พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน383แปลกใจ



ตอน383แปลกใจ

ตอนที่383 แปลกใจ

ตั้งแต่ต้นจนจบสายตาของนิเวศน์ถึงแม้จะมองไปที่ชน นพร แต่จริง ๆ แล้วมันกลับล่องลอยไปในที่ ๆ ไกลแสนไกล

“นิเวศน์ ถ้ามีคนทำร้านแม่ของเธอ เธอจะทำยังไง” สุมิตร ถามนิเวศน์ด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก

“ผมก็ยังไม่เคยคิดนะ แต่พ่อของผมมักจะจัดการได้เสมอ นิเวศน์ตอบพลางสายหัวไปมา

พูดตามตรงแล้วก็คือนิเวศน์ไม่รู้ว่าตนควรจะต้องทำ อย่างไร เพราะชนินพรไม่มีอะไรจะให้สูญเสียอีกแล้ว สำหรับ คนที่ทำร้ายจนวิภานั้น เขามักจะทำให้คน ๆ นั้นสูญเสียทุก ๆ อย่าง ไม่เหลือแม้กระทั่งเงินทองหรือชื่อเสียง

แต่สำหรับชนินพร เธอไม่มีอะไรจะให้เสียแล้ว เธอเป็น

เพียงแค่พนักงานตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร ข้อดี

ของเธอคงจะมีแค่ความขยันเท่านั้น

อาจเป็นเพราะอย่างนี้เธอจึงได้อิจฉาจันวิภา

คนเราแข่งอะไรแบ่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้ สิ่ง ที่คนเรามักทำก็คือพยายามที่จะแทนที่คนอื่น หรือแม้แต่ ทำร้ายคนอื่น ซึ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่เลวร้ายทั้งสิ้น
ของ ๆ คนอื่นจะเอามาเป็นของ ๆ ตนได้อย่างไร แม้แต่ จับภาเองยังทำไม่ได้เลย นิเวศน์คิดพลางเดือนสายตาไปที่พ่อ ของคน

“แล้วพ่อคิดจะทำยังไง

เมื่อวานพ่อบอกว่ามีอะไรให้แม่ของลูกแปลกใจนิดหน่อย ไม่ใช่เหรอ วันนี้พ่อก็เลยเตรียมงานเลี้ยงไว้ให้

งานเลี้ยง?

จนวิภาไม่แน่ใจว่าตอนนี้สุมิตรจะจัดงานเลี้ยงอะไรอีก แล้วงานเลี้ยงมันเกี่ยวข้องยังไงกับเรื่องลงโทษชนินพรกัน

“มันไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดา เป็นงานเลี้ยงที่บริษัทจัดขึ้น

เพื่อพนักงานทุกคนนะ ดังนั้นทุกคนจะต้องมาร่วมงานด้วย

จันวิภาได้ฟังก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่นิเวศน์นั้นยิ้ม อย่างรู้ว่าพ่อของตนนั้นจะทำอะไร เขาได้แต่สงสารรู้สึกชนินพร เหลือเกิน แต่จะสงสารอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะ ชายหนุ่มคิดพลาง

“ผมหมายถึงจะให้คุณมีส่วนร่วมในงานนี้ด้วยแล้วก็ต้อง มาร่วมงานด้วยนะ” สุมิตรอธิบายพลางมองนาฬิกาข้อมือ

เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับที่ประตูมีชายชุดดำสอง คนเดินเข้ามาพอดี

“ไปกันเถอะ”
สุมิตรไม่แม้แต่จะมองชนินทรเลยสักนิดเดียวดยนที่เดิน ออกจากห้องพร้อมจันวิภาและนิเวศน์ ส่วนชนินพรนั้น มีชาย ชุดสองคนคุมตัวให้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าจนวิภาจะทำงานในบริษัทตะวันกรุ๊ปมาหลายปี

แต่ก็ไม่เคยคิดว่าบริษัทจะมีพนักงานมากมายขนาดนี้ ขณะที่ พนักงานต่างก็เดินมารวมกลุ่มกันที่ห้องโถง จันวิภาถึงได้รู้ว่า บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ใหญ่มากจริง ๆ

พนักงานทุกคนต่างก็รอการมาถึงของสุมิตรกันอย่างถ้วน หน้า พร้อมกับคิดว่างานเลี้ยงนี้น่าจะเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อ ฉลองให้กับสุมิตรที่รักษาตัวจนหายดีเป็นแน่

แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่…

ผ้าที่ติดป้ายงานฉลองถูกดึงลงมาพร้อมกับสุมิตรที่เดินขึ้น มาบนเวที แสงไฟที่สาดส่องมาที่ตัวชายหนุ่มทำให้ชายหนุ่ม เปล่งประกายกว่าปกติ

การปรากฏตัวของสุมิตรนั้นทำให้ทั้งห้องที่เงียบอยู่แล้วยิ่ง เงียบเข้าไปใหญ่ด้วยแรงกดดันที่ออกมาจากตัวของชายหนุ่ม

“ไม่นานมานี้ในบริษัทมีข่าวลือเกี่ยวกับผมและจันวิภา” สุ มิตรพูดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ

ทุกคนต่างก็นิ่งไปตาม ๆ กันเมื่อได้ฟังสิ่งที่สุมิตรพูดขึ้นมา เมื่อสักครู่ ด้วยรู้ตัวดีว่าตนนั้นต่างก็มีส่วนร่วมในข่าวลือนี้

“วันนี้ผมรู้ตัวคนที่ปล่อยข่าวลือแล้ว ทุกคนอาจจะไม่รู้จักดังนั้นผมจึงพาเธอมาแนะนํากับทุกคน

เมื่อมิตรพูดจบขายชุดคำสองคนก็พาตัวชนินพรให้ขึ้น มาบนเวที

เมื่อทุกคนเมื่อเห็นว่าคนที่ปล่อยข่าวลือเป็นใครต่างก็พา กันซุบซิบและหัวเราะออกมา

เนื่องจากชนินพรได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว จากพนักงาน

ธรรมดากลายเป็นเลขานุการของประธานบริษัท ทำให้มีข่าว ลือไม่น้อยเกี่ยวกับตัวเธอ ดังนั้นพอเธอถูกจับได้ จึงโดนเยาะ เย้ยจากพวกที่ชอบเห็นคนอื่นล้มเป็นเรื่องธรรมดา

ด้านชนินพรถึงแม้จะหน้าทนสักเพียงไหน แต่เมื่อเจอ สายตาหลายคู่ที่มองเธอด้วยความดูถูก จึงทำให้เธออดจะตัว สั่นด้วยความกลัวไม่ได้

“เนื่องจากคุณจันวิภานั้นเป็นคนที่มีจิตใจดี ไม่คิดที่จะ ลงโทษผู้หญิงคนนี้ ดังนั้นผมจึงต้องปล่อยเธอไป” สุมิตรพูดขึ้น ท่ามกลางเสียงเซ่งแซ่ของพนักงานทั้งหลาย

“ตอนนี้เชิญคุณชนินพรลงไปด้านล่างได้ แต่ห้ามคุณออก

จากงานนี้เป็นอันขาด แล้วที่สำคัญห้ามคุณลาออกจากบริษัทนี้ ด้วย คุณจะต้องอยู่ทำงานที่บริษัทนี้ไปจนตาย และถ้าคุณไม่ทำ ตามล่ะก็ ผมไม่รับรองผลที่ตามมานะ” สุมิตรพูดประโยคนี้ด้วย รอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนหนาวไปถึงขั้วหัวใจเลยที เดียว
ลง โทษ?

นี้มันไม่เหมือนเป็นการลงโทษเลยสักนิด ทำผิดขนาด แต่

ไม่ให้ลาออกเนี่ยนะ ทั้ง ๆ ที่มีคนมากมายอยากจะเข้ามา ทำงานที่บริษัทนี้จะแย่

แต่สําหรับคนที่ทําผิดอย่างชนินพรแล้ว มันคือการ ลงโทษ สุมิตร ให้เธอทำงานที่นี้ต่อก็เท่ากับว่าเธอจะต้องทนกับ สายตาดูถูกเหยียดหยามจากพนักงานที่นี้ไปจนตาย

หลังจากที่ชนินพรได้ฟังคำตัดสินจากสุมิตร เธอก็นั่ง ราวกับท่อนไม้ที่ไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรอีกเลย ทุกสิ่งทุกอย่าง รอบตัวและเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดราวกับเธอกำลังอยู่ในความฝัน แต่เสียงก่นด่าจากทุกคนทำให้เธอรู้ว่ามันคือความจริง

แล้วหนึ่งในคนที่วิจารณ์เธอมีใครบ้างละที่ไม่คิดอิจฉากัน

สุมิตรให้เวลาทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนาน

อีกสักหน่อย ก่อนจะทำมือเป็นสัญญาณให้เงียบ “วันนี้ที่ผม เรียกทุกคนมาไม่ใช่เพราะเรื่องเล็ก เรื่องสำคัญจะมาประกาศให้ทุกคนทราบ เรื่องนี้เรื่องเดียว แต่มี

พนักงานทุกคนเมื่อได้ฟังต่างก็คาดเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงเรื่องที่ชายหนุ่มกำลังจะประกาศ

ระหว่างนั้นสุมิตรก็เดินลงจากเวทีไป

ไม่นาน เขาและนิเวศน์ก็จูงมือจันวิภาให้ขึ้นมาบนเวที
“ผมขอประกาศให้ทุกคนทราบว่าฉันวิภาเป็นภรรยาของ ผม และนิเวศน์คือลูกชายของผม

สุมิตรพูดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง

“ผมรู้ว่าพวกคุณหลายคนรู้สึกเช่นเดียวกับชนินพร แต่ผม ต้องการให้พวกคุณรู้ไว้หากมีใครยังพูดถึงข่าวลือเกี่ยวกับจัน วิภาอีกล่ะก็ คุณจะโดนเช่นเดียวกันกับผู้หญิงคนนั้น

น้ำเสียงที่สุมิตร ใช้พูดเป็นน้ำเสียงที่แสดงถึงความเด็ด ขาด ซึ่งทำให้ในวิภาอดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้

“นี่คือเรื่องเซอร์ไพรส์ที่ผมบอกไง” สุมิตรพูดพร้อมกับกุม

มือของจันวิภาเอาไว้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ