอทานก็ หันไปรอบๆและเดินออกไป

แต่ทันทีที่เขาหันไปรอบๆ ผู้ชายที่ตัวใหญ่สามถึงห้าคน ล้อมรอบเขาและปิดริมฝีปากของขอทานและบอกให้คนลาก เขาเข้าไปในมุมตึก

“ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย

ขอทานร้องไห้ด้วยความกลัว ร่างกายสั่นเทา

แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้สงสารเขา เพียงแค่ค้นหาโทรศัพท์ มือถือที่เขาเพิ่งใช้จากตัวเขา

แย่ง โทรศัพท์มาเปิดดู พบว่าข้อมูลในนั้นทั้งหมดว่างเปล่า

“เมื่อกี้เธอส่งของนั้นให้ใคร

“ฉันไม่รู้ ผู้หญิงคนหนึ่งให้เงินฉันมา แล้วก็สอนฉันว่า โทรศัพท์ใช้ยังไง อย่างอื่นฉันไม่รู้อะไรเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ