ตอน239คิดตังค์คืนหนึ่งเท่าไหร่
ตอนที่239 คิดตังค์ คืนหนึ่งเท่าไหร่
หลังจากที่สองคนแยกย้ายไป พชรีมองไปผ่านหลังของจันวิภา เมื่อกี้ที่เธอมองไปใบหน้าของจันวิภา รู้สึกว่าเหมือนว่าจะเคยเห็นคนที่คล้ายค ลึงกับจันวิภา…….
แต่พยายามที่จะคิดแล้วคิดอีก เธอไม่เคยเจอผู้หญิงที่อายุและคล้ายค ลึงกับจันวิภาเลย นิสัยแบบผู้ชายก็ไม่มี คิดไปคิดมาคงไม่น่าจะใช่
พชรีไม่ต้องการคิดมันละ
เวลาที่จันวิภาถึงบริษัท
ซึ่งมาสายกว่าทุกทีที่เข้างานมาหนึ่งชั่ว โมง ยังดีที่ทักทายสุมิตรก่อน
แต่สุมิตรเจอเธอแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยา อย่างใดเลย
เพราะว่าเป็นช่วงเช้ากับคนเยอะอีกต่าง
หาก
สุมิตรไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับจันวิภาแล้ว ตั้งจิตตั้งใจยุ่งแต่ทำงานที่ห้อง
ในขณะที่จันวิภาเข้าไปรินกาแฟให้ มองไปที่เขาที่กำลังตั้งใจทำงานแบบนั้ น ก็อดที่จะคิดไม่ได้
ที่จริงสุมิตรนอกจากจะดำรงชีวิตส่วนตั ว เรื่องงานเขาก็ดูตั้งอกตั้งใจดี ก็ยังเห็นไปยุ่งเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่สก ปรก
เวลาหนึ่งวันก็ผ่านไปอย่างสงบสุข กลางคืนจันวิภากลับมาถึงบ้าน เพิ่งนั่งได้ไม่นาน เสียงอ๊อดหน้าประตูก็ดังขึ้น
จันวิภาประหลาดใจก่อนที่เดินไปเปิดปร
ะตู
ในใจคิดว่าช่วงเวลานี้แล้วทำไมอ๊อดดัง ขึ้น เพื่อนเธอก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น. ยังมีใครที่จะมาหาเธอได้?
จันวิภาเปิดประตูออก แท้จริงแล้วเป็นสุมิตร
จากนั้นก็ถอนหายใจ จันวิภาถามเหมือนคนไม่มีแรง :
“ท่านประธาน คุณมาทำอะไรที่นี่”
ตัวเขาเองก็มีบ้านอยู่ไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงชอบมาหาเธอ
“หรือว่าฉันไม่ควรมาที่นี่เหรอ?” สุมิตรเดินไปเดินมาก็เข้าห้องเลย
เขาเองก็อยากกลับคอนโดของตัวเอง แต่พอกลับไปถึงก็ต้องเผชิญหน้ากับห้
องที่เย็นและอ้างว้าง
ไม่รู้สึกถึงการมีคน
สุมิตรเลยไม่อยากกลับไป
เขาอยากมาห้องของจันวิภามันซึมซับกั
บบรรยากาศที่ทำอาหารกับเธอ ในใจก็คิดถึงและเหม่อตลอดเวลา รู้ตัวอีกทีเขาก็ขับรถมาถึงหน้าคอนโดจั นวิภาแล้ว ตลกตัวเอง
สุมิตรเลยจำใจขึ้นมา
แต่เหมือนกับว่าจันวิภาจะไม่ยินดีต้อนรั บเขาเลย สุมิตรลูบไปที่หัวของจันวิภา จากนั้นก็พูดไปอย่างปกติว่า :
“ฉันหิวแล้ว เธอทำอาหารหรือยัง?”
“ยังไม่ได้ทำ”
จันวิภาผลักมือสมิตรออกอย่างไม่สบอ ารมณ์ พูดหงุดหงิดว่า : “นี่
คุณท่าประธานค่ะ คุณนึกว่าที่นี่เป็นร้านอาหารหรือโรงแร มหรือไงกัน ฉันพูดกับคุณนะคะว่า ที่นี่ฉันคิดเงินอยู่นะ! ”
“หือ?” ตอบย่างสงสัย
สุมิตรขมวดคิ้วไปมา
เขาตั้งใจที่จะกวนจันวิภา
และตอบแบบกวนประสาทไปว่า :
“คืนละเท่าไหร่ละ?”
รู้สึกถึงสายตาของสุมิตร
ในตอนนั้นจันวิภาก็หน้าแดงขึ้นมา
เธอผลักสุมิตร ตอบแบบหงุดหงิดว่า
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น! ฉันแค่อยากให้คุณคราวหลังไม่ต้องมา
ที่นี่แล้ว ฉันไม่สะดวก”
“มีอะไรที่ไม่สะดวก เธออยู่บ้านคนเดียว ฉันก็อยู่บ้านคนเดียว
ยิ่งดีถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันก็ยิ่งดูสนุก ขึ้นไปสิ ”
สุมิตรพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรมาก . เขาเดินก้าวเท้ามายังโซฟา เดินไปด้วยถอดเสื้อนอกออกไปด้วย
สุมิตรนี้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเขา
จันวิภาเดินตามหลังสุมิตร พูดและจ้องไปที่เขาอย่างไม่พอใจ :
ขอความกรุณาอย่าพูดเหมือนเป็ฯปกติ แบบนี้ได้ไหม ฉันคือแม่คนที่ลูก ส่วนก็มีเป็นผู้ชายที่มีคู่หมั้นแล้ว การกระทำของพวกเรามันไม่เหมาะสม หรือสมควรที่จะทำนะ!” ฟังจากคำพูดของจันวิภา
สุมิตรหยุดชะงักแล้วก็คิด เขาหันตัวมาพร้อมใบหน้าที่ดูไปที่จันวิ ภาอย่างจริงจัง ถามไปว่า :
“ความหมายของคุณก็คือถ้าสมมุติว่าผ มไม่มีคู่หมั้น
ก็สามารถที่จะอยู่กับคุณได้เหรอ?
งั้นคุณวางใจได้ ขอเวลาผมอีกหน่อย ผมจะจัดการเรื่องงานหมั้นระหว่างเจริ ญศรี จากนั้นก็มาใช้ชีวิตอยู่กับคุณ รวมถึงลูกชายของคุณด้วย ”
เธอหมายความว่าแบบนี้ตั้งเมื่อไหร่กัน
!
จันวิภาโกรธจนจ้องไปที่สุมิตร กัดฟันพูด : “ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ ฉันหมายถึงว่าฉันมีลูกแล้ว
มันไม่สมควรที่เราจะมาอยู่ด้วยกันได้ หรือว่าคุณไม่กังวลใจที่ผู้หญิงของคุณ มีลูกติดมาแล้วอยู่ดำรงชีวิตประจำวันแ บบนี้เหรอ?”
เงียบไปแปป สุมิตรแปลกใจแปปหนึ่ง จากนั้นก็ยิ้ม พูดอย่างปกติไปว่า : “แล้วทำไมละ ถ้าเกิดผมชอบคุณ ผมก็ควรชอบทุกอย่างที่เป็นคุณ ฉันไม่สนใจว่าคุณจะผ่านอะไรมาบ้าง เพราะอะไรถึงได้แยกทางกับพ่อเด็ก ผมไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากอยู่ด้วยกันกับคุณ”
คำพูดของสุมิตรทำให้จันวิภาใจเต้นรัว เธอนึกว่าหัวใจตัวเองจะหยุดเต้นแล้ว
สุมิตรไม่สนใจผู้ชายหรือเรื่องที่ผ่าน และไม่สนว่าเธอจะมีลูกกับคนอื่นแล้วอ ยู่ด้วยกันกับเขา สุมิตรที่ใจกว้างแบบนี้ ถ้าเป็นหกปีก่อนคงเป็นไปไม่ได้แน่! นึกถึงหกปีที่ผ่านหลังจากที่เขารู้ว่าฉันไ
ปมีลูกกับคนอื่น
บังคับให้เธอไปทำแท้ง
จนทำให้จันวิภาตัวสั่น
ก่อนที่เธอจะตอบเถียงอีก :
“ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สนใจ แต่ลูกชายฉันสนใจ
เขาจะเรียกคนที่ไม่มีเลือดสายเดียวกัน
ว่าพ่อหรอก?!”
คำพูดพวกนี้ถึงจะเป็นจันวิภาพูดออกมา
เอง แต่ในใจลึกๆของเธอ ยอมรับไม่ได้กับเรื่องกระทำที่สุมิตรทำ ไว้กับเธอลงและอดที่จะปฏิเสธความปร ารถนาดีที่สุมิตรมีให้
สุมิตรเปลี่ยนไปมาก
ถึงจะรู้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ปลอมขึ้น มา จันวิภาก็อดที่จะรู้สึกตกใจไม่ได้ สุมิตรยิ่งทำดีต่อเธอมากขึ้น จันวิภายิ่งอยากหนีออกห่าง
เธอยอมรับไม่ได้
ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้า
คำพูดของจันวิภาทำให้สุมิตรชะงัก . เขาก็ค่อยเอ่ย : “จันวิภา.…………….
คงจะพูดถูกแทงใจไป
จันวิภารู้สึกว่าควรที่จะพูดกับสุมิตรให้ก ระจ่าง มีเรื่องบางเรื่อง ก็ควรรีบพูดมันออกมาให้กระจ่างแจ้งจ
ะดีกว่า
จันวิภายืดเอวให้ตรง
เธอก็มองไปที่ดวงตาของสุมิตร พูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “สุมิตร
ฉันไม่ปิดบังคุณละ
ที่จริงฉันอยู่ประเทศอเมริกา
เพราะลูกชายฉันดื้อด้าน ฉันเลยกลับประเทศมาพร้อมกับเพื่อน
ครั้งนี้ฉันกลับมาเพื่อที่จะตามหาลูกชาย รอหาลูกชายเจอ ฉันก็จะบินกลับไปอยู่ที่ประเทศอเมริกา แล้ว ฉันไม่อยากอยู่ประเทศจีนอีกแล้ว
11
“เพราะอะไร ? ” สุมิตรขมวดคิ้ว กับใบหน้าเขาที่เต็มไปด้วยความประห ลาดใจ
“ไม่ใช่เพราะอะไร 11
ต้องพูดออกมาให้หมด
จันวิภาปล่อยวางไม่ลง จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาพูดต่อไปว่า :
“ฉันก็แค่ชอบการอยู่ต่างประเทศ
แต่คุณ
ตัดสินใจที่จะอยู่ประเทศและพัฒนาต่อ ไป
เพราะฉะนั้นระหว่างเราสองคนคงเป็นไ
ปไม่ได้
และขอให้คุณคราวหน้าไม่ต้องทำดีกับ
ฉันขนาดนี้
คุณลืมความสัมพันธ์ระหว่างเราเถอะนะ แบบนี้คงจะส่งผลดีต่อคุณและกับฉัน”
หลังจากจันวิภาพูดจบ
ก็ได้กัดริมฝีปากอย่างแน่น
ใครก็รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงถึงได้พูดแบบนั้น
ออกมา
ถึงแม้ว่าเธออยากพูดกับสุมิตรตั้งนานแ
ล้ว
แต่พอเห็นใบหน้าสุมิตรที่แสดงอาการ ออกมาก็รู้สึกทำไม่ลง
ผิดที่เธอใจอ่อนเกินไป
ทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นเจ็บปวดเพราะ ตนเอง……
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ