พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน412ร่องรอย



ตอน412ร่องรอย

ตอนที่412 ร่องรอย

นิเวศน์ไม่ชอบฝากความหวังไว้กับใครมากก่อน แต่ว่า ครั้งนี้เขาไม่มีทางเลือก นิเวศน์หมดแรงจะดิ้นรนปล่อยให้ชาย หนุ่มเอาเชือกรัดตัวเอง และปิดผ้าปิดตาสีดำจนมองไม่เห็น อะไร

“ลุง ถ้าคุณอยากได้เงินคุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ พ่อผม รวยจะตาย ถ้าคุณให้โทรศัพท์กับผมแค่นั้นคุณก็จะได้สิ่งที่คุณ ต้องการ ไม่ต้องมาเสียเวลาทำอะไรแบบนี้เลย

นิเวศน์เลือกใช้โทนเสียงอ่อนโยนและดูน่ารัก เขาเองก็รับ ไม่ได้พอสมควรที่ตัวเองจะต้องบีบเสียงให้เป็นแบบนั้น แต่คน ลักพาตัวไม่ได้สนใจใดๆ ตอบกลับด้วยคำเย็นชาเพียงสอง พยางค์

“หุบปาก

นิเวศน์ไม่สามารถขยับตัวได้แล้วในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขา ขยับได้มีเพียงแค่ปาก ถ้าเขาไม่พูดเสียแต่ตอนนี้ เขาก็ไม่รู้ว่า จะมีโอกาสได้พูดอีกมั้ย

“คุณไม่มีทางไม่ชอบเงินหรอกใช่มั้ยหล่ะ นี่ ถ้าคุณกลัวที่ จะคุยกับพ่อผมหล่ะก็ ผมเองก็มีเงินส่วนตัวของตัวเองนะ ผมก็เป็นลูกคนมีเงินนะเนี่ย เงินส่วนตัวของผมก็ไม่ได้น้อยๆนะ คุณ ลองคิดดีๆ แบบนี้มันไม่ผิดกฎหมายด้วย….

“คุณลุงคิดว่าดีมั้ยหล่ะ?”

โจรลักพาตัวไม่ได้ตอบอะไรกลับ

ขึ้นหลัง แล้วเดินหน้าต่อไป

“นี่ ได้ยินผมพูดรึเปล่าเนี่ย?

นิเวศน์จงใจพูดเสียงดังๆเพื่อหวังว่าใครสักคนจะได้ยิน เขาพูด จะได้บอกเบาะแสหรือเป็นพยานอะไรสักอย่างได้

แต่ว่าสิ่งที่เขาทำแป๊ปเดียวเท่านั้น โจรลักพาตัวก็หยั่งรู้ถึง ได้ เขาทิ้งนิเวศน์ลงไปกับพื้นแล้วเอาเศษผ้ายัดใส่ปากของเขา เอาไว้

ตอนนี้

นิเวศน์ไม่มีหนทางจะทำอะไรได้อีกแล้ว ทั้งตัวทั้ง

ปากของเขาใช้การไม่ได้แล้ว ในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะฉลาดแค่ ไหน ก็ไร้ประโยชน์เสียแล้ว

“ดูท่าคงทำได้เพียงรอคอยโชคชะตา ยังดีที่ฉันไม่ได้ทำ อะไรที่มันน่าเสียใจมากนัก

นิเวศน์รู้สึกหมดหนทางที่จะคิด

ไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูรถ แล้วตัวเขาเองก็ ถูกจับไปไว้ข้างใน ก่อนจะปิดประตูและสตาร์ทรถ

ในระหว่างนั้นนิเวศน์ก็พยายามคาดเดาเส้นทางจากเสียงและความรู้สึกของตัวเอง

แต่ว่าความคิดของเขาก็ล่วงรู้ได้โดยโจรลักพาตัวอย่าง

รวดเร็ว

นิเวศน์รู้สึกตัวว่ามีคนมานั่งอยู่ข้างๆเขา

แล้วก็ได้ยินเสียงโจรลักพาตัวดังขึ้นมา

“ทำให้เขาสลบไปเลย อย่าไปหลงกลไอ้เด็กนี่ ฉันจะบอก อะไรให้ว่าไอ้เด็กนี่มันเป็นเด็กผี อย่าไปโดนความน่าสงสาร ของมันหลอกเอา

นิเวศน์เย็นไปถึงขั้วหัวใจ ไอ้โจรลักพาตัวนี้ทำไมถึงรู้จัก เขาดีมากๆขนาดนี้? นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเลยจริงๆ การ แสดงที่เขาทำก่อนหน้านี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกของพวกมันเลย หล่ะมั้งเนี่ย

มันทำให้เขารับไม่ได้จริงๆ

นิเวศน์เริ่มรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา เศษผ้าของเขาถูกเอาออกมา จากปากก่อนจะโดนผ้าเปียกๆมาปกปิดที่จมูกและปากของเขา

แทน

แย่แล้ว

นิเวศน์เริ่มรู้สึกไม่ดี เขาหายใจแทบจะไม่ออก

นี่มันยาเสพติด

เพราะกลิ่นฉุนที่มาจากผ้านั่นทำให้
นิเวศน์รู้สึกว่าร่างทั้งร่างของเขาเย็นเฉียบ และเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น และเริ่มมึนงงราวกับโดนตีด้วยแท่งเหล็ก

“แบบนี้ค่อยดีหน่อย เป็นการระมัดระวังเด็กนี่ได้ดี

นิเวศน์รู้สึกว่าบทสนทนาระหว่างโจรลักพาตัวเริ่มจะเบาลง ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเขาสลบและเข้าสู่นิทรา

นิเวศน์ยับยั้งตัวเองไม่ให้หมดสติไม่ได้เหตุด้วยเพราะฤทธิ์ ของยา ทำให้เขาหมดสติลงไปในที่สุด

พอถึงเวลาพลบค่ำ ธนภาคพอเลิกงานก็ตรงไปรับพัชรี สองคนแวะตลาดเพื่อซื้อของที่นิเวศน์ชอบเพื่อเป็นการง้องอนที่ ถูกทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียวตลอดทั้งวัน

“คุณนี่มันใจร้ายแค่ปากจริงๆเลยนะ ใจอ่อนเป็นนุ่น

เชียว ปกติที่ทะเลาะกับนิเวศน์เขานี่คุณคงจะเจ็บปวดมากเลย

การทำอาหารที่นิเวศน์ชอบเป็นสิ่งที่พัชรีตั้งใจ ธนภาค เดินจูงมือกับพัชรีเดินไปตามถนน

“ฉันดูเหมือนว่าทะเลาะกับเขาสินะจริงๆฉันก็แค่ล้อเขาเล่น ก็เท่านั้นแหละ” พัชรีพูด

ธนภาคขนจมูกก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอ่อนโยน “แน่นอนว่าต้องรู้ ก็พัชรีของฉันหน่ะใจดีที่สุดเลย
พัชรีได้แต่ส่ายหน้าไปมา และหันไปมองธนภาคอย่างเป็น

อาย

ทั้งสองร่างเดินมาหยุดอยู่หน้าประตู ธนภาคก็เห็นกล่อง ส่งอาหารที่หน้าประตู ก่อนจะหันไปยิ้มให้พัชรี “ไงหล่ะ? พูดได้ เลยว่าเขาไม่ได้ดูแลตัวเขาเองแย่ในขณะที่ทำตัวไม่ดีกับคนอื่น หรอกหน่ะ เขาหิวเขาก็มีทางออกของเขาเอง คุณไม่จำเป็นต้อง กังวลว่าเขาจะหิวตายด้วยซ้ำเนีย

ธนภาคพูดอย่างมีความหมาย เอาจริงเขาอยากจะบอก

ให้พัชรีรู้ถึงใบหน้าที่แท้จริงของแฮคเกอร์ตัวน้อยนั่น แต่พอ คิดๆดูแล้วให้พัชรีรู้ด้วยตัวเองมันคงจะน่าสนใจกว่า

ธนภาคเปิดประตูเข้าไป ก็พบว่าทางเข้าตรงประตู เลอะเทอะไปด้วยโคลนเต็มไปหมด

“เจ้าเด็กนี่นี่มันน่าร้ายจริงๆ นี่ถ้าฉันไม่อยู่บ้านสักสองสาม

วันกลับมาบ้านคงจะพังไปเลยหล่ะมั้ง

ธนภาคส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เขาเดินเข้าไปก่อนจะ ตะโกนเรียก “นิเวศน์ ยังไม่รีบออกมารับคำด่าอีกหรอ?”

แต่กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับกลับมา

พัชรีกับธนภาคต่างมองตาซึ่งกันและกัน ต่างก็รู้สึกถึง ความผิดปกติไป

“หรือว่าหลับอยู่?”

ในขณะที่พูดพัชรีก็เดินตรงไปยังห้องนอนของของเขา แต่กลับพบแค่เพียงความว่างเปล่า แม้แต่เงาก็ไม่มี “ภาค.. ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อยู่ที่นี่ หรือว่าเขาหนีออกไป

แล้ว?”

พัชรีรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ใส่ใจที่ตัวเองเรียก ธนภาคอย่างสนิทสนมแบบนั้น

“ไม่ได้หรอก เขาไม่ได้มาอยู่ที่นี่นานมากแล้วนะ ถ้าจะไป ไหนยังไงเขาต้องเรียกผมแน่ๆ

ธนาคมองไปรอบๆแล้วก็พบว่ารองเท้าของเด็กชายยัง อยู่หากว่าไม่เกิด

อุบัติเหตุอะไรขึ้น เด็กชายก็น่าจะอยู่ในบ้านนี่แหละ

“คงจะน่าเบื่อเกินไปหน่อยแหละหากจะอยากเล่นซ่อนหา

กับเรา”

แม้ว่าจะไม่ค่อยแน่ใจว่าการเล่นซ่อนหาเป็นงานอดิเรก ของเขารึเปล่า แต่ธนภาคก็ยังคงพยายามคิดต่อไป

แม้ว่าธนภาคกับพัชรีจะพยายามหาร่องรอยของเด็กชาย แต่สิ่งที่แย่ก็คือคฤหาสน์นี้มันใหญ่เกินไปหน่อย

พวกเขาทั้งสองพยายามออกตามหาเขาจนทั่วคฤหาสน์ แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ

“ฉันว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ…ลองโทรหาเขาเถอะ

ธนภาครีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหานิเวศน์ทันที แต่นอกจากเสียงตุ๊ดๆแล้วก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา

“ไม่รับเหรอ?”

ธนภาคเริ่มเครียด แต่พัชรีอยู่ดีๆก็พูดขึ้น “ฉันได้ยินเสียง อะไรดัง ดูเหมือนว่าจะอยู่ในบ้านนี้นะ

ทั้งสองคนเดินตามเสียงมาจนมาพบกับโทรศัพท์ของ นิเวศน์ และดูเหมือนจะถูกทำตกไว้ เพราะว่ามันดูสกปรก

แต่ดูเหมือนว่าหน้าจอยังคงสะอาดหมดจด อยู่ไม่รู้เลย จริงๆว่านิเวศน์ใช้วัสดุพิเศษอะไรในการประกอบหน้าจอได้ พิเศษแบบนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ