นตอน258แตงโมที่ผืนเด็ดจากต้
นย่อมไม่หวา
ตอนที่258
แตงโมที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน
พูดออกมาได้เพียงครึ่งเสียง “ประธาน…..มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ ทำไมคุณถึงกลับมาอีกล่ะ”
เมื่อได้ยินเสียงของจันวิภา
สุมิตรก็ค่อย ๆ ปล่อยเธอ มือใหญ่สัมผัสแก้มที่แนบกับฝ่ามือของ เขา
สุมิตรลูบใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ลึกลงไปในแววตามีระลอกคลื่น
จันวิภาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับสุมิตร ถามเขาออกไปแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วเปิดปากอย่างระมัดระวัง “สุมิตร
จันวิภายังพูดไม่ทันจบ สุมิตรก็หยุดคำพูดของเธอด้วยจูบ เขาวาดแขนโอบเอวของเธอไว้
มืออีกข้างหนึ่งอยู่ตรงหลังศีรษะของเธ
อ
ให้เธอแนบชิดกับตัวเองและจูบดูดดื่มม ากขึ้น
เป็นครั้งแรกที่เห็นพ่อและแม่จูบกัน
นิเวศน์เบิกตากว้าง
เขามองดูมันสักพักแล้วรับรู้ถึงสถานกา รณ์
จากนั้นจึงแอบเข้าไปในห้องเพื่อให้พื้น ที่กับพ่อและแม่ของตัวเอง
ตามความคืบหน้านี้ อีกไม่นานหรอก ที่คุณพ่อจะผูกมัดมามีอีกครั้ง จนวภาไม่เข้าใจสถานการณ
ปล่อยให้สุมิตรควบคุมตัวเองไว้อย่างห
มดหนทาง
เธอหยุดนิ่งไปเพราะถูกครอบง่าจากจูบ ที่ทำให้สับสนของสุมิตร
สุมิตรกดหน้าผากเข้ากับหน้าผากของเ
ธอ
กลิ่นของลมหายใจของเขาส่งความจั๊ก จี้มายังริมฝีปากของเธอ
เธออดไม่ได้ที่จะขยับริมฝีปากของตัวเ
อง
สุมิตรจ้องมองดวงตาของจันวิภาแล้วพู ดอย่างจริงจัง “จันวิภา คุณอย่าไปนะ! คุณต้องอยู่ข้าง ๆ ผมในช่วงเวลาที่เหลือในชีวิตนี้!”
กับคำพูดของสุมิตร
จันวิภารู้สึกสับสนประหลาดใจ เธออดไม่ได้ที่จะผลักสฺมิตรออก และถามอย่างงุนงง “สุมิตร คุณทานยาผิดเหรอ อยู่ดี ๆ ถึงได้มาพูดแบบนี้
สุมิตรปล่อยจันวิภา
มองเธออย่างจริงจังและถามว่า “คุณไม่ใช่ว่าพูดเหรอว่า ถ้าคุณหาลูกชายพบก็จะกลับไปอเมริก าน่ะ”
จันวิภาชะงักไป
เธอตอบสนองขึ้นมาอย่างฉับพลัน ตนพูดอย่างนั้นจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะสุมิตรหยิบยกขึ้นมา เธอก็คงลืมไปแล้ว
พูดขึ้นมาแล้ว ทำไมเธอถึงได้ลืมกันนะ สำหรับสิ่งที่ตัวเองพูดออกมา
ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการหรอกห รือ ทำไมเมื่อมันมาถึงแล้ว
เธอกลับไม่อยากไป
ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้
จันวิภารู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่สุมิตร
เมื่อเห็นอย่างนั้น สุมิตรจึงเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเ ธอแล้วบังคับแผ่วเบา เพื่อให้เธอมองเข้ามาที่ดวงตาของตน
สุมิตรพูดด้วยความรักที่เปี่ยมล้น
“จันวิภา สัญญากับผม
อย่าทิ้งผมไปได้ไหม สัญญากับผมนะ”
เสียงต่ำของสุมิตรที่พูดกับจันวิภาออก มานั้นมีเสน่ห์ดึงดูดแปลก ๆ ทุกครั้งทสุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงแหบเ ช่นนี้กับตน
จันวิภาอดไม่ได้ที่จะอยากเชื่อฟังเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะสมองยังคงตื่นตัวอยู่ คาดว่าเธอก็คงพยักหน้าสัญญาไปแล้ว
แต่เธอทำไม่ได้
ถ้าพูดถึงตัวตนที่แท้จริงของสุมิตร เธอไม่สามารถลืมได้
เห็นจันวิภาไม่ตอบสนองตัวเอง สุมิตรก็ค่อย ๆ
ลูบแก้มของเธอแผ่วเบาและแนบหน้าผ ากของเธออีกครั้ง
มองเข้าไปในดวงตาของเธอ
ถามด้วยเสียงต่ำว่า “จันวิภา
สัญญากับผมได้ไหม”
จันวิภาไม่ตอบ คุณไม่ตอบ ผมก็จะถือว่าคุณสัญญาแล้ว” สุมิตรปล่อยจันวิภาอย่างโล่งใจ เขายิ้มหล่อพลางพูดว่า “จันวิภา ตลอดชีวิตนี้คุณไม่สามารถทิ้งผมได้ นั่นคือสิ่งที่คุณสัญญากับผม
“ฉันสัญญาเมื่อไหร่ ! เมื่อได้ยินคำพูดของสุมิตร จันวิภาก็จ้องเขาเขม็ง
ในเวลาเดียวกัน หัวใจเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เธอพบว่าตัวเองเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความมุ่งมั่นของเ ธอที่จะกลับไปยังสหรัฐอเมริกาถึงได้มี ความแข็งแกร่งน้อยลง เธอมีความต้องการที่จะอยู่ในประเทศจี ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ต้องกงวลที่
นี่
เช่นนี้ไม่ได้แน่
เธอเป็นแบบนี้ได้อย่างไร
ไม่ใช่ว่าบอกว่าต้องการที่จะหาลูกชายใ ห้พบและกลับไปที่สหรัฐอเมริกาหรอก
หรือ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้…..เธอเปลี่ยนไปตั้ง
แต่เมื่อไหร่
“ความเงียบของคุณคือคำตอบ ผมก็ถือว่าคุณสัญญาแล้ว ห้ามกลับคำ” สุมิตรพูดอย่างไม่มีเหตุผล
“คุณ!
คุณมันเถียงข้างๆคูๆไม่มีเหตุผลเลย!”
ถึงแม้ว่าหัวใจจะยุ่งเหยิง
จันวิภาก็อดไม่ได้ที่จะโต้แย้งสุมิตรกลับ ไป โมชราเถยงบางๆๆไม่มีเหตุผล แต่ผมพูดด้วยอำนาจสั่งการต่างหาก!” สุมิตรพูดอย่างเผด็จการ
พูดด้วยอำนาจสั่งการ…ปีนั้น
ไม่ใช่ว่าเพราะอำนาจและเงินของเขาห รอกหรือตนถึงได้ถูกบ้านของสุมิตรดูถู กเหยียดหยาม มาตอนนี้เขายังทำตัวเหมือนเมื่อหกปีก่ อนอีกงั้นเหรอ
จันวิภามองสุมิตรอย่างเย็นชาและถาม ขึ้นเงียบ ๆ ว่า “ประธาน คุณพูดอย่างนี้ ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นเลยเหรอ
เขาเรียกว่าแตงโมที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อม ไม่หวาน ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้”
“แตงโมที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวานเ หรอ” สมิตรเลิกคิ้ว ใบหน้าเขาดูเหลือเชื่อ มือเข้าจับที่ลำคอด้านหลังของจันวิภา จุ๊บเบา ๆ บนริมฝีปากของเธอ แล้วพูดอย่างมีเหตุผลว่า “ผมอาจจะไม่หวานจันวิภา ทั้งหมดนี่คุณไม่ได้อาสาเองหรอกเหร อ”
“ฉัน!” จันวิภาถลึงตาจ้องนิเวศน์เขม็ง ไม่ใช่ว่าทั้งหมดนี่คุณบังคับฉันหรอกเห
รอ ฉันถึงต้องอาสาน่ะ!
จันวิภากำลังจะโต้แย้ง ทันใดนั้นเองก็นึกขึ้นได้ว่าลูกรักของตัว
เองอยู่ที่นี่
และพวกเขาทั้งสองคนที่อยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เ บื่อกับการถูกดูถูกเหยียดหยามมาเป็นเ วลานาน…..
คิดได้ถึงตรงนี้ จนวภากผลกสุมิตรออกไป มองไปที่ห้องนั่งเล่น มองดูตรงที่ทียังเห็นนิเวศน์
รู้สึกถึงท่าทีแปลก ๆ ของจันวิภา สุมิตรจึงมองตามสายตาของเธอไป พบว่านิเวศน์ที่ควรจะนั่งอยู่ตรงโซฟาไ ม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว
สุมิตรนึกขึ้นได้ถึงความเคลื่อนไหวของ เขา เดิมทีเพราะตนกังวลมากเกินไป จึงไม่ทันได้คิดว่ายังมีเด็กอยู่ที่นี่ โดยปกติจันวิภามักจะอยู่บ้านคนเดียว เขาคุ้นเคยกับการหยอกล้อจันวิภา แต่ก็ไม่คิดว่าจะมากมายขนาดนี้
ตอนนี้เด็กคนนั้นเจตนาจะให้พื้นที่สำหรั บพวกเขา….คิดได้แบบนี้ สุมิตรก็รู้สึกได้ว่าลูกชายของจันวิภานั้น น่าสนใจมาก เขายมพลางมองไปที่จันวิภาแล้วพูดว่า “ลูกชายของคุณน่าสนใจมากเลยนะ”
จันวิภาเหลือบมองเขา
พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ใช่ ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายของใคร
ในเวลาเดียวกัน ในหัวใจของเธอก็บ่น
เจ้าตัวดี
เห็นแม่ของตัวเองถูกคนทำหยาบคายแ ต่ก็ไม่ยอมมาช่วย
กล้าดียังไงมาหนีแม่! ไม่ได้ ถ้าไม่ได้สั่งสอนเขาให้หนัก
จันวิภาก็ไม่สามารถระบายความโกรธนี้ ได้!
ขณะที่คิดจันวิภาก็ผลักสุมิตรออกไปใน
เวลาเดียวกัน และตรงไปที่โซฟาแล้วพูดว่า “ประธาน
คณไม่ไปทำงานเหรอ ยงอยู่ทนกับฉันจะดีหรือไงคะ
แค่เพราะสาเหตุบางอย่าง จู่ ๆ เขาก็มา ตอนนี้รู้แล้วว่าจ้นวิภาจะไม่ไป เขาก็รู้สึกโล่งใจ
ในใจยังมีอีกเรื่องหนึ่ง สุมิตรเดินเข้าไปหาจันวิภา พูดแบบสบาย ๆ ว่า “ไม่เป็นไรหรอก งานพวกนั้นมันก็ยุ่งอยู่ตลอดอยู่แล้ว รอผมกลับไปแล้วค่อยทำมันก็ไม่มีปัญ หาหรอก แต่เป็นคุณ…..
เมื่อสุมิตรพูดไปได้ครึ่งทาง ก็มองไปที่จันวิภาเงียบ ๆ และจู่ ๆ ก็ไม่พูดอะไรอีก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ