พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน469 ให้อภัย



ตอน469 ให้อภัย

ตอนที่469 ให้อภัย

“ไม่มีทางสุมิตรไม่ได้เอาคืนฉันงั้นเหรอ?”

“มีฉันอยู่เขาไม่กล้าทำอะไรเธอหรอกพักรักษาตัวแบบ สบายใจได้

ดูจากอาการของเปมิศาตอนนี้ถึงแม้ว่าเธออยากจะหนีก็ เป็นไปไม่ได้หรอกได้แต่อยู่ที่นี่ต่อไปรอโอกาสแล้วค่อยไป

แต่ว่าสิ่งที่จันวิภาปฏิบัติกับเธอนั้นทำให้เปมิศาแปลกใจ

ในเมื่อตอนนี้อยู่ในบ้านของสุมิตรก็แสดงว่าเธอได้เจอ มิตรแล้ว แล้วเธอก็น่าจะรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบแล้วเธอ จะควรจะตัดเพื่อนกับเปมิศาแล้วสิ

แต่ทำไมตอนนี้จนวิภาถึงปฏิบัติกับเธอเหมือนเดิมทุก อย่างเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น?

หลังจากงุนงงสักพักเปมิศสก็พูดออกมาว่า “การที่สุมิตร ยอมถอยให้ฉันแบบนี้คงเพราะว่าได้เธอช่วยพูดให้ขอบใจมาก นะ”

“ขอบคุณอะไรกันพวกเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ

เพื่อนงั้นเหรอ?
คำๆนี้ทำให้เปมิศาอึ้งไปพักนึงแล้วก็ยิ้มอย่างขมขื่น ว่า ฉันก็นึกว่าเราจะไม่มีวันได้เป็นเพื่อนกันอีกตลอดชีวิตซะอีก ในเมื่อฉันโกหกเธอแถมยังหลอกใช้เธออีก

“ฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้วหละจันวิภายิ้มอย่างมี น้ำใจแล้วพูดต่อว่า ที่แท้เธอก็เป็นสายลับตำรวจนั่นเองเก่ง มากเลยนะ”

“เธอไม่ว่าฉันเหรอ?”

รวบรวมหลักฐานโค่นล้มผู้ร้ายทำเพื่อประชาชนเธอทำ เรื่องที่ดีจะตายถึงจะใช้ฉันเพื่อผลประโยชน์ก็ตาม…”สีหน้าฉัน วิภาอ่านยากมากแล้วพูดต่อว่า “ถ้ามิตรทำแบบที่พูดก็คงจะ ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่เพราะว่าเขาไม่เชื่อใจเธอถึงได้ ทําร้ายเธอแบบนี้”

“จันวิภาเธอนี่ช่างใจดีจริงๆเลยนะ

“นั่นก็เพราะว่าเธอเป็นคนดีฉันถึงใจดีกับเธอไง”จันวิภาค ยิ้มออกมาอีกครั้งนึงแล้วพูดต่อว่า แต่ว่าตัวตนที่แท้จริงของ เธอไม่ค่อยเหมือนกับที่ฉันคิดไว้เท่าไหร่เลยนะ

“เธอคงไม่คิดว่าฉันเป็นเจ๊สายมาเฟียหรอกใช่ไหม?

“ฉันเคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน

จันวิภาหัวเราะเปมิศา

“โอเคตอนนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรแล้วแค่พักผ่อนรักษา ตัวเองให้หายเรื่องหลักฐานนั่นน่ะเดี๋ยวฉันจะเกลี้ยกล่อมมิตรให้เอามาให้เธอเปมิศาส่ายหัวสุดชีวิตแล้วตอบว่า “ฉันไม่กล้า แม้แต่จะคิดเลยแค่มีชีวิตรอดก็พอแล้วนายสุมิตรนั่นน่ากลัว มากฉันไม่อยากจะข้องเกี่ยวอะไรกับเขาอีก

“วางใจเถอะมีฉันอยู่เขาไม่กล้ารังแกเธอหรอก ในเมื่อเมื่อ ก่อนเธอคอยปกป้องฉันตลอดถ้างั้นตอนนี้ฉันขอเป็นฝ่าย ปกป้องเธอบ้าง

คำพูดของฉันวิภาทำให้เปมิศารู้สึกประทับใจแล้วตอบ ว่า “จันวิภาการที่ได้รู้จักเธอนับว่าเป็นโชคดีของฉันจริงๆ

“ฉันก็ยินดีมากที่ได้รู้จักเธอเช่นกันเออใช่สีเดียวพออาการ เธอดีขึ้นฉันจะพาเพื่อนคนนึงมาแนะนำเขานิสัยเหมือนเธอมาก เลยเชื่อฉันสิว่าพวกเธอต้องกลายเป็นเพื่อนสนิทกันแน่ๆ

“จริงเหรอถ้างั้นฉันจะตั้งตารอเลยนะ

พอเห็นว่าเปมิศาเริ่มหาวนอนจันวิภาก็ลุกขึ้นแล้วพูด ว่า เธอรีบพักผ่อนเถอะถึงแม้จะพึ่งพื้นก็เถอะหมอบอกว่าอาการ โดยรวมเธอดีแล้วแต่ก็ต้องพักผ่อนรักษาอาการดีๆไม่งั้นอาจจะ มีอาการเรื้อรังได้”

“รู้แล้วๆยัยผู้หญิงคนนี้จี้จี้จุกจิกจริงๆเลย

ถึงแม้ว่าจะพูดแขวะจันวิภาแต่เปมิศาก็นอนลงบนเตียงอีก ครั้งอย่างเชื่อฟัง

หลังจากช่วยพยุงเปมิศานอนแล้วจันวิภาก็ค่อยๆย่องออก

จากห้องไป
หลังจากประตูห้องปิดลงเปมิศาก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

เธอได้แต่นอนจ้องเพดานสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ ย้อนคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

สุมิตร ในเมื่อฉันยังไม่ตายฉันก็จะทำให้นายได้ลิ้มรส รสชาติของความพ่ายแพ้

เพียงแต่คนเดียวที่ฉันต้องขอโทษมากที่สุดก็คือในวิภา

ตั้งแต่ตอนที่จันวิภากลับมาอยู่บ้านวันๆก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวาย กับการดูแลเปมิศาแม้แต่ลูกชายตัวเองก็เมินเฉย

ในขณะเดียวกันนิเวศน์รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยไประบาย ความทุกข์ให้สุมิตรฟัง

แต่สุมิตรได้แต่บอกให้นิเวศน์เข้าใจในวิภาแม้แต่บอกให้ เขาช่วยกันวิภาดูแลเปมิศา

คำตอบแบบนี้ทำให้นิเวศน์รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกัน

ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่นการเห็นอกเห็นใจคนอื่นก็ถือว่าเป็น เรื่องธรรมดาอยู่หรอกแต่คนๆนี้คือสุมิตรนะคนที่เกลียดศัตรูยิ่ง กว่าปีศาจคนนี้เนี่ยนะเขาไม่แอบวางยาเปมิศาก็บุญแล้วแถม ยังบอกให้นิเวศน์ไปช่วยดูแลเธออีกงั้นเหรอ?

นิเวศน์คิดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจเลยไปหาคำตอบที่ธนภาค หลังจากฟังปัญหาของนิเวศน์แล้วนั้นธนภาคก็เงียบไปครู่
“เป็นไงลุงธนภาคก็นึกไม่ถึงเลยใช่ไหม?”นิเวศน์เอามือ ท้าวคางแล้วบ่นพึมพำว่า หรือว่าช่วงนี้ปะจะยุ่งมากจนสมง สมองไปหมดแล้วความคิดเลยผิดปกติไปหรือว่าเราควรจะหา จิตแพทย์มาให้เขาดีไหม?

“พ่อของเธอปกติมากเขาแค่กำลังพยายามจะกู้คืนความ สัมพันธ์ที่ดีของเขากับจันวิภาไง”

“หา?!”

ถึงแม้ว่านิเวศน์จะเป็นเด็กฉลาดแต่ก็ยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่ ธนภาคพูดอยู่ดี

ธนภาคอื่นมือไปลูบหัวนิเวศน์และอธิบายต่อว่า เพราะว่า หม่ามีของเธอโกรธแค้นก็เพราะว่าปะของเธอไปทำร้ายเป ศาถึงแม้ว่าเปมิศาจะถูกช่วยชีวิตไว้ได้ทันแต่ว่าระหว่างพวกเขา สองคนก็ยังมีปมในใจอยู่ปะของเธอก็เลยหวังว่าจะชดใช้ให้ หม่ามทำให้เธอมีความสุขแล้วยิ่งถ้าให้เห็นหน้าลูกชายตัวดี ด้วยอาจจะทำให้เธอพอทำสีหน้าอ่อนโยนให้สุมิตรขึ้นมาบ้าง

ทันใดนั้นนิเวศน์ก็ตอบว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองปะปน ช่างตั้งอกตั้งใจจริงๆ

“ดังนั้นนะเธอไปเล่นตามบทบาทซะไปอยู่กับหม่ามีจะได้ ถือโอกาส……”ธนภาคหยุดพูดไปแว๊บนึงแล้วพูดต่อ อย่าให้ เปมิศามีโอกาสได้ลงมือทำอะไรอีก
“เข้าใจแล้วครับ นิเวศน์พยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจแล้ว ตอบว่า “เปมิศานั้นไม่ได้จัดการได้ง่ายๆเลยถึงแม้ว่าเธอจะได้ รับปากเจ็บแต่ปากก้ยังพูดได้แถมเธอยังเป็นศัตรูกับปะป๊อีก เธอต้องพยายามทำลายความสัมพันธ์ระหว่างปะกับหม่ามี แน่นอน”

“ถูกต้องนั่นแหละที่ฉันหมายถึง

“ถ้างั้นมอบหน้าที่นี้ให้ผมทำเถอะรับรองว่าสำเร็จลุล่วง

แน่นอน!”

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จนิเวศน์ก็นั่งรอเวลาอยู่ที่ห้อง

รับแขก

หลังจากเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลข 10นิเวศน์ก็เห็นคนที่เขารอ

เจออยู่

นิเวศน์รีบลุกจากโซฟาวิ่งไปหาจันวิภายิ้มจนตาหยีแล้ว พูดว่า”หม่ามีจะไปไหนเหรอ?”

จันวิภากำลังถือถ้วยซุปอยู่แล้วตอบว่า “พึ่งต้มยาเสร็จนะ จะเอาไปให้เปมิศาดื่ม

“งั้นผมไปกับหม่ามีดีกว่า”

“ลูกไม่มีธุระต้องไปทําเหรอ?”

“ผมจะไปยุ่งได้ยังไงก็แค่อยากช่วยหมาน่ะ
นิเวศน์พูดพลางเยี่ยงถ้วยซุปในมือของจันวิภาไปใบหน้า เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าเด็กคนนี้มีแผนอะไรอีกล่ะ?

“ดูหม่ามีพูดเข้าสิผมก็แค่อยากช่วยเท่านั้นเองพัก หม่ามี เอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการดูแลน้าเปมิศาผมก็ไม่กล้าเข้าไป กวนก็เลยต้องมาช่วยหม่ามีซะเลยจะได้อยู่กับหม่ามีนานๆ

นิเวศน์ทำท่าทางเห็นอกเห็นใจนั่นทำให้ฉันวิภายิ่งรู้สึก

ปวดใจ

เธอไม่สนใจลูกชายของตัวเองแต่ก็ต้องจำใจทำแบบนี้เธอ ไม่เชื่อว่าที่นี่จะมีใครดูแลเปมิศาได้ดีเพื่อที่จะปกป้องเปมิศา ดูแลให้ร่างกายเธอกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมอีกครั้งในวิภา เลยต้องดูแลเธอด้วยตัวเอง

ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็รู้สึกสบายใจเพราะมั่นใจว่า เปมิศาจะปลอดภัยไม่มีใครมาทําร้าย

ส่วนนิเวศน์นั้น…..รอให้เปมิศาหายดีเธอค่อยมาชดเชยให้ เขาแล้วกัน

“หม่ามีคิดอะไรอยู่น่ะรีบไปกันเถอะ

“อ้อโอเค”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ