พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน302ถูกสุพจน์กักบริเวณ



ตอน302ถูกสุพจน์กักบริเวณ

ตอนที่ 302 ถูกสุพจน์กักบริเวณ

คำพูดของนิเวศน์เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ถ้าในวิภาไม่ไปดู สุมิตรทันที สุมิตรก็จะตาย

เมื่อเทียบกับความกังวลของนิเวศน์แล้ว หลังจากวันวิภา ได้ยินคำพูดของนิเวศน์แล้วก็ช็อกไปทันที

จันวิภาตกอยู่ในความสับสน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคำพูดของนิเวศน์ถึงได้แตกต่างจากคำพูดของสุพจน์โดย สิ้นเชิงแบบนี้ มันแตกต่างเกินไป

ใครกันที่โกหกเธอ ชั่วขณะนั้น จันวิภาไม่สามารถบอกได้ ว่าใครพูดความจริง ใครกันแน่ที่โกหก สิ่งเดียวที่ยืนยันได้คือ พวกเขาสองคนต้องมีคนหนึ่งที่โกหก ปัญหาคือคนคนนั้น โกหกเธอทําไม

จนวิภามองไปที่ลูกรักของตนอย่างใจหาย เธออยากเห็น บางสิ่งบางอย่างปรากฏออกมาจากสีหน้าของลูกชาย

การร้องไห้ไปด้วยในน้ำเสียงของการพูดจาของนิเวศน์ ยัง

มีสีหน้าที่โศกเศร้าและเป็นกังวลของเขา นั่นทำให้ฉันวิภาเชื่อ

คำพูดเขาโดยไม่รู้ตัว

จันวิภาเสียใจ เธอสงสัยลูกรักของตัวเองได้อย่างไร ถึงแม้ว่าปกตินิเวศน์มักจะชนและชอบก่อเรื่อง แต่เขาไม่ใช่คนที่ จะเล่นตลกกับชีวิตของพ่อตัวเอง! กลายเป็นสุพจน์ที่น่าสงสัย กว่า กับความเกลียดชังที่รุนแรงของเขาที่มีต่อสุมิตร มันเป็น ไปได้ที่เขาจะโกหกหลอกลวงตน ส่วนเหตุผลนั้นใช้นิ้วหัวแม่ เท้าคิดก็สามารถคิดออกได้

สุพจน์ที่เกลียดสุมิตรมาก ไม่ต้องการให้ไปเยี่ยมสุมิตรแน่ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องโกหก

เมื่อคิดได้ดังนั้นจนวิภาก็ผ่อนคลายลง แต่เพียงไม่นานก็ สติหลุดอีกครั้ง

ไม่ ไม่ได้! ถ้ามันเป็นเหมือนอย่างที่นิเวศน์พูด ไม่ใช่ว่า มิตรกำลังจะตายแล้วหรอกเหรอ! สวรรค์! เมื่อเทียบกับเรื่องที่ ใครหลอกลวงเธอ เรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญเลย

ถึงแม้ว่าจันวิภาจะลองจินตนาการดูแล้วตั้งแต่เมื่อคืนว่า ถ้าเขาตายไปตนจะทำอย่างไรดี จะดีใจไหม หรือว่าจะรู้สึกโล่ง ใจหรือเปล่า

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร มันก็เป็นเพียงแค่การคาดเดา ตอนนี้ ความเป็นจริงมาอยู่ตรงหน้าแล้ว ซึ่งสิ่งนั้นทำให้ฉันวิภาสิ้นหวัง มากเสียจนหัวใจเหมือนกับจะว่างเปล่าไร้ความรู้สึก ในใจไม่ อาจมีสมาธิอยู่ได้ จนในวิภารู้สึกว่าอีกไม่นานตัวเองจะกลาย เป็นศพเดินได้

ไม่ได้ เธอต้องไม่เป็นแบบนี้ เธอไม่เชื่อว่าสุมิตรจะตาย! เธอไม่ต้องการให้สุมิตรตายไปแบบนี้
“มามี! มาพูด ถ้ามาไม่ไปหาคุณพ่อจากนี้ก็ไม่ สามารถได้พบเขาอีกแล้วนะ มายอมเหรอครับ!” เสียงของ นิเวศน์ดังขึ้นในโสตประสาท จันวิภากนิเวศน์เรียกสติกลับมา

เธอมองนิเวศน์ด้วยสายตาว่างเปล่า แล้วจากนั้นดวงตาก็ สดใสอีกครั้ง มันเหมือนกับว่าในใจตัดสินใจอะไรได้ จนวิภา อุ้มนิเวศน์ขึ้นแล้วพูดอย่างแน่วแน่ว่า “มามเข้าใจแล้ว นิเวศน์ พวกเราไปโรงพยาบาลกันเถอะ! ลูกแม่ ลูกต้องเชื่อใจคุณพ่อ นะ เขาจะต้องไม่ตายง่ายๆ แน่!”

ด้วยเหตุนี้ จันวิภาจึงอุ้มนิเวศน์ไป แม้แต่โทรศัพท์มือถือ ไม่ทันได้เอาไป เร่งรีบออกจากห้องลงไปที่ชั้นล่าง

จนวิภารีบก้าวไปอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่าตัวเองจะมีปีก งอกออกมา ในตอนนี้เพื่อบินไปโรงพยาบาลดูสถานการณ์ของ สุมิตร ตั้งแต่ตอนที่นิเวศน์บอกว่าสุมิตรกำลังจะตาย จนวิภา ก็ได้สูญเสียหัวใจตัวเองไปแล้ว มันเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะ สูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป

เมื่อนั้นจันวิภากับนิเวศน์ก็เปลี่ยนรองเท้าเพื่อที่จะออกไป แต่กลับถูกบอดี้การ์ดหน้าประตูขวางไว้

จนวิภาขมวดคิ้วพลางมองพวกเขา พูดอย่างไม่พอใจว่า

“พวกคุณทำอะไร หลีกไป

เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วก็กอดนิเวศน์และต้องการเดินแหวก พวกเขาทั้งสองไป แต่ทว่า สองบอดี้การ์ดขวางประตูไว้ทั้งฝั่ง ซ้ายและฝั่งขวา แขนที่กางออกมาเหมือนแขนเหล็ก ไม่มีการผ่อนปรน พวกเขาทั้งสองยืนตัวตรงเหมือนเสาเหล็ก

หนึ่งในนั้นพูดขอโทษกับฉันวิภาว่า “ขอโทษครับคุณผู้ หญิง เจ้านายสั่งพวกเราไว้ว่าห้ามให้พวกคุณออกไปข้างนอก ถ้าคุณอยากออกไปข้างนอก ต้องได้รับการอนุมัติจากเขา

“ทำไมถึงไม่ให้ฉันออกไป” พอได้ยินคำพูดของบอดี้การ์ด จันวิภาคีทั้งตกใจทั้งโกรธ

แปลกใจที่สุพจน์มาออกคำสั่งแปลกๆ แบบนี้ ที่โกรธคือ คำพูดประโยคนี้มันออกมาจากปากของคนอื่น ถ้ามีเหตุผล อะไรเป็นพิเศษทำไมเขาไม่พูดกับตน

บอดี้การ์ดที่คุยกับจันวิภาส่ายหน้าแล้วพูดอย่างมั่นคงว่า “ผมไม่รู้ ผมแค่ทำตามคำสั่ง ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น

“บ้าอะไรเนี่ย!” ในวิภาโกรธมาก เธอจ้องมองด้วยความ โกรธพลางพูด โดยไม่รอช้า “ฉันไม่สนว่าสุพจน์มีเหตุผลอะไร แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องด่วนต้องออกไป ถ้าพวกคุณไม่หลีก ฉันจะ ไม่เกรงใจพวกคุณแล้วนะ!

แค่บอดี้การ์ดสองคนน่ะเหรอจะมาขวางเธอได้ สุพจน์คิด ว่าเธอเป็นใครกัน

ในใจจนวิภากังวลถึงสุมิตร ไม่มีเวลาที่จะมาคิดว่าสุพจน์ ทำไปเพราะอะไร เมื่อพูดจบก็พยายามวิ่งแหวกออกไปโดยไม่ คำนึกถึงสิ่งใด แต่กลับถูกบอดี้การ์ดทั้งสองคนผลักเธอเข้ามา ไปข้างใน
คนเดิมพูดออกมาอีกครั้ง เราแค่ทำตามคำสั่ง ได้โปรด อย่าทำให้พวกเราลำบากอีกเลย ถ้าพวกเราปล่อยคุณออกไป แบบนี้ เมื่อเจ้านายกลับมาต้องไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่

เมื่อพูดจบก็เปลี่ยนสีหน้าอ่อนลงและพูดด้วยเสียงปกติว่า “ผมรู้ว่าคุณผู้หญิงเป็นคนจิตใจดี เห็นอยู่ว่าพวกเรามี ครอบครัวที่ต้องดูแล อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากอีกเลยนะ

เมื่อความอ่อนลงเผยออกมา สำหรับเหตุผลนี้ ถ้าจนวิภา ยังยืนยันที่จะออกไป นั่นก็แสดงว่าเธอใจร้ายใจดำ ไม่คำนึงถึง ครอบครัวคนอื่น กลายเป็นผู้หญิงใจร้าย

สีหน้าของวันวิภาแย่ลง พวกเขามีครอบครัวที่ต้องดูแล และพวกเขาจะตกงาน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังหางานอื่นได้ แต่ ว่าถ้าสุมิตรต้องตาย ใครจะชดใช้สุมิตรคืนให้เธอได้

อีกอย่าง พวกเขาชดใช้ได้ไหม!

จันวิภาต้องการที่จะบุกออกไปอีกครั้ง นิเวศน์ที่อยู่ในอ้อม แขนของฉันวิภาได้ยินคำพูดนั้น เขามองจันวิภาแล้วพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะครับมา พวกเขาไม่ให้ออกไป พวกเราก็ไม่ต้อง ออก”

จะทำอย่างนั้นได้ยังไง!

จนวิภาจ้องมองนิเวศน์อย่างไม่พอใจ อยากจะตำหนิเขา กับการทรยศครั้งนี้ แต่เมื่อวันวิภามองนิเวศน์ก็ชะงักไปทันทีเพราะเธอเห็นค่บอกไปในดวงตาของนิเวศน์ ยังมีอาการสาย หน้าของเขาด้วย

แม่ลูกมีหัวใจเชื่อมโยงกัน จนวิภาเข้าใจความหมายของ นิเวศน์ในทันที เขาแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีทางอื่น ตอนนี้ขอ แคตน ให้ความร่วมมือกับเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ