พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน452เสียสละตนเองเพื่อคนอื่น



ตอน452เสียสละตนเองเพื่อคนอื่น

ตอนที่452 เสียสละตนเองเพื่อคนอื่น

ภัยพิบัติครั้งใหญ่ ผู้จัดการคุณปอกก็ไม่มีความปรารถนา

สำหรับความสวยงามและยิ่งไม่มีความคิดที่จะสงสาร เขาแค่ ต้องการหาจนวิภาให้เจอโดยเร็ว ให้เธอไปอธิบายสุพจน์

ครูขมวดคิ้วแล้วตอบกลับว่า “เธอเป็นนักเรียน ไม่ใช่ นักโทษ เวลาพักเธอสามารถไปที่ที่เธออยากไปได้

“ฉันไม่สน ตอนนี้ไปตามตัวเธอมาหาฉัน

“ขอโทษด้วย นี้ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน

พูดจบครูก็กลับไปที่ห้องซ้อม ทิ้งให้ผู้จัดการคุณปอกยืน

อยู่ที่เดิม

เวลาที่กระชั้นชิดทำให้ผู้จัดการคุณปอกไม่มีความคิดที่จะ ตระหนักถึงเรื่องของครู ตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงไปดูที่ห้องนอน อาจจะหาในวิภาเจอที่นั่น

เมื่อผู้จัดการคุณปอกออกไป จันวิภาก็โผล่หัวออกมาจาก มุมห้อง มองดูแผ่นหลังของเขา เธอกำหมัดแน่น

“เธอมาซ่อนอยู่นี้ทำไม”

ทันทีที่เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ในวิภาตกใจจน

เกือบกระโดดออกมา

“เฮ้ย พูดเบาๆหน่อย

เธอรีบเอามือไปปิดปากของเปมิศาไว้ หันตัวกลับไปมอง และพบว่าผู้จัดการคุณบอกไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเธอ ถึง จะโล่งใจขึ้น

เปมิศาสลัดมือของจันวิภาทิ้ง และเห็นว่าสีหน้าของฉัน วิภาเต็มไปด้วยความกังวล เหมือนกับพบเจอกับเรื่องที่ยากจะ แก้ไข

“ไอติม ถ้าเธอเชื่อฟังฉัน บอกให้ฉันฟังว่าเกิดเรื่องอะไร

ขึ้น”

จันวิภาหันหน้ามองไปทางเปมิศา พูดอย่างลังเลว่า “ฉัน ยังมีเรื่องอยากให้เธอช่วยจริงๆ เธอไม่ใช่อยากรู้อยากมา ตลอดเหรอ วันนั้นระหว่างฉันกับผู้จัดการคุณปอกเกิดเรื่องอะไร ขึ้น ตอนนี้ฉันจะบอกเธอ

จนวิภาถอนหายใจและพูดต่อว่า “หนังสือ โครงการในมือ ของผู้จัดการคุณปอก ฉันเป็นคนทำ ตอนนี้ประธานบริษัทที่จะ ร่วมทํางานด้วยต้องการตามตัวให้ฉันไปหา

เปมิศาพูดอย่างไม่ไม่เข้าใจว่า “ที่เธอพูดคงไม่ใช่สุพจน์ ใช่ไหม นี้เป็นเรื่องดี เธอกลัวอะไร

“เรื่องดีอะไรล่ะ ฉันอาจตายได้

จนวิภาตอบอย่างกระหืดกระหอบ ทำให้เปมิศาเลิกคิ้วขึ้น

ดูท่าทางเหมือนรู้บางอย่าง

“อ้อ ที่แท้เจ้าหนี้ของเธอคือสุพจน์เหรอ”

“อย่าพูดมั่วๆ เธอแค่บอกว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยไปแทน

ฉัน”

“พวกเราเป็นเพื่อนกัน แน่นอนว่าต้องช่วย วางใจเถอะ เรื่องนี้ส่งมาให้ฉันนะดีแล้ว

เห็นเปมิศาตกลง จันวิภาจึงเล่าให้เธอฟังถึงลักษณะการ เขียนเอกสารของเธอ และอธิบายคร่าวๆถึงความหมายของ หนังสือ โครงการทั้งหมด

“จำได้แล้วใช่ไหม

“อ่าๆ จำได้แล้ว”

จันวิภายังไม่วางใจจึงพูดเตือนว่า “เธอต้องจำให้แม่นนะ สุพจน์ฉลาดและมีไหวพริบ เธอแสดงพิรุธเล็กน้อยจะทำให้เขารู้ ได้”

“ฉลาดอะไรขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นฉันควรจะพบเขาสักพัก

เห็นเปมิศาพูดเล่น จันวิภาจึงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เป มิศา นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าทำไม่ดีก็อันตรายมาก ”

“ฉันจริงจังนะ สิ่งที่เธอบอกฉันมา ฉันจำได้ทั้งหมดแล้ว เธอ โบกมือแล้วพูดอย่างผ่อนคลายว่า “เฮ้ย อย่าตื่นเต้น ไม่ว่า สุพจน์จะเก่งขนาดไหน ก็เป็นแค่คนไม่ใช่เหรอ

จนวิภาดูมืดมน พูดด้วยเสียงนิ่งว่า “ไม่ เขาไม่ใช่คน เขา เป็นปีศาจ”

คำพูดนี้ทำให้เปมิสาหันมองไปด้านข้างจันวิภา เงียบทันที

เปมิศาถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย และพูดว่า “ดูเหมือน เธอก็ไม่ใช่เพื่อนที่ไม่มีอดีต วางใจเถอะ ไม่มีอุปสรรคที่ไม่ สามารถเข้าถึงได้ ตอนนี้ฉันจะไปพบผู้จัดการคุณปอกนะ”

“ระวังตัวด้วย”

เปมิกาเดินออกไป ไม่หันหลังกลับมา จันวิภาได้แต่

โบกมือไปมา

หลังจากช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ยากลำบาก

เปมิศาถูกสุพจน์เชิญพบ เหล่าเด็กฝึกหญิงก็ต่างอิจฉา มี

เพียงเธอที่อารมณ์เสีย ยิ่งคิดยิ่งผิดหวัง

ไม่ควรจริงๆที่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ก็ส่งเปมิศา ออกไป

ก็นับดูแล้วว่าเปมิศามีไหวพริบและชาญฉลาด แต่เป็น เพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่จะทำอย่างไรจึงจะสามารถรับมือ กับคนสูงวัยอย่างสุพจน์ได้

นี้ก็หนึ่งชั่วโมงไปแล้ว ยังไม่เห็นเปมิศาออกมา คงไม่ ได้……………. จะให้เปมิศาไปเสี่ยงเพื่อตัวเธอเองไม่ได้ ถ้าไม่ ได้ผลจริงๆ ก็ต้องไปพบสุพจน์เพื่อเผชิญหน้าแล้ว

จันวิภา ใบหน้าดูหมดหวัง

ใจกว้าง

“เธอเป็นอะไร”

เธอกะพริบตา จันวิภาเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรง

หน้า สีหน้ามีความสุข

“เปมิศา เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”

“วางใจเถอะ ทุกอย่างโอเค

เธอมองไปรอบๆ

วิภาถึงจะโล่งใจ

เปมิศาถูกท่าทางของฉันวิภาทำให้ยิ้มออกมา แล้วก็ไม่ สนใจคนที่อยู่รอบตัว ดึงมือของฉันวิภาไปยังที่ซ่อน

บริเวณรอบๆไม่มีคน จันวิภาอดใจรอไม่ไหวจึงถามขึ้นว่า “เรื่องเป็นยังไงบ้าง สุพจน์ทำอะไรเธอไหม

“ไม่มี เสร็จหมดแล้ว

“จริงหรือหลอก สุพจน์ไม่ใช่คนโง่อย่างนั้น

“เธอไม่เชื่อฉัน แถมยังให้ราคาสุพจน์มากเกินไป

“ฉันเข้าใจผู้ชายคนนั้นดี เขาระมัดระวังอย่างมาก

“แต่การแสดงของฉัน สมบูรณ์แบบไม่ขาด สุพจน์หาพิรุธ

ไม่เจอแน่นอน”

พบว่าเปมิศาปราศจากอันตราย อัน

เธอลุกขึ้น

ค่าพูดของเปมิศา ทำให้ในวิภาสงสัย

แต่เปมิศาก็ไม่ได้พูดเกินจริงตอนคุยกับ

สุพจน์ เธอพูด

ก่อน ทำให้สุพจน์ไม่สามารถพูดได้ แต่ถ้าสมบูรณ์แบบเกินไป ก็จะทำให้คนสงสัยได้ และ นิสัยของคนคนหนึ่ง ทำไมถึงสามารถแสดงเหมือนอีกคนได้

คล้ายกันมาก

สุพจน์คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เลยให้คนไปตรวจสอบเปมิศา

เมื่อข้อมูลที่ตรวจสอบเปมิศากว่าจะออกมาปรากฏปัญหา เล็กน้อย ถึงแม้ใช้เวลาพอสมควร แต่ก็แก้ปัญหาแล้ว

ผู้ชายหัวเหม่งเรียบเรียงของมูลส่งให้สุพจน์และพูดว่า “นายครับ นี้คือข้อมูลของเปมิศาครับ

เอาข้อมูลมาเปิดดู สุพจน์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ปรากฏ

แววตาที่ประหลาดใจ

“มิน่าล่ะ”

ชายหัวเหม่งเดาไม่ได้ว่าสุพจน์หมายความว่าอะไร จึงถาม ไปอย่างสุภาพว่า “ถ้าอย่างนั้น พวกเรายังต้องการเครื่อง วงจรปิดของที่นี่ไหมครับ

“ไม่ต้องแล้ว พาคนกลับมา” สุพจน์ลุกขึ้น สีหน้าเงียบ ขรึมเหมือนน้ำ และพูดว่า “ฉันไม่อยากใช้กำลังเหมือนฝั่งนั้น และด้วยความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนี้มีประสิทธิภาพที่โดด เด่นก็ไม่น่าแปลกใจ

ในเวลาเดียวกัน เมืองเอ

สุมิตรนั่งลงที่หน้าโต๊ะ แสดงสีหน้าอาการใดใด

ฟังรายงานของผู้ช่วยอย่างไม่

“ท่านประธาน วันนี้สุพจน์มีการเคลื่อนไหวแล้วครับ เขา ไปที่บริษัทบันเทิงแห่งหนึ่ง

นิ้วมือของสุมิตรเคาะลงบนโต๊ะ น้ำเสียงพูดอย่างไม่แยแส “ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความคิดที่จะทำธุรกิจแล้วเหรอ” ทำไมถึงยัง ไปบริษัทบันเทิง”

“ไม่ค่อยแน่ใจ สุพจน์ยังใช้เวลาเกือบครึ่งวันคุยกับเด็ก ฝึกคนหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายยังเซ็นสัญญาร่วมงานกัน

“เด็กฝึกหัดเหรอ” เขาหยุดการขยับมือ ในตาของสุมิตรมี

ความผันผวนของอารมณ์ในดวงตา

ลูกน้องพูดพลางส่งข้อมูลให้สุมิตร

สุมิตรอ่านข้อมูลอย่างระมัดระวัง เขาบากบั่นตามหาเกี่ยว กับเบาะแสจนวิภา

แต่น่าเสียดาย ไม่ได้อะไรเลย

“เปมิศา…..……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ