ตอน392เข้าโจมตี
ตอนที่ 392 เข้าโจมตี
ธนภาคมีบางทีที่พูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจยังถูกพัชรี เข้าใจผิดว่าสิ่งที่พูดนั้นน่าขยะแขยงซึ่งเขาก็ไม่สบายใจซึ่งเขา เองก็ตำหนิตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
“ขอโทษ”
นอกจากคำว่าขอโทษธนภาคก็ไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาพูด
ให้ได้ดีกว่าค่านี้
พัชรีก็ไม่มีคำตอบกลับจากคำขอโทษของธนภาคจากนั้น ทั้งสองคนก็เริ่มเข้าสู่บรรยากาศที่เงียบเพราะต่างคนก็ทำอะไร ไม่ถูกก่อนนั้นธนาคยังรู้สึกว่าอยู่ในบรรยากาศที่เหมาะสม แล้วแต่ตอนนี้บรรยากาศเริ่มรู้สึกน่ากังวล
ทั้งสองน่าจะรู้สึกคล้ายๆ กันทุกคนล้วนแต่มีคำพูด มากมายที่ติดอยู่ในลำคอที่อยากจะพูดออกมาแต่ก็ไม่สมารถ พูดออกมาได้ทั้งๆที่ทั้งสองอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือแต่ในความ เป็นจริงนั้นระยะห่างระหว่างหัวใจของเขาทั้งสองอยู่ไกลกันเท่า ปลายสุดขอบโลก
ไม่รู้ว่าตกอยู่ในความเงียบไปนานเท่าไหร่ธนภาคคิดใน ใจว่าถ้าบรรยากาศเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงไม่ดีเป็นแม่จึงคิดที่จะพูดอะไรขักอย่าง
“ขอโทษ”
คิดแล้วคิดอีกคำพูดของธนภาคที่คิดออกก็ยังเป็นคำเดิม
ดูเหมือนว่าพัชรีจะตลกขบขันกับอาการของธนาค แน่นอนว่าเธอได้หัวเราะกับอาการนั้นอยู่เพียงเสี้ยววินาทีเก็บ อาการบนใบหน้าแล้วพูด พูดคำว่าขอโทษไม่รู้กี่ครั้งแล้วฉันให้ อภัยคุณแล้ว”
แต่ว่ามองไม่ออกเลยว่าคุณได้ให้อภัยฉันแล้วธนภาค ตำหนิอยู่ในใจแต่ยังคงพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ
“ใช่แล้วให้คุณรับนี้เอาไว้
ธนภาคหยิบช่อดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะจากนั้นก็ยื่นให้แก่
“อะฉันนึกว่าเป็นดอกไม้ไว้ประดับห้องฉายวิดีโอคุณเป็น
คนนํามาวางหรือคะ
ในที่สุดก็รู้เหตุผลที่แท้จริงในเรื่องที่พูดคุยกันแล้วน้ำเสียง คำพูดของพัชรีทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดเริ่มผ่อนคลายขึ้น บ้างเล็กน้อยแต่ในช่วงเวลาที่เธอได้มองเห็นช่อดอกกุหลาบนั้น เธอรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากจะรับช่อดอกไม้นั้นซักเท่าไหร่
พัชรีเข้าใจความหมายของช่อกุหลาบว่าแสดงถึงไม่เป็น ทางการในเรื่องอะไรเธอลังเลอยู่เกือบครึ่งวันแล้วเงยหน้าขึ้น มองธนภาคซึ่งต่างคนก็ทำตัวไม่ถูกแล้วพูดว่า “เอ๊ะฉันพูดว่าทำไมคุณถึงเลือกดอกไม้เป็นดอกกุหลาบแดง
งวนกลับมาถามคําถามเดิมอีก
แต่ก็ถือว่าไม่รู้ว่าธนภาคเข้าใจความหมายของการซื้อ ดอกกุหลายแดงหรือไม่หรือจะพูดว่าเขาไม่เข้าใจก็น่าจะชัดเจน แล้วล่ะ
“ดอกไม้ช่อนี้ไม่ควรที่จะมอบให้แบบมั่วๆนะแม้ว่าฉันจะไม่ ได้รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็ต้อง เข้าใจความหมายของมันดี
ใบหน้า อายที่บ่งตึงของพัชรีจริงๆ แล้วก็คือ โกรธจริงๆ หรือไม่ก็กำลังลังเลไม่มีใครมองออก
หลังจากนั้นของทั้งสองคนก็กลับมาสู่บรรยากาศแห่ง ความเงียบอีกครั้งหนึ่งทั้งสองไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรกันดีเพื่อที่จะ ให้เกิดความชัดเจนขึ้นทั้งคำพูดหรือการกระทำที่สามารถ ทำให้เกิดความชัดเจนแต่อีกฝ่ายหนึ่งก็ยังรู้สึกวูบวาบ แต่ในแง่หนึ่งมันก็คุ้มค่ากับกับการรอจริงๆ แต่ว่าความเงียบไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดี
ธนภาคเริ่มที่จะพูดโกหกเขาหัวเราะแล้วพูดออจำไม่ค่อย ได้แล้วน่าจะเป็นเพราะทางร้านเขาขายดอกไม้ชนิดอื่นหมดแล้ วน่ะ”
เป็นคำแก้ตัวที่โง่ที่สุดแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ร้านดอกไม้ จะขายดอกไม้หมดทั้งร้านเหลือแค่ดอกกุหลาบแดงชนิดเดียวเป็นคำอธิบายที่แก้ตัวด้วยน้ำอุ่นๆฟังไม่ขึ้นเลย แต่ก็ทำให้พัชรีเชื่อจริงๆ เธอพยักหน้าค่ะ
เป็นเพราะว่าพัชรีไม่ใช่คนที่คิดมากหรือไม่ก็พัชรีรู้สึก ว่าการเลือกดอกกุหลาบสีแดงก็ถือว่าเลือกได้ดีสำหรับเหตุผล ถ้าเป็นการมอบดอกกุหลาบสีแดง ให้เพื่อแสดงถึงการขอโทษ ในครั้งนี้ก็ถือว่าไม่เลว
หลังจากมอบดอกไม้เสร็จแล้วทั้งสองก็เข้าสู่บรรยากาศ เงียบอีกครั้ง
พัชรีถอนหายใจออกแล้วพูด จริงๆแล้วมาเพื่อจะดื่มเหล้า กับจันวิภาเมื่อธุระของเราจบแล้วฉันก็ต้องก้าวต่อไป
ธนภาครู้สึกไม่ค่อยพอใจเพราะเขารู้สึกหดหูมากเขาขอบ บรรยากาศ ในตอนนี้แต่คำพูดของพัชรีที่พูดนั้นถูกต้องจึงไม่มี เหตุผลที่จะปฏิเสธ
“ถ้างั้นก็ตกลงหลังจากนี้ไปก็อย่าลืมชวนฉันกับจันวิภา ไปเที่ยวบ่อยๆ”ธนภาคก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเหมือนกัน
“แน่นอน”
พัชรีพูดจบก็เดินออกจากห้องไปธนภาคพึ่งเห็นว่าดอก กุหลาบที่มอบให้พัชรีนั้นยังวางอยู่บนโต๊ะพัชรีไม่ได้ถือไปด้วย
คิดแล้วคิดอีกน่าจะเหมาะสมในฐานะที่เป็นคนขอโทษถ้า ส่งไปให้มันไม่ค่อยจะถูกในใจของธนภาครู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ไม่ใช่เพราะตัวเองไม่สนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ว่าเพราะพัชรีได้ยกโทษให้แล้วเธอก็เป็นคนดีคนหนึ่ง
ในช่วงเวลาที่ธนภาคกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นข้างนอกห้องมี เสียงดังเข้ามาเขาหัวใจเต้นถี่ในใจคิดว่านั่นอาจจะเป็นเสียง ของพัชรี กลับมาเอากุหลาบที่ลืมไว้
ธนภาครีบเดินออกจากห้องเพื่อมาดูปรากฏว่ามีเพียงบริ กรผับที่อยู่ในทางเดินน่าจะเป็นเพราะว่าพวกเขาได้ยินเสียงนั้น เหมือนกัน
แต่ทว่าในใจของธนาภาคยังมีความรู้สึกไม่สบายใจใน ตอนที่เขาเช็คเอาท์และออกจากบาร์ไปก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ
รถจอดอยู่ที่ถนนมองไปที่นาฬิกาธนภาคคิดที่จำไปบริษัท ตะวันกรุ๊ปจำกัดเพื่อไปหาสุมิตรพูดคุยปัญหาหัวใจถ้าสามารถ นัดให้เขาได้ดื่มเหล้าได้ก็ถือว่าดีแล้ว
แต่ทว่าจากคนที่ป่วยหนักกลับเปลี่ยนเป็นผู้ชายที่แสนดี ของเป็นห่วงเป็นใยครอบครัวถ้าเขาไปแล้วจะกลายเป็นไปเพื่อ เรื่องอื่นหรือเปล่า
เมื่อมือของธนภาคกำลังสัมผัสกับมือจับประตูแท่งวัตถุสี ดาก็เข้าโจมตีจากที่ด้านหลังของเขา
ธนภาครู้สึกว่าที่ลำคอของเขาเปียกชุ่มลางสังหรณ์ที่อยู่ใน ใจนั้นได้เกิดขึ้นแล้วตอนที่เขาเปิดประตูรถนั้นได้เห็นว่ามีสีดำ ปรากฏอยู่แล้ว
เสียงดังปั๊ว!
เป็นไม้เบสบอลที่พุ่งมาตามอากาศทั้งรวดเร็วและรุนแรง จนทุกให้กระจกรถยนต์นั้นแตกยับ
อันที่จริงเป้าหมายคือนภาคแต่พลาดไปที่ด้านข้าง
ธนภาคพันศีรษะกลับมาพบว่ามีคนสวมชุดแข่งรถสวม หมวกเบสบอลผู้ชายคนนั้นในมือถือไม้เบสบอลในตาแดงจ้อง มองตัวเอง
เด็กวัยรุ่นอันธพาลธนภาคพบว่ามีหลายคนแต่ไม่มีใคร กล้าที่จะประทะกับเขา
“อยากตายหรือ”
ธนภาคเหล่ตามองความกลัวที่มีน้อยนิดนั้นไม่ใช่เพราะ อาวุธที่อยู่ในมือของวัยรุ่นอันธพาลแต่ก่อเกิดจากกลัวใจ
วัยรุ่นอันธพาลหัวเราะเยาะในดวงตาแสดงออกถึงความ หวาดหลัวพูดเสียงดัง คิดไม่ถึงเลยว่าครอบครัวร่ำรวยที่จะให้ ความร่วมมือดีอย่างนี้แต่ก็ต้องมาถูกดูถูกดูแคลน ให้เจ็บช้ำ น้ำใจ”
หลังจากวันวัยรุ่นพูดจบก็ไม่รอต่อค่ายืดยาวไม่รีรอจับไม้ เบสบอลฟาดไปที่กรามล่างของธนภาคทันที
ธนภาคไม่ทันรู้ตัวจึงถอยไปทางด้านหลังแต่พอถอยก็ไป
ชนเข้ากับรถ
ไม้เบสบอลฟาดโดนที่ประตูรถเข้าอย่างแรงธนภาครู้สึก ว่ากะโหลกศีรษะว่าเปล่าจึงหันหลังกลับอีกครั้ง
ลมพัดผ่านเหมือนมีดปาดผ่านศีรษะของคนภาคไปตีที่ไม่
ทำให้เขาได้รับบาทเจ็บ
หลังจากนั้นธนภาคก็เริ่มที่จะสวนกลับ
วัยรุ่นฟันหักแสยะปากแต่ด้วยความดวดดีจึงไม่มีเสียงร้อง
เจ็บปวด
ธนภาคผลักวัยรุ่นออกไปจากนั้นเตะอย่างแรงไปที่ท้อง
น้องของวัยรุ่น
ธนภาคไม่คิดเลยว่าได้ลงมือสะเปะสะปะแต่ก็ซัดไปสอง ครั้งแล้วอย่างไรก็ตามก็ได้ประคองร่างกายหลบท้าวของธน ภาคได้
จากนั้นไม้เบสบอลก็หลุดออกจากมือลอยออกไปโดนธน
ภาค
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ