พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน346กับดับ



ตอน346กับดับ

ตอนที่ 346 กับดับ

ตอนนี้เจริญศรีดูเหมือนเต็มไปด้วยไฟที่เป็นมนต์ดำ ลิ้นรส กับความสิ้นหวังของจันวิภา

แต่ว่าฉันวิภาไม่รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย กลับกันในใจยังคิด สงสารผู้หญิงคนนี้อยู่เลย เพื่อที่จะแก้แค้นคนหนึ่งคนกล้าทำถึง ขนาดนี้ได้ อดไม่ได้ที่จะบอกว่ามันคือเรื่องเศร้า

ถึงแม้ว่าหน้าตาจนวิภาไม่เปลี่ยน แต่กลับยิ้มแล้วพูดขึ้น มาว่า “ถ้าให้ฉันพูดคงเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดี แต่ทว่าเริ่มแรก ฉันก็คิดที่จะเก็บสุมิตรไว้ข้างตัวอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นแค่การ คัดเดาของเธอเอง

ทำไมตอนนี้ไม่หยิ่งผยองเหมือนเมื่อก่อนแล้วละ? เธอ ไม่ใช่อยากทำร้ายชื่อเสียงฉันหรือไง? ฮ่าๆ เจริญศรียังคง หัวเราะต่อ จากนั้นส่งสายตาไปอย่างหนังสือข้อตกลงนั้น

แค่จงมองไปที่จันวิภาที่กำลังจะเซ็นชื่อลงไป เธอถึงจะ วางใจลงได้

จันวิภาไม่ได้รีบร้อนอะไร เธอนั่งรออยู่ตรงหน้าเจริญศรี ท่าเหมือนว่าเธอไม่ได้เป็นคนหนึ่งที่กำลังพ่ายแพ้ เธอตอบ อย่างสุ่มขรึม : “ถ้าให้ฉันพูด คือข้อแลกเปลี่ยนที่ดี แต่ว่าเธอคุ้มหรอ? ครั้งนี้ถึงแม้ว่าเธอจะได้กลับไปยังบริษัทตะวันกรุ๊ป จำกัด ตัวเองก็ต้องศูนย์เสียเศรษฐกิจที่ดีไป อีกอย่าง หลังจาก ที่สุมิตรฟื้นขึ้นเขาคงไม่ทำสีหน้าที่ดีใส่เธอหรอก

นี่ไม่ใช่คำที่จันวิภาไว้ แต่มันคือความจริง

“เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ขอแค่เธอไม่อยู่ จะช้าหรือสาย ยังไงสุมิตรก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดก็คง เป็นของฉัน ความศูนย์เสียแค่นี้ ฉันเจริญศรียังรับผิดชอบไม่ ไหวหรอ

เจริญศรีเปลี่ยนสีหน้าเป็นแบบลำบากใจ แต่ทว่าแปป เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว

“ทำไม? เธอตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วหรอ? ถ้าจะทำตัวเป็นแม่

พระก็ต้องทำให้ถึงที่สุด เจริญศรียังคงเหมือนยุ่งยุงให้ทำต่อ

ไป

จนวิภาใสหัวตอบไป: “ก่อนที่จะเซ็นชื่อลงไปฉันอยากได้ พูดเตือนกับเธอหน่อย

เจริญศรีมองไปที่จันวิภาอย่างแปลกใจ ถ้าไม่ใช่ว่าฉัน วิภาสติดี เธอคงนึกว่านางนี้โดนตัวเองทำให้โกรธจนเป็นบ้า แล้ว

“เดือน? สารรูปของเธอตอนนี้ มีสิทธิ์อะไรมาเตือนฉัน ยะ?” เจริญศรีขยับขาไขว้ห้าง ยกกาแฟขึ้นมาค่อยๆดื่ม มองไป ที่จันวิภาที่กำลังพูดเรื่องตลก
“ช่วงนี้ฉันคิดไปคิดมา ที่จริงให้ฉันขอโทษเธอมันก็สาม ควรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสุมิตรหรือนราวิชญ์ หรือว่าว่าเพื่อนฉันอีก คน ที่มีแต่ความแค้นเอาแต่ต่อสู้ไปมา

“นี่มันไม่ได้มีความหมายแล้ว” จนวิภาปิดตาลง แค่คิดถึง เรื่องพวกนี้เธอก็ปวดหัวอย่างมาก “ครั้งนี้ฉันอยากตกลงเรื่องที่ เธอขอ หนึ่งคือเพื่อบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด อีกอย่างคือฉันอยาก รีบตัดขาดกับเรื่องพวกนี้ให้จบๆ

จันวิภาพูดอย่างเหนื่อยใจ แต่ว่าเจริญศรีกลับหัวเราะ เสียงแหลมออกมา ต่อจากนั้นเธอก็หยุดชะงักเสียงหัวเราะลง พูดอย่างเสียงแหลม: “พอแล้ว จันวิภา เธอนึกว่าตัวเธอเป็นตัว อะไรกันแน่?”

ดูจากเจริญศรี จันวิภายอมแพ้กับตัวเองที่ต้องแกล้งทำ เป็นเป็นห่วงและหวังด้

จันวิภารู้อยู่แล้วแหละว่าเจริญศรีคงจะแสดงอาการแบบนี้ ออกมา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เธอหยิบปากกาบน โต๊ะขึ้นมา

เธอได้พูดสิ่งที่ควรพูดออกไปหมดแล้ว เรื่องนี้ผ่านไปเธอ จากออกไปจากประเทศนี้ แต่ก่อนหน้านั้นเธอตัดสินใจจะไปพบ พชรครั้งสุดท้าย และหลังจากที่เธอจากไปคนเดียว พชรคง อยากให้สุมิตรตายไป

จนวิภาคิดไม่ออก เหตุการณ์ที่ต้องมาต่อสู้กับความแค้น แบบนี้มันดีตรงไหนกัน…..
ถึงตอนสุดท้ายสังเกตเห็นว่าเวลาที่จนวิภาเองรู้ความจริง ถึงได้ดูจริงจังมาก ที่จริงแล้วเธอไม่ใช่คนที่จุดไฟความแค้น ครั้งนี้ แต่เป็นแค่หมากตัวสำคัญในเกมนี้

เห็นนวิภาวางมือจากปากกาลง เจริญศรีอดไม่ได้ที่จะ กลืนน้ำลายลง สิ่งที่เธอวางแผนได้สำเร็จแล้ว ในใจก็อดที่จะ แสดงอาการ ใจออกมา

แต่ในวิภากลับรู้สึกโล่งอก เธอนึกว่าการเซ็นชื่อตัวเองลง ไป ก็เหมือนกับได้ฆ่าตัวคนเก่าเธอเองไปแล้ว ทำให้เธอเริ่มต้น ใหม่ได้

และในเวลาเดียวกัน ประตูของร้านก็ถูกถีบออก คนหนึ่งที่รูปร่างตัวเล็กปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตู

“มามี่ เซ็นไม่ได้นะ ถ้าเป็นสิ่งที่ทํามาทุกอย่างก็จะจบลง เสียงที่คุ้นเคย

จันวิภาหยุดชะงักปากกาที่อยู่ในมือ หันไปมอง ก็พบกับ นิเวศน์ที่หน้าแดงก่ำไปทั้งใบหน้า เหงื่อที่ไหลบนหัวก็ไหลลงยัง ไม่หยุด

“นิเวศน์ ทำไมลูก…..

“ไว้ค่อยอธิบาย แม่ห้ามเซ็นชื่อเด็ดขาด เรื่องทั้งหมดที่ เกิดขึ้นเป็นกับดับของพ่อบุญธรรมกับนางผู้หญิงคนนี้ เป้า หมายก็จะให้แม่ออกไปจากที่นี้ซะ
นิเวศน์พูดไปหายใจแรงไปด้วย ดวงตาคู่นั้นเบิกตาอย่าง ไม่กะพริบตา

“นิเวศน์ ลูกพูดบ้าอะไรของลูก ตอนนี้เพื่อช่วยบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัด ก็ต้องเลือกทำแบบนี้” จนถึงตอนนี้แล้ววันวิภาก็ไม่ เข้าใจในสิ่งที่นิเวศน์อธิบาย

อีกอย่าง ทำไมสุพจน์ถึงไม่เกี่ยวข้องกับเจริญศรีได้?

จันวิภาเตรียมตัวที่ตะเซ็นชื่อ แต่ว่าก็นิเวศน์แย่งปากกา และโยนลงพื้น

นิเวศน์จับมือจันวิภาไว้ ตะโกนเสียงดังไป : “มามี จะถูก หลอกแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด แม่ฟังผมนะ ก่อนที่ผมจะมาไป ตรวจสอบมาแล้ว มันกับดับที่พ่อบุญธรรมกับผู้หญิงคนนี้ เรื่องขึ้นมา

จันวิภาย่อตัวลง จ้องมองไปที่ดวงตาของนิเวศน์ จะมองดู ว่าเขาได้โกหกอะไรไหม เธอรู้ว่าตลอดเวลานี้นิเวศน์อยากให้สุ มิตรอยู่ข้างกาย และอีกอย่างอยากให้ครอบครัวสามพ่อแม่ลูก ได้อยู่ร่วมด้วยกัน

แต่ว่าในวิภาทำไม่ลงจริงๆ เธอยอมรับว่าเธอสับสนความ สัมพันธ์ที่เธอมีต่อสุมิตรที่ช่วงเวลาได้ดูแลเธอ แต่ว่านั้นมันแค่ ความสับสนเอง มันไม่ใช่ความรักที่แท้จริง

นิเวศน์แค่อยากยังอยู่เลยโกหกกันวิภาเองแหละ

เจริญศรีมองไปที่นิเวศน์ที่กำลังตายความจริงออกมา ในใจไม่สบายใจมาก เหตุการณ์สำคัญแบบนี้ง่ายที่จะ เปลี่ยนแปลงได้

และที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งนิเวศน์พูดเป็นความจริง แต่ว่าเจ้า นี้มันไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง?

เจริญศรีกลัวสถานการณ์เปลี่ยน พูดกับนิเวศน์ไปว่า : “ถ้า ตอนนี้ ย้อนกลับ ตะกลของละโซไม่เพียงแค่จะจุดไฟเฉยๆ ถ้า ไฟถูกน้ำมันรุกเป็นไฟขึ้นมาใช่ว่าอะไรก็ทำไม่ได้นะ

เจริญศรีรู้ว่าตอนนี้นิเวศน์อยากพูดเรื่องเกี่ยวกับบริษัท ตะวันกรุ๊ปจํากัด เลยรีบพูดขัดไว้

จนวิภาพูดกลับอย่างใจเย็น : “วางใจเถอะ ฉันรับปาก แล้วก็ต้องทำตามที่ตกลง” พูดจบเตรียมที่จะเซ็นชื่อต่อ และพูด ปลอบใจนิเวศน์ว่า: “นิเวศน์ พวกเราออกจากที่นี้ไป กลับไปใช้ ชีวิตเหมือนเมื่อก่อนดีไหม?

ครั้งนี้นิเวศน์กังวลใจ เขาได้ตะโกนตอบไป : “ผม..ผมมี หลักฐานนะ ตอนนี้พ่อบุญธรรมก็อยู่ร้านกาแฟน

เจริญศรีพูดอุทานขึ้นมา แต่ในวิภาใบหน้าที่เต็มไปด้วย ความแปลกใจและตั้งคำถามมากมายหันไปมองที่เจริญศรี

เจริญศรีจ้องมองจันวิภาพูด : “เด็กเวรห้ามพูดไปเรื่อย

นิเวศน์ไม่แม้แต่กลัวเลย แค่ตะโกนเสียงดังพูดไป : “พ่อ บุญธรรม ออกมาได้แล้ว เรื่องทั้งหมดนี้ผมดูออกหมดแล้ว

ที่น่าประหลาดใจคือ หลังที่นิเวศน์พูดจบลง นอกประตูก็มีเสียงเท้าเดินอย่างช้าๆ

หน้าตาไร้ความรู้สึกของสุพจน์ก็เดินเข้ามา เหมือนกับมา ตามเสียงของนิเวศน์

สุพจน์ไม่ได้ใส่ใจนิเวศน์ และไม่ได้สนใจเจริญศรี แต่แค่ มองหน้ามาจนวิภาอย่างนาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ