ตอน434จากเป็นจากตาย
ตอนที่434 จากเป็นจากตาย
“นายหมายความว่าให้ฉันทิ้งในวิภาไว้ที่นี่ เป็นไปไม่ได้ ถึงจะต้องแลกด้วยชีวิตของฉัน ฉันก็จะพากันวิภาออกไปจากที่
พอได้ฟังคำพูดของสุมิตร พวกเขาก็มองหน้ากัน และจู่ๆก็ มีคนหนึ่งลงมือมัดสุมิตรด้วยเชือก
เพราะสุมิตรกำลังกอดจนวิภาอยู่ดังนั้นเขาจึงไม่มีทาง ขัดขืนทำให้พวกเขามีเวลาพอที่จะลงมือ
สุมิตรดิน และพูดด้วยความโกรธว่า “ไอพวกสารเลว พวกนายกำลังทำอะไร
“ขอโทษที่พวกเราต้องทำแบบนี้ เพราะพวกเราต้องรักษา ความปลอดภัยของคุณ
“ใครอนุญาตให้พวกนายตัดสินใจเอง ฉันจะฆ่าพวกแก
อำนาจของสุมิตรไม่มีประโยชน์อะไร เพราะหน้าที่ของ พวกเขาก็คือต้องปกต้องสุมิตรและทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด ปกป้องเขาให้กลับถึงเฮลิคอปเตอร์ ไม่มีหน้าที่ที่จะเผชิญหน้า กับความโกรธของเขา
มองข้ามความน่ากลัวของสุมิตร พวกเขาวางร่างของฉัน
วิภาไว้ที่เดิม และพาสุมิตรที่ถูกมัดจนกลายเป็นข้าวต้มมัดขึ้น บันไดไป
หลังจากที่เขาฝ่าฟันอันตรายจากดงกระสุนปืน แต่ลูกน้อง ของพวกไม่มีใครกลัวตายเลยสักนิด เอาตัวมาปกป้องสุมิตร ราวกับตัวเองกลายเป็นตะแกรง
คนหัวล้านนั้นมองเห็นสุมิตร น้ำเสียงฮึกเหิมของเขาทำให้ คนใจขึ้น ต้องการให้สุมิตรตายคาที่
แต่สุพจน์แค่มองหน้าขึ้นไปบนฟ้าแป๊ปเดียวก็พูดว่า “อย่า พึ่งไปสนใจเขา ให้คนพาหมอมาเร็ว
บันไดค่อยๆถูกดึงขึ้นไป สุมิตรยิ่งห่างจากพื้นดินมากยิ่ง
ขึ้น การโจมตีก็ค่อยๆเบาลง
แต่เขาไม่มีความรู้สึกดีใจสักนิดเดียว ดวงตาคู่นั้นต้อง มองไปที่พื้นดิน เขาเม้มปากแน่น
จันวิภาที่ไม่รู้ว่าตายแล้วหรือว่ายังมีชีวิตอยู่ถูกยกขึ้นบน หาบ มีหมออยู่รอตรวจอาการเบื้องต้นให้เธอ หลังจากนั้นก็พูด กับคนข้างๆว่าอะไรสักอย่าง แล้วก็รีบพาเธอออกไปอย่าง รวดเร็ว
มองดูร่างที่อ่อนแอนั้นกำลังออกห่างไปเรื่อยๆ เป็นครั้ง แรกที่สุมิตรรู้สึกว่าไร้ความสามารถ แม้กระทั่งผู้หญิงที่ตนเอง รักยังปกป้องไม่ได้
สุมิตรในตอนนี้ที่มีกำลังโกรธอย่างมาก เขาสาบานว่า ต้องให้สุพจน์ชดใช้ให้ได้
ดวงตาสีดำคู่นั้นจ้องไปที่จันวิภามันทำให้สุพจน์จิตใจ วุ่นวาย
“อาการของเธอเป็นยังไงบ้าง
“ถึงแม้ว่าจะมีชีวิตรอด แต่คนไข้เสียเลือดเยอะ ต้องดูแล รักษาเป็นอย่างดี ไม่งั้นจะมีโรคแทรกซ้อนเข้ามาได้
“เข้าใจแล้ว พวกนายออกไปกันเถอะ
หลังจากที่ทุกคนออกไป ในห้องมีเพียงสุพจน์และจันวิภา ที่กำลังนอนหลับ บรรยากาศเงียบสงัดน่ากลัว
เอานิ้วมาจิ้มที่ใบหน้าเล็กๆและพูดพึมพำว่า “เธอรักเขา มากถึงขนาดยอมตายได้ แต่เขาละ พอเจอเรื่อง ก็ทิ้งเธอเอา ไปแล้วหนีไปคนเดียว เมื่อไหร่เธอถึงจะตาสว่างสักทีว่าผมนี่ แหละคือคนที่จะดูแลเธอไปตลอด
หลังพูดจบ สุมิตรก็ยิ้มขึ้นมา และพูดว่า “ชาตินี้เธอก็คง
ไม่รู้หรอก เพราะว่าในใจของเธอไม่ว่าสุมิตรจะทำอะไรมันก็ถูก ไปซะหมด แต่ผม ก็เป็นแค่ตัวร้ายที่พูดเองเออเองเท่านั้น
ค่อยๆ โน้มตัวลงสุพจน์เข้ามาใกล้จนวิภา และสีหน้าของ เขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
“แต่ตัวร้ายคนนี้จะกวนใจเธอไปทั้งชาติ ถึงแม้ว่าเธอจะ ตาย ก็จะเอาเธอมามัดไว้ข้างๆ
สุพจน์น้ำเสียงเยือกเย็น แต่มือของเขากลับลูบใบหน้า
ของจันวิภาอย่างอบอุ่น
ก๊อกก๊อก
เสียงเคาะทำให้สุพจน์ถึงมือกลับมา หันไปแล้วพูดว่า
“เข้ามา
คนหัวล้านได้เดินมาหาสุพจน์อย่างรีบร้อน และพูดว่า “ลูกพี่ คนของสุมิตรได้โจมตีเข้ามาอีกแล้ว
“แล้วไงต่อ
“เพื่อที่จะล่อสุมิตรให้มาติดกับดัก พวกเราสูญเสียไปไม่ น้อย คนของเราเจ็บหนัก แถมที่นี่ยังเป็นอาณาเขตของสุมิตร อีก สถานการณ์ไม่เอื้อประโยชน์สำหรับเราเลย
สายตาของสุพจน์ยังคงมองไปที่ใบหน้าของฉันวิภา พูด อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า “แล้วไงต่อ
แล้วไงต่อ
คนหัวล้านอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเขาก็ตะคอกว่า “สุมิตร มันบ้าไปแล้ว เขาไม่สนใจว่าจะสูญเสียเท่าไหร่ และไม่สนวิธี การโจมตีด้วย เขาใส่อย่างเดียว จนตอนนี้ลูกน้องเราเสียขวัญ ไปหมดแล้ว จนตอนนี้พ่ายแพ้ถอยร่น
สุพจน์พูดเหอะออกมาเบาๆ และพูดออกมาอย่างภาค ภูมิใจว่า “คนในใจของเขาอยู่ในมือฉัน เขาก็ต้องเป็นบ้าอยู่ แล้ว”
สิ่งที่สุพจน์สนใจมันทำให้คนหัวล้าน โกรธ แต่เขาก็ไม่กล้า พูดออกมาตรงๆ กลัวว่าสุพจน์จะโกรธ
มองตามสายตาที่สุพจน์กำลังมองอยู่ คนหัวล้านก็ต้องไป ที่จันวิภาที่กำลังนอนหลับใหล สัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายที่ออก มาจากสายตานั้น
ทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ องวันนี้ก็สำเร็จไปแล้ว สุมิตรคงไม่มีโอกาสแบบนี้ แผนการของ
ทั้งๆที่เป็นของที่นำความโชคร้ายมาให้ แต่สุพจน์กลับรัก เหมือนเป็นของล้ำค่า ทำให้รู้สึกอัดอั้นตันใจจริงๆ
ถ้าหากว่า ผู้หญิงคนนี้ตายไปแล้วละก็
“ที่นี่เสียงดังเกินไป ไม่เหมาะที่จะเป็นที่พักฟื้น ฉันจะพา จันวิภาไปอยู่ที่เงียบๆ นายไปจัดการซะ
คนหัวล้านกำลังคิดอะไรเพลินๆ พอได้ยินคำสั่งของสุพจน์ แล้วเขาก็ยังไม่ขยับ
มองเห็นคนหัวล้านยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สุพจน์จึงถามด้วยน้ำ เสียงเย็นๆว่า “ยังไง ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง”
เขาสะดุ้ง แล้วคนหัวล้านก็ถามขึ้นว่า “แต่ว่า แต่จะจัดการ ยังไงก็สุมิตร
“นายบอกว่าเขาบ้าไปแล้วไม่ใช่หรอ ถ้างั้นก็ปล่อยให้เขา บ้าไปคนเดียวดีแล้ว ถึงยังไงคนที่เขาอยากได้ก็อยู่ในมือฉัน ในจุดๆนี้ยังไงเขาก็ไม่ชนะ
มองเห็นสีหน้าของสุมิตร คนหัวล้านก็หนักใจ
สุมิตรบ้าไปแล้ว สุพจน์ก็ไม่ได้ดีไปกว่าตรงไหน ผู้ชาย สองคนนี้ ขายดาวเคราะห์ร้ายคนนี้ทำให้ผู้ชายสองคนนี้ หลงไหล
พอพูดไปก็น่าขำ คนที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ สุดท้ายแล้วก็ตก อยู่ในกำมือของผู้หญิง คนเหล็กต่อจากนี้ก็จะมีผู้หญิงเป็นจุด อ่อน
รู้สึกถึงความผิดสังเกตของคนหัวล้าน สุพจน์หันไปมอง เขาอย่างหน้านิ่งๆ
สายตาแบบนี้ทำให้คนหัวล้านรู้สึกหนาวขึ้นมา มันเหมือน เดินบนเส้นชีวิตและความตาย
ให้ตายสิ ทำไมเขาถึงคิดว่าสุมิตรอ่อนแอนะ ทั้งๆที่แท้จริง แล้วแค่เพียงสายตานั้นก็สามารถฆ่าตัวเขาเองได้แล้ว
ขณะที่คนหัวร้านกำลังกลัว สุพจน์ก็ดึงสายตากลับมาและ พูดว่า “ถ้าเข้าใจแล้ว ก็รีบไปจัดการ ถ้าหากนายทำให้การพัก ฟื้นของจันวิภาล่าช้าละก็ ผลลัพธ์ของมันนายรับไม่ไหวแน่
น้ำเสียงของสุพจน์นิ่งๆ แต่วิธีการพูดนั้น ทำให้คนรู้สึก หวาดกลัว
คนหัวล้านไม่กล้าอยู่นาน พอได้รับคำสั่งแล้วก็รีบออกไป ทันที
พอส่วนเกินหายไป สุพจน์ก็เก็บหน้าตาที่ดุร้าย และทำสีหน้าที่อบอุ่นนั่งลงอยู่ข้างๆในวิภา
สุมิตร แต่ในที่สุดเขาก็ใจไม่แข็งพอ โดยเฉพาะตอนที่ เห็นชีวิตของฉันวิภาแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาคิดว่าตัวเขาเองก็ อยากจะตายให้ได้
ถึงแม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่สุพจน์ก็รู้ว่า เขาพ่ายแพ้ตอน
ที่อยู่ต่อหน้าจันวิภา
ในขณะนั้น ฝั่งตรงข้าม
สุมิตรนั่งอยู่หน้าโต๊ะกลมๆ สีหน้าเคร่งขรึมดูน่ากลัว
หลังจากที่สุมิตรถูกช่วยออกมา เขาก็เหมือนเป็นไปเป็น คนละคน กระวนกระวายใจและเหี้ยมโหด ลูกน้องพูดผิดหูไป แค่นิดเดียว ก็ถูกลงโทษอย่างหนัก
สุมิตรตอนนี้เหมือนกับหุ่นยนต์ที่ไม่นอนไม่พักผ่อน จับตา ดูพฤติกรรมของพวกสุพจน์อยู่ตลอดเวลา ในตาของเขามี เส้นเลือดสีแดงออกมา
เหตุการณ์แบบนี้ มันทรมานคนที่ต้องมารายงานข่าว สถานการณ์ให้สุมิตรฟังจริงๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ