ตอน486รักเธอตลอดไป
ตอนที่486รักเธอตลอดไป
ธนภาคมองไปที่พัชรีด้วยความทั้งปวดหัวทั้งหมดหวังธน ภาคที่พากลับก็ไม่ได้ให้ไปก็ไม่ได้อยากก็อยู่ดีๆก็เหมือนกับว่า เขาขุดหลุมฝังตัวเองไปซะงั้น
จันวิภาเป็นคนที่ชอบจัดแจงต่างๆ ตั้งแต่เธอตัดสินใจที่จะ ไปเธอก็ติดต่อโรงเรียนส่งใบสมัครไป
พอส่งใบสมัครไปแล้วจันวิภาก็จัดเก็บกระเป๋าของเธอเพื่อ
เป็นการเตรียมตัว
แต่ก่อนที่เธอจะจากไปจะไม่บอกอะไรสุมิตร ให้รู้เลยอย่าง นั้นหรอ? ตอนนี้เขาทั้งคู่กำลังอยู่ในสงครามเย็นอย่างนี้ถ้าเธอ บอกสุมิตรเขาก็คงทำตัวเย็นชาใส่เหมือนเดิมแน่ๆ
จันวิภากัดริมฝีปากอย่างสับสนแต่ท้ายสุดเธอก็ตัดสินใจที่ จะไปหาสุมิตรเพื่อที่จะคุยกับเขา
ที่น่าแปลกก็คือตั้งแต่หลังจากที่จันวิภาตัดสินใจจะไปคุย กับสุมิตรพ่อเจ้าพระคุณก็ยุ่งมาโดยตลอดไปทำงานตั้งแต่เช้า กลับมาก็มืดแล้วเธอจึงไม่ได้มีโอกาสได้เจอและพูดคุยด้วย ซักที
จนท้ายสุดเธอไม่อาจทนได้อีกต่อไปแล้วเธอจึงตัดสินใจที่ จะรอสุมิตรในคืนนั้นเข็มนาฬิกาวนไปเรื่อยๆจนวิภาก็ยังคงนั่ง รออยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นเปลือกตาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เธอข่มความง่วงเหงาหาวนอนเอาไว้ในสีหน้าเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง เที่ยงคืนแล้วนะเนี่ยคืนนี้เขาจะกลับ มารึเปล่านะ?”จริงๆเธอก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกันจนวิภา จึงล้มตัวลงบนโซฟาตั้งใจจะไปจีบสักพักกะว่าได้ยินเสียงฝีเท้า ของสุมิตรแล้วเธอจะตื่นขึ้นแน่นอน
แต่ในวิภาก็ง่วงง่วงการหลับไปในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เสียง ฝีเท้าหรอกขนาดเสียงฟ้าถล่มข้างนอกก็ไม่อาจปลุกเธอได้แล้ว
ริมฝีปากแดงเผยอออกตามแรงหายใจปรากฏร่างอุ่นหนึ่ เคลื่อนเข้าไปใกล้ร่างของหญิงสาวและอุ้มเธอขึ้นมา
จันวิภาในยามหลับไปนั้นไม่ได้มีแม้กระทั่งผ้าห่มปกคลุม ใดๆนั่นทำให้เธอค่อนข้างหนาวทีเดียว
ดังนั้นเมื่อทันทีที่ร่างอุ่นอยู่ใกล้ๆเธอนั้นเองร่างน้อยก็ เคลื่อนเข้าซุกและขยับตัวให้ตนหลับนอนอย่างสบาย
อุ่นจัง!
ใบหน้าของวันวิภาคลี่รอยยิ้มอย่างมีความสุขราวกับแมว ที่ถูกตามใจ
แล้วการที่เธอเป็นแบบนั้นก็ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นบน
ใบหน้าของสุมิตร
เธอนี่น้าง่วงขนาดนี้แล้วทำไมถึงไม่กลับเข้าห้องไปนอน
เขาอุ้มร่างบางมาวางไว้บนเตียงนอนเอาผ้าห่มมาห่มให้ ก่อนที่จะหันหลังเดินไป
จนวิภาที่กำลังฝันหวานอยู่ๆก็รู้สึกหนาวขึ้นมาความอบอุ่น
ที่เธอได้รับอยู่ดีๆก็จะพลันหายไป
“อย่าไปนะ!
เธอคว้ามือของสุมิตรเอาไว้ด้วยสัญาตญาณเพื่อที่จะรักษา
ความอบอุ่นนั้นไว้
เธอคว้าข้อมือของสุมิตรไว้
เขาชะงักลงและหันไปมองพบว่าเธอยังไม่ได้ตื่นจากนิทรา
“ได้สิฉันจะไม่ไปไหน
สุมิตร ดออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยนเขาค่อยๆหย่อนตัว นั่งลงอย่างระมัดระวังดวงตาดำสนิทจับจ้องไปที่ใบหน้าของ
หญิงสาว
ในเวลาที่จันวิภาไม่อาจรับรู้ได้เขามองเธอด้วยหัวใจเบื้อง
ลึกของเขาอยากจะแสดงออกมา
เขายังคงรักจันวิภาแต่เขาเองก็ยังรู้ว่ามันเกิดปัญหาขึ้น ระหว่างความรู้สึกของพวกเขาถ้าเขายังคงดั้นด้นต่อไปมันอาจ จะยิ่งทำให้จนวิภากดดัน
สุมิตรรู้ดีว่ากันวิภาเธอต้องการเวลาดังนั้นเขาจึงยอมปล่อยเธอไปปล่อยให้เธอได้ไปตามที่ใจเธอต้องการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะละทิ้งเธอไปเลย ในทาง
ตรงกันข้ามเขาแค่ปล่อยให้เธอได้ผ่อนใจก่อนที่ในอนาคตเรา จะได้อยู่ด้วยกัน โดยที่ไม่มีวันแยกจากกันอีกและวันหนึ่งฉันวิภา จะเข้าใจว่าท้ายสุดแล้วเธอต้องการอะไร
เขาโค้งตัวลงจุมพิตที่ริมฝีปากอ่อนนุ่มก่อนจะพูดด้วยเสียง แหบพร่า ภาฉันรักเธอนะรักมาโดยตลอดและจะรักตลอดไป
เมื่อตื่นขึ้นมาจนวิภารู้สึกปลอดโปร่งสบายว
เธอยกมือบิดตัวไปมาด้วยความเกียจคร้านจันวิภาหรี่ตา ลงเล็กน้อยรอยยิ้มปรากฏที่ปลายริมฝีปาก
อ้าววันนี้อารมณ์ดีจังเลย
เธอถลกผ้าห่มออกสายตาก็ตกไปอยู่ข้างๆก็แปลกใจว่า ทำไมถึงมีเก้าอี้มาอยู่ข้างๆเตียงของเธอได้ แต่เธอก็ไม่ได้เอามาใส่ใจอะไรมากมาย
เธอหยิบตั๋วเครื่องบินออกมาจากลิ้นชักก่อนที่แววตาหญิง สาวจะหมองหม่นลง
วันนี้เธอต้องไปแล้วทุกๆอย่างเธอขอก็ตระเตรียมจนเรีย บร้อยจนสามารถที่จะไปสนามบินได้เลยแล้ว
แต่ว่าเธอยังไม่พบกับ มิตรเลยสิ่งที่เธออยากจะพูดกับเขาจึงทำได้เพียงแค่เก็บเอาไว้ใจเงียบๆ
เธอคิดถึงสุมิตรเธอรู้สึกว่าอยู่ดีๆก็มีเมฆหมอกมาปกคลุม วันอันสดใสของเธอจนทำให้รู้สึกอึดอัดในหัวใจ
“หม่ามีตื่นแล้วรอครับ?”
ตั๋วเครื่องบินถูกเก็บไว้อย่างระมัดระวัง อื้อตื่นแล้วหล่ะเข้า
มาสิ”
นิเวศน์ดันประตูเปิดเข้ามายิ้มตาหยี หม่ามีเก็บของปลเว ลงมากินข้าวเร็วครับวันนี้ผมเตรียมอาหารให้หม่ามีด้วยตัวเอง เลยนะ”
“ลูกเตรียมเองเลยหรอ?”จันวิภาถามออกไปด้วยความตก ตะลึง วันนี้มันคือวันอะไรกันนะถึงทำให้ลูกมาเตรียมครัวให้ หม่ามีได้”
“หม่ามีชื่อบื้อจริงวันนี้ไม่ใช่วนเดินทางของหม่ามีหรือยัง ไงผมก็เลยเตรียมกับข้าวไว้ให้ไงหม่ามีกินอิ่มแล้วก็จะได้เตรียม ตัวออกเดินทางได้
แหง่ะทำไมฟังแล้รู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล
จนวิภายิ้มน้อยๆก่อนจะพูด”เดี๋ยวหม่ามีล้างหน้าก่อน เดี๋ยวลงไปนะจ๊ะ”
“โอเคครับเดี๋ยวผมลงไปรอข้างล่างนะ
แม้ว่าอายุอานามของนิเวศน์ยังเป็นเพียงเด็กแต่เขาฉลาดมากทีเดียว ได้จากเมนูที่เขาตระเตรียมไว้อย่างสวยงาม
มันเป็นอาหารเช้าแบบตะวันตกสไตล์ที่ทำให้คนมองรู้สึก อยากอาหารขึ้นมาทันที
จันวิภากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะนั่งลงที่ข้างโต๊ะ นี่ลูกตื่น มาเตรียมตั้งแต่กี่โมงเนี่ย?
“ไม่ได้นานเท่าไหร่ครับผมมีผู้ช่วย…เอไม่ใช่สีผม เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วเตรียมของไว้แล้วแค่อุ่นมันหน่อยก็ ใช้ได้”
พอพูดจบนิเวศน์ก็สังเกตปฏิกิยาของจันวิภาแต่ก็เห็นเธอ ให้ความสนใจไปที่อาหารไม่ได้เอะใจอะไรเขาจึงโล่งอก
“หม่ามีกินละนะ จันวิภาจับตะเกียบขึ้นหยิบก้อนเนื้อกลม
คืบเข้าปากสีหน้าเต็มไปด้วยความพึงใจ อิ่มรสชาติไม่เลวเลย
นิเวศน์ลูกรสมือใช้ได้เลยนะนี่ย
“แหะๆหม่ามีชอบผมก็ดีใจแล้วหล่ะครับ
นิเวศน์พูดสายตามองไปยังที่ๆนึงด้วยสีหน้าที่อ่านยาก “เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเดี๋ยวหม่ามีไปสนามบินเองได้นะ
เขาถอนสายตากลับมาก่อนจะปฏิเสธเสียงแข้งได้ไงผม อยากไปส่งหม่ามี้ด้วยตัวเองนี่นา
“แต่ว่ามันไกลมากเลยนะไปๆมาๆนี่เสียเวลาแย่จะรบกวน เวลาไปเรียนลูกนะ”
“งั้นก็ลาวันนึงไปเลยสิครับผมไม่ได้สนใจสักหน่อยผม อยากไปส่งหม่ามีที่สนามบิน
เขาเริ่มออกท่าทีรามกับเด็กแบบว่าถ้าไม่ได้สิ่งที่อยากก็จะ ไม่หยุดเด็ดขาด
“โอเคจะโอเคไปส่งก็ไปส่ง
“หม่ามน่ารักที่สุดเลย!
ในขณะที่พุดนิเวศน์ก็หอมเข้าไปที่แก้มของหม่ามีตัวเอง แล้วก็มานั่งข้างๆตัวเธอกินข้าวไปด้วยกัน
ว้าวอาหารพวกนี้อร่อยใช้ได้ทีเดียวไม่น่าหล่ะหม่าถึงได้ กินใหญ่เลยเขาสวาปามอย่างตระกะตระกามจนแทบจะลืม ภารกิจของตัวเองไปซะสิ้น
คนเดินเพ่นพ่านไปมาเต็มสนามบินผู้คนต่างรีบเร่งคนที่นี่ ทั้งแตกต่างและวายวุ่นราวกับชีวิตของคนไม่ปาน
พอเปลี่ยนเป็นบอร์ดดิ้งพาสแล้วจัยวิภาก็หันตัวกลับไปหา นิเวศน์และธนภาคด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นดวงตามองไปยัง เบื้องหลังก่อนจะถาม พัชรีไม่มาหรอ?”
“อ้อเธอมีธุระต้องไปทำหนะเลยมาไม่ทันส่ง”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ