พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน349คนขี้แพ้



ตอน349คนขี้แพ้

ตอนที่ 349 คนขี้แพ้

คำพูดของเจริญศรีถูกสุพจน์ใช้ดวงตาราวเหมือนใช้มีด ทำให้ไม่กล้าก้าวร้าว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามีความแข็งแกร่งนั้น ทรงพลังอย่างมาก โดยไม่ต้องสงสัย และสิ่งที่น่ากลัวคือความ ลึกลับของเขา

ระยะเวลาที่ร่วมมือกันมานาน เจริญศรีไม่รู้จักตัวตนของ พจน์ เพราะยังงั้นเลยมีข้อห้ามมากมาย

จะว่าไปเจริญศรีไม่ได้เตรียมใจกับจันวิภาที่เดินจากไป เลยลองถามไป : “คุณจะล้อเลิกจริงๆหรอ? แผนเราดำเนินการ มาถึงตอนนี้ คุณจะล้มเลิกง่ายๆแบบนี้หรือไง?

“ถ้าเกิดจันวิภาไม่ได้จากที่นี้ ก่อนหน้านี้ที่ลงทุนเงิน มากมายให้บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปได้จะ เสียเปรียบเปล่านะ

เจริญศรีเหมือนไม่ได้อะไรเลย หวังว่าจะได้อะไรกลับ แต่ กลับศูนย์เสียไป หรือจะเป็นคนในตะกละโชก็คงไม่ให้อะไร เธอแน่ และตอนนั้นเองภายนอกภายในทำเหมือนเธอไม่ใช่คน

เจริญศรีกังวลใจมาก แต่สุพจน์ไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย พูด เหมือนไม่แคร์ไปว่า “สำหรับฉันศูนย์เสียแค่นั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”

คำพูดนี้ไม่ใช่คำโกหก แต่นั้นไม่สะเทือนอะไรกับสุพจน์ เลย แต่กับเจริญศรีเหมือนโดนกะจากเลือด เธอกัดฟัน อดกัน ความโกรธไว้ข้างในพูดอีกไปว่า “คุณทำเพื่อที่จะได้จนวิภามา งั้นก็ลักพาตัวเธอไปตอนนี้สิ ออกไปจากที่นี้ จากความสามารถ ของคุณที่หรอจะคุมตัวผู้หญิงหนึ่งคนไม่ได้?

สุพจน์ทําเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ และดูดบุหรี่ต่อ และมีแววตาที่ว่างเปล่า

แน่นอนที่เขาจะสามารถพาตัวจันวิภาไปได้ และยัง สามารถทำให้เธออยู่กับตัวเองไปตลอดชีวิต แต่ว่ามันจะมี ความหมายหรอ? ถ้างั้นซื้อแจกันดอกไม้มาทำให้ตัวเองมี ความสุขดีกว่าอย่างน้อยแจกันดอกไม้ไม่มีได้ แต่ว่าในใจของ จันวิภาคิดถึงแต่สุมิตรคนเดียว

“หรือว่าไม่ว่าฉันจะทำยังไง แต่ก็สู้ไอ้สุมิตรแห้งซวยไม่ได้ เลยหรอ?”

บุหรี่ในมือของสุพจน์ได้ตามมาโดนนิ้ว แต่เขาแถบจะไม่

ได้ทําอะไรเลย

“เห้ย ที่ฉันพูดไปคุณได้ยินไหมเนี่ย? คุณยังใช่ผู้ชายอยู่ หรือเปล่าเนี่ย?” เจริญศรีกังวลมาก คำพูดที่มันเสียมารยาท แบบนี้ยังกล้าที่พูดต่อหน้าสุพจน์

หลังจากที่พูดจบเจริญศรีก็รู้สึกเสียใจที่หลัง ปากไปที่ปากที่เริ่มซีด ใบหน้าสีแดงกลับเปลี่ยนเป็นเหมือนไม่มีเลือดไหล เวียน เธอกลัวว่าสุพจน์จะเอาความโกรธทั้งหมดมาลงที่ตัวเอง

สุพจน์ฟังจากที่เจริญศรีพูด จึงค่อยๆหันไป เพื่อเดือนเธอ อีกครั้งว่า : “ถ้าเกิดคุณยังจะพูดอะไรที่มันเหลวไหลอีกละก็ จะ ไม่ลังเลที่จะฆ่าเธอแน่

น้ำเสียงคำพูดเหมือนฟังดูปกติ แต่ว่าเต็มไปด้วยกลิ่นไอ ของความโกรธแค้น แต่ทว่าคนที่พูดคือสุพจน์ไม่เชื่อก็คงต้อง เชื่อ จากนั้นเลยจําใจเดินไปจากห้องนั้นไป

เหลือแต่สุพจน์ที่อยู่ห้องนั้นคนเดียว เหมือนกับรอบตัวได้ หยุดเวลา เขาดูดบุหรี่หมดแล้วต่ออีกม้วน ดูดจนคอเจ็บ ตา เมื่อยล้า กับใจที่มัวหมอง

อยู่จนหลังจากบุหรี่ได้ดูดหมด สุพจน์จึงสติมาได้จึงได้

ค่อยๆออกมาจากห้องนี้

แม้ว่าเวลาที่เขาเดินยังดูมั่นคง แต่อาการของเขาทั้งการ เดินและการแสดงออกของเขานั้นผิดปกติ ถ้าเกิดมีคนรู้จักสุ พจน์อยู่ ต้องรู้สึกว่าเขาแก่ขึ้นสิบปี

สุพจน์เป็นคนที่เข้าใจอื่นมาก แต่เพื่อจันวิภา เขาทำเรื่อง ที่น่าปวดหัว อย่างเช่นแม้ว่าตัวเองจะขาดทุนจากบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัดก็เถอะ นี้คือเรื่องที่ใหญ่ที่ในชีวิตของสุพจน์

ในตอนนี้สุพจน์ไม่เหลืออะไรเลย แต่ก็ไม่ได้เสียใจเลย เขาจะไม่ยอมแพ้ หรือเปลี่ยนคำพูดว่า ก็ประมาณช่วงนี้นี้เป็นสิ่งที่เขาเจ็บปวดทรมานมากที่สุดในชีวิต เขาไม่เคยสงสัยในตัวเองเหมือนตอนนี้

แต่เจริญศรีเป็นแค่ผู้พ่ายแพ้ในแผนนี้ สิ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ เขาโกรธมากกว่าผู้พ่ายแพ้เสียอีก

จากการเริ่มแผนการนี้ เจริญศรีก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่หมากตัว สำคัญในเกมของสุพจน์ แต่ว่าเธอหวังเพื่อที่จะเอาสุมิตรกลับ มา มันจึงเป็นหมากที่สำคัญของเธอ หรือว่าในใจเธอ แต่ อยากให้ทำร้ายจนวิภามากกว่าที่จะเอาสุมิตรกลับมา

อีกด้านหนึ่ง เทียบกับสุพจน์แล้ว เธอตั้งหากที่เป็นผู้พ่าย แพ้อย่างสมบูรณ์

สุพจน์สามารถโจมตีบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดต่อได้หลังจาก ความล้มเหลวของแผน และจะได้ไม่มีภาระ และสามารถกู้คืน ความเสียหายในห้างสรรพสินค้าในอนาคตได้เหรอ?

แต่กับเจริญศรี จันวิภาพูดถูก ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบแบบไหน ตะกูลวีละโชก็ต้องยื่นมือมาถูกบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดอยู่ดี เพราะยังไงสุมิตรก็ต้องหมั้นกับเธอ ยังไงบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด ก็ต้องเป็นของเธอครึ่งหนึ่ง แล้วทำไมเธอจะต้องดำเนินกับสิ่ง ล้ำค่าไม่ได้ละ?

แผนถูกเปิดเผย จันวิภาก็ยังอยู่ข้างสุมิตรอยู่ดี และ สุดท้ายเจริญศรีก็ต้องเครียร์เรื่องที่เธอทำไปทั้งหมดอยู่ดี

“ทำไมกัน?”
การออกจาร้านกาแฟนั้นเหมือนกับเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ของแต่ละคนไป เจริญศรีเหมือนเดินออกจากความฝัน

“ทำไมกัน?” เธอถามตัวเองอีกรอบ “ทำไมคนอย่างฉัน ต้องมาแพ้ ไม่. ถึงแม้ฉันจะแพ้ ฉันไม่ให้นางสารเลวนวิภาช นะได้หรอก”

เจริญศรีกัดปากกัดฟัน ใบหน้าที่โกรธแค้นพึมพำกับตัว เอง ขนาดคนที่เดินผ่านเธอนึกว่าเธอสติไม่ดีพากันเดินอ้อม ผ่านเธอไป

จนเจริญศรี กอะไรออก “ตอบโต้ง” ทันใดนั้น ใบหน้าที่ โกรธแค้นก็ยิ้มออกมา ว่าไปแล้วเป็นรอยยิ้มที่ดูไม่สะอาด มัน เพราะว่าความโกรธแค้น

อาการจนวิภาไม่ได้เหมือนเจริญศรีผู้หญิงคนนั้นกลับมา เป็นเหมือนเดิมไวมาก ว่าด้วยตรงหน้า วันวิภารู้สึกเหมือนตัว เองฝันไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูมัวเบลอไปหมด ทำให้เธอรู้สึก เหมือนมันไม่ใช่เรื่องจริง

“ทำไมเรื่องราวถึงได้เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้…

จันวิภาพึ่งไปด้านหลังโบกของรถแท็กซี่ ดวงตาเมื่อยล้า นั้นก็สว่างขึ้น แต่ว่าดูไม่สดใสเอาเลย ดวงตาที่เม่อลอยของ เธอจ้องมองไปทางหน้าต่างมองดูวิวที่ผ่านถนนเส้นนั้น เพราะ ว่าในตอนนั้นนิเวศน์เล่าเรื่องมากมายแต่เธอกลับไม่ได้ยินอะไรเลย

นิเวศน์รู้ว่ามามี เธอเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่ว่าเพราะสุมิตร ยังหลับไหลไม่ตื่นแต่เธอกลับสร้างเรื่องไว้มากมาย ทำให้ฉัน วิกายากที่จะยอมรับมันได้

นิเวศน์ มือเรียวเล็กที่อบอุ่นไปโอบจับมือจันวิภาไว้ ใช้ แรงสกิด

“มา…มามี แม่พูดอะไรหน่อย ทำแม่เป็นแบบนี้ผม

แต่ในวิภาไม่ได้ตอบสนองใดๆ แต่แค่ค้างมานานสักพัก ถึงจะกะพริบตา ขนตาค่อยๆขยับ

ในใจของฉันวิภากลับมารู้สึกเกลียดแค้นสุพจน์มาก เธอ กำมือแน่น ในใจคิดถ้าไม่ใช่หกปีก่อนที่สุพจน์เคยดูแลเธอสอง แม่ลูก เธอคงไม่ออกมันง่ายขนาดนี้

“มามี ครั้งนี้คือผมไม่ได้ดูแลแม่ดีๆ ผมไม่ได้เรื่องเลย แต่ ว่าแม่วางใจได้แล้ว ต่อไปผมจะไม่ให้หมอนั่นมารังแกอีก….

“มามี มามี่ แม่อย่าเป็นแบบนี้!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ