ตอน439ที่พักพิง
ตอนที่ 439ที่พักพิง
ถึงแม้จะใช้เวลาสั้นที่ทำให้มีอิสระได้ จนวิภาก็ไม่ได้ ปลอดภัย กลับกัน เธอสามารถที่จะถูกสุพจน์จับกลับไปได้ทุก เมื่อ
เพราะว่าถึงแม้จากหนีออกมาจากสุพจน์ได้ จันวิภาวิ่ง อย่างบ้าคลั่ง แต่บรรยากาศรอบด้าน ยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกอ้างว้าง ที่นี่ไม่ดีแน่ ที่ที่คนเยอะ ถึงจะซ่อนตัวได้ ที่ที่อ้างว้างแบบนี้
ง่ายที่จะถูกจับได้แน่
จันวิภาชะงักเท้าลง จากนั้นรีบมองไปถนนใหญ่ตรงหน้า
อี๊ดดดด
รถถูกเบรกจอด คนขับรถชะงักหน้าออกมา พูดกับจันวิภา “คุณอยากตายหรือไง!
จันวิภาสมองเบลอไป จากนั้นวิ่งไปที่ประตูรถ เคาะกระจก อยู่อย่างนั้น พูดขึ้นว่า : “เด็กน้อย คุณน้าถูกหมาป่าไล่มา พวก เธอสามารถช่วยน้าไปที่ที่ปลอดภัยได้ไหมคะ?
ที่จริงแล้วรถคันนี้คือรถรับส่งนักเรียนอนุบาลไป ทัศนศึกษา ซึ่งพาเด็กกลับจากสวนสนุก
เด็กๆฮือฮากันมาก ไปหน้าประตูรถ พูด : “ถูกหมาป่ากิน ไปคงจะน่าสงสารมาก คุณครูก็ให้คุณน้าขึ้นมาบนรถเถอะ”
ครูคนดูแลเด็กๆมองไปจนวิภา ตอบอย่างปฏิเสธว่า : “ไม่ ได้ เธอไม่ใช่คนของอนุบาล ให้เธอขึ้นรถไม่ได้
“แต่ว่าเธอกำลังมีปัญหานะ คุณครูเคยพูดแล้วไม่ใช่หรอ ว่าต้องช่วยเหลือคนที่มีปัญหาไม่ใช่หรอครับ?”
“แต่ว่า….
จนวิภาทําหน้าอ้อนวอน มือสองข้างประกบกันพูดกับคน ดูแลอนุบาลที่เยาว์วัยว่า : “ข้อร้องนะ ฉันพบเจอรถที่น่าสงสัย กระเป๋าตังก็อยู่ที่รถ ไม่สามารถกลับไปได้ ขอร้องคุณละ ช่วย ฉันหน่อยนะ”
เสียงจันวิภาอ่อนลง ท่าทางน่าสงสาร ทำให้คนรู้สึก เห็นใจ
ครูคนดูแลเด็กกำลังลังเล จันวิภารีบดึงแหวน ในมือออก มา ยื่นมือไปทางหน้าต่างรถ พูดเสียงเบา : “แหวนนี้ถึงว่า เป็นการตอบแทนของฉัน ข้อร้องละ
และแหวนวงนี้เป็นแบรด์ทิฟฟี่นออกมาใหม่ ครูดูแลเด็ก เพิ่งสังเกต ใจก็คนยิกๆ
แต่ว่าตอนนี้ ตัวเองหวังว่าของที่อยู่ในมือ แบบนี้จะให้ครู ดูแลเด็กรู้สึกยากที่จะปฏิเสธ
“คุณครูค่า………
ในใจรู้สึกสับสนลังเล บวกกับแววตาของเด็กๆ ที่คาดหวัง ครูดูแลเด็กจึงได้พยักหน้าตอบ : “ก็ได้ คุณขึ้นมาก่อน
ในระหว่างที่เด็กๆกำลังดีใจอยู่ ฉันวิภากขึ้นนั่งบนรถแล้ว
พิงไปที่นั่งอย่างเหนื่อยล้า จันวิภามองไปข้างนอกที่ขับ ออกมา รู้สึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง
จากนั้นค่อยๆผ่านไป เด็กพวกนั้นไม่ได้วุ่นเพราะเรื่องเธอ ละ เปลี่ยนเรื่องพูดอย่างอื่น
มองไปเด็กที่น่ารักพวกนี้ จันวิภาก็คิดถึงนิเวศน์ขึ้นมา
เธออยากติดต่อกับพวกสุมิตร แต่ว่ากันวิภารู้อยู่แล้วว่า ไกลแบบนี้คงช่วยอะไรไม่ได้ ที่นี่มันเป็นที่ของสุพจน์ ถ้าเกิดไม่ สำเร็จขึ้นมา สุมิตรช่วยเหลือไม่ได้ แต่ทำให้ตัวเองมีปัญหาอีก ดูๆไปแล้ว ตอนนี้คงต้องช่วยเหลือตัวเองไป หลบซ่อนสัก สองวันค่อยว่ากัน
จันวิภาไม่มีเพื่อน อยู่ในเมือง เธอไม่มีใครให้ฟังเลย?
ในใจคิดวนไปหลายร้อยรอบ ใบหน้าผู้ชายคนหนึ่งจู่ๆก็
ขึ้นมาในสมองเธอ
ใช่แล้ว!
แววตาที่สว่างขึ้น จันวิภาพูดกับครูตรงข้ามไปว่า : “คือว่า ขอยืมมือถือหน่อยได้ไหมคะ?
“ได้”
“ขอบคุณมากค่ะ”
ยังดีที่ความจําของจันวิภาดีมาก คิดถึงครั้งหนึ่ง เบอร์ มือถือผู้ชายคนหนึ่ง จากนั้นโทรออกไป
โทรศัพท์ดังอยู่สามครั้งก็ถูกรับสาย ตรงข้ามพูดอย่างมี มารยาทไปว่า “สวัสดีครับ
“สวัสดีค่ะ” ถือมือถือไว้ จันวิภาตื่นเต้นมาก คนที่จันวิภากำลังติดต่อคือ วันนั้นที่เธอนักสืบชื่อดัง
เธอกับแมวมองคนหนึ่งซึ่งเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว เวลา นั้นยังปฏิเสธเขาไป ตอนนี้ก็หน้าด้านติดต่อไป รู้สึกไม่แน่ใจ กับความหวังนี้ แต่จันวิภาหมดหนทางแล้ว กลืนน้ำลายลงพูด ขึ้นว่า : “ฉันชื่อจันวิภา คือวันก่อนที่ฉันบังเอิญพบเจอคุณที่ ถนน”
ได้ยินชื่อของจันวิภา นักสืบผู้หญิงนึกได้ขึ้นมา ยิ้มขึ้นมา พูดว่า : “ผมจำคุณได้ ทำไมเหรอ สนใจข้อเสนอผมใช่ไหม ล่ะ?”
สังเกตตรงข้ามลักษณะอ่อนโยน ในวิภาถอนหายใจ รีบ พูดไป : “ใช่ค่ะ ฉันอยากลองดูหน่อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังพอจะมี โอกาสอยู่ไหนคะ”
จันวิภาไม่อยากเสียเวลาไปครึ่งวัน เธอก็ไม่มีทางเลือก ขอแค่ผ่านไม่กี่วันนี้ไปอย่างปลอดภัยก็พอ
“ถ้าเกิดคุณพอมีเวลา มาที่ตึกGMตอนนี้
“ได้ค่ะ”
วางสายไป จนวิภายิ้มขึ้นมา
แค่ในเวลาสั้นๆ ในครึ่งชั่วโมง ยังรู้สึกใจเต้นแบบนี้ ก่อน หน้านั้นยังคิดว่าตัวเองต้องตายแน่ๆ แค่แป๊ปเดียวก็เหมือนมี ความหวังเปล่งประกายออกมา
ถึงแม้ว่าสุพจน์จะมีปัญญาขนาดไหน คงคิดไม่ถึงว่าฉัน
วิภาจะไปเป็นดาราแน่ๆ สุพจน์ในตอนนี้ คงตามหาจนวิภาอย่างพลิกแผ่นดินหา เลยทีเดียว
เมืองที่อยู่ในกำมือสุพจน์ ถึงแม้ว่าจันวิภาจะมีปีกบิน ก็ บินออกไปไม่ได้เรื่องแบบนี้สุพจน์มั่นใจมาก
สิ่งที่ทำให้เขาเป็นห่วงคือสภาพร่างกายของฉันวิภา
เพราะยังงั้น สุพจน์สั่งให้คนของเขา ให้พวกเขาหาในวิภา
ให้เจอก่อนที่ฟ้าจะมืด
อีกครั้งที่พบเจอจันวิภา แมวมองตกใจมาก
“สีหน้าท่าทางของเธอดูไม่ดีเลยนะ
ผมรอคุณอยู่ที่
จับๆหน้า จนวิภายิ้มออกมาแล้วพูด : “ผ่านเรื่องอะไรมา แต่ว่าทุกอย่างจบไปแล้ว
“จบไปก็ดี จากนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างในชีวิตเธอจะเปลี่ยน ไป ไปได้ละ ไปพบหัวหน้ากับฉัน
“พบหัวหน้า?”
“ก็ใช่ไง ฉันมีแค่หน้าที่ที่ค้นหาเธอว่าเธอจะยอมมาไหม ยังต้องดูความคิดเหตุของหัวหน้าด้วย
จันวิภาทําได้แค่พยักหน้า ตัวเองคิดไปเองว่ามันจะง่าย ตัวสามารถที่จะถูกให้อยู่ต่อไหม เรื่องนั้นก็ยังไม่แน่ใจ คิดมาถึงนี้ จันวิภาเสียดายที่ไม่ได้แต่งหน้า ในเวลาตอน
นี้ หน้าตาเธอต้องขาวซีดเหมือนผีแน่ๆ
ในตอนนั้นแมวมองก็สังเกตถึงปฏิกิริยาของฉันวิภา แมวมองยิ้มแล้วก็พูด : “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ถึงแม้ว่าตอนนี้ เธอจะหน้าสดไปหน่อย แต่ว่าก็ยังสวยอยู่นะ จากสถานการณ์ ตอนนี้ ก็คงต้องแบบนี้ แบบนี้จะได้รู้ฐานะว่าใครเป็นใคร
ในระหว่างที่สนทนาอยู่ แมวมองพากันวิภามาถึงชั้นที่สิบ หก เดินไปห้องทำงานห้องหนึ่ง ค่อยเคาะประตู
“เข้ามาได้”
จันวิภาเดินตามแมวมองไปที่ห้องทำงาน มองไปตรงหน้า มองเห็นผู้หญิงผมสั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะข้างหน้า
แววตาผู้หญิงที่แวววับ เงยหน้ามองไปที่จันวิภา
“หัวหน้าค่า นี้ก็คือคนใหม่ที่ฉันพูดให้คุณฟังค่ะ
ผู้หญิงพยักหน้า ถาม : “ร้องเพลงเป็นไหม?
จันวิภาไม่ได้พูดอะไร แค่ไสหัวอย่างเดียว
“แล้วเต้นละ?”
จันวิภาไม่ได้พูดอะไรไสหัวเหมือนเก่า
ได้รับค่าตอบแบบนี้ หัวหน้ามองไปที่แมวมองอย่างหมดหวัง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ