ตอน476สมรู้ร่วมคิดกับสุพจน์
ตอนที่476สมรู้ร่วมคิดกับสุพจน์
ธนภาคเกาหัวแกรกๆแล้วถามออกไปด้วยความไม่
เข้าใจ ในเมื่อนายก็รู้ว่าเปมิศาเป็นตัวการที่ทำจะให้ความ สัมพันธ์ของพวกนายแย่ลงแล้วทำไมถึงยังปล่อยเธอไว้รีบหาวิธี กำจัดเธอไปซะเถอะ
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเปมิศาแม้แต่นดเดียวคนที่จันวิภาจะ สงสัยก็คือฉันแล้วก็จะแก้แค้นฉันแล้วนายคิดว่าฉันจะยังทำ อะไรได้อีก ถ้าเกิดว่าฉันฆ่าเธอจริงๆจันวิภาคงจะเป็นฉันไป ตลอดชีวิต”
ใช่สิมันเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวจริงๆเลย
ธนภาคเอามือลูบหน้าผากตัวเองอย่างตึงเครียดเขาค่อยๆ หลับตาลงแล้วพูดว่า“บางทีเธออาจจะสมรู้ร่วมคิดกับสุพจน์ ก็ได้นะ”
“หมายความว่ายังไง?
ธนภาคค่อยๆลุกขึ้นนั่งหลังตรงแล้วพูดต่อว่าหลายวันมา นี้ฉันเอาแต่คิดถึงเรื่องนี้ตอนนั้นที่เมือง ทำไมสุพจน์ถึงยืนมอง พวกนายจากมานิ่งๆไม่ทำอะไรเลย แต่พอฉันเห็นนายกับจัน วิภาตอนนี้ก็เข้าใจแล้ว
“เข้าใจว่าอะไร?”
“สุพจน์เปลี่ยนวิธีทำลายความสัมพันธ์ของพวกนายไง แถมครั้งนี้ดูท่าทางจะได้ผลด้วย
คำพูดของธนภาคทำให้สุมิตรหรี่ตาลง
“เพราะฉะนั้นนายกับจันวิภาต้องดีกันซะอย่าไปติดกับดัก
ของไอ้สุพจน์มัน
สุมิตรหลุบตาลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ถ้าเกิดว่า ฉันกับจันวิภาเชื่อใจกันมากพอไอ้เจ้าสุพจน์นั่นก็ไม่มีโอกาส หรอก”
“เชื่อใจกัน?นายไม่แม้แต่บอกความจริงกับเธอแล้วจะให้ เธอเชื่อใจนายได้ยังไง?มิตรฉันว่านายกำลังวนอยู่ในวงกลม เอาตัวเองลงไปอยู่ในกับดักซะเองนายควรจะเชื่อใจจนวิภาเชื่อ ใจในความรักของพวกนาย
ธนภาคพูดเพราะเจตนาแต่แต่สุมิตรกลับไม่ได้ตอบอะไร กลับไปได้แต่นั่งดื่มต่อไปเงียบๆ
“นี่ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ?ฉัน….
“พูดอะไรล่ะที่ฉันให้นายมาเพราะให้มาดื่มเป็นเพื่อนไม่ใช่ มาพูดจาอะไรไร้สาระ
พอพูดจบสุมิตรก็เทเหล้าให้ธนภาคอีกแก้วนึง เฮ้อดูเหมือนว่าวันนี้ต้องไม่เมาไม่กลับแล้วเนี่ย
ธนภาคถอนหายใจออกมาอย่างจําใจแล้วก็ยกแก้วดื่มจน
หมด
จันวิภาได้ยินคนรับใช้พูดกันว่าเมื่อคืนสุมิตรดื่มจนเมา และเทะกลับมานอนจนป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย
จันวิภาเป็นห่วงเขามากก็เลยไปทำซุปแก้เมาค้างเตรียมไว้ ให้เขาพอได้ยินว่าเขาตื่นแล้วก็เลยให้คนยกไปเสริฟ
“อย่าพึ่ง!”
คนรับใช้กำลังจะยกซุปไปให้สุมิตรแต่ก็โดนจันวิภาเรียก
ไว้ซะก่อน
คนรับใช้หันมามองหน้าจันวิภารอให้เธอพูดต่อแต่ว่ารอ อยู่ครึ่งค่อนวันเธอก็ยังคงไม่พูดอะไร
“คุณผู้หญิง?”
จันวิภาขบริมฝีปากตัวเองเบาๆก่อนจะพูดว่า “ฉันเอาไป
เองดีกว่า”
พอพูดจบในวิภาก็เอาซุปมาถือเองแล้วก็ตรงไปยังห้อง
นอนของสุมิตร
จันวิภาหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเคาะประตู
“เข้ามา”
สุมิตรอยู่ในชุดนอนกำลังนอนดูเอกสารอยู่บนเตียงพอได้ ยินเสียงฝีเท้าเขาก็เงยหน้ามองแล้วก็ตกใจ
“เธอมาได้ยังไง?”
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะดูแข็งกระด้างแต่สายตาของสุมิตรนั้น กลับอ่อนโยนเหลือเกิน
น่าเสียดายที่จันวิภาเอาแต่ก้มหน้าไม่ได้มองตาสุมิตรเลย แม้แต่น้อยเพราะฉะนั้นเธอเลยไม่เห็นสายตาที่อ่อนโยนคู่นั้น ของเขา
จันวิภาวางซุปแก้เมาค้างไว้ที่โต๊ะข้างๆเตียงเขาแล้วพูด ว่า ได้ยินว่าเมื่อคืนนายเมามากเลยทำซุปแก้เมาค้างมาให้
ความห่วงใจขของเธอทำให้สุมิตรยิ้มออกแล้วพูดว่า “เธอ
ไม่ได้ทำซุปให้ฉันกินนานแล้วเหมือนกันนะ
“พักนี้ฉันค่อนข้างยุ่งนายลองชิมดูสิว่ารสชาติเป็นยังไง สุมิตรยกซ้อนขึ้นมาตักซุปชิมแล้วก็พยักหน้า อมอร่อย
มาก”
“นายนี่มันจริงๆเลยนะทำไมถึงได้ดื่มอะไรขนาดนั้นเมื่อคืน มีงานเลี้ยงอะไรเหรอ?”
สุมิตรหยุดก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า ไม่ได้มีงานอะไรหรอก
แค่ไปดื่มกับธนภาคเฉยๆนะ
“ที่แท้ก็ไปดื่มกับเพื่อนนี่เองแล้วทำไมต้องดื่มเยอะขนาดนั้นด้วยมันไม่ดีต่อสุขภาพนะ
สุมิตรเงยหน้ามองหน้าจันวิภาแล้วเอ่ยปากถามว่า “เธอ รู้จักเป็นห่วงฉันด้วยเหรอ?
“ฉัน…ฉันก็เป็นห่วงนายมากมาตลอดแหละ!”
จันวิภาขึ้นเสียงราวกับว่าเธอกำลังโกรธ
สุมิตรหัวเราะพลางส่ายหน้าเบาๆแล้วก็ก้มหน้ากินซุปต่อ
จันวิภานั่งลงข้างๆสุมิตรแล้วก็จ้องหน้าเขาเอามือเท้าคาง
สีหน้าดูลังเล
“มีอะไรอยากพูดก็พูดมาเถอะ”
จันวิภายิ้มอย่างเก้ๆกังๆ แล้วเอ่ยปากถามว่า “ฉัน แสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“อีกนิดก็เขียนเป็นตัวอักษรอยู่บนหน้าแล้วล่ะ
“งั้นฉันจะพูดแล้วนะจันวิภานั่งหลังตรงเธอหายใจเข้า
ลึกๆแล้วเอ่ยปากถามว่า “มิตรฉันขอร้องอะไรนายเรื่องนึงได้
ไหม?”
“พูดมาสิ”
“เอาหลักฐานของคุณธามให้เปมิศาเถอะนะ
“ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้เอง
รอยยิ้มของสุมิตรเต็มไปด้วยความขื่นขมทำให้จนวิภารู้สึกโกรธเล็กน้อย
“ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมนายถึงไม่ยอมให้หลักฐานนั้น กับเปมิศาไปลากคอคนไม่ดีให้เข้าสู่กระบวนการกฎหมายมัน ไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกเหรอ? หรือว่านายจะโกรธกับฉันอยู่แบบนี้ แล้วเป็นศัตรูกับเปมิศาต่อไปขอร้องล่ะพวกเราอย่าทำตัว เหมือนเด็กแบบนี้เลยได้ไหม!
“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักฐานหรอกแต่มันเกี่ยวกับว่าตอน นี้ฉันอยู่ตรงไหนในใจเธอมากกว่า
จนวิภาเงียบไปพักนึงก่อนจะตอบว่า “เรื่องมันไม่ได้ซับซ้อน ขนาดนั้นนายให้หลักฐานเปมิศาไปเธอก็ทำหน้าที่ของเธอ สําเร็จพวกเราสองคนก็จะไม่ได้ต้องมานั่งทะเลาะกันอีกหรือว่า นายคิดว่าที่เราสองคนเป็นกันอยู่ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องปกตินั้นเห รอ?”
“ที่แท้เธอก็รู้ว่าที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้มันไม่ปกติ
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องฉันกำลังหาวิธีแก้ปัญหาอยู่นี่ไง!
“เธอกำลังแก้ปัญหาให้เปมิศาอยู่ใช่ไหมล่ะ”
“นาย….ในวิถา ดัดแล้วถามต่อว่า “สรุปว่านายไม่คิดจะ มอบหลักฐานให้เปมิศาถูกไหม?”
“ใช่”
จันวิภาตะลึงไปครู่นึงเพราะไม่คิดว่าสุมิตรจะตอบตรง ขนาดนี้
“ถ้างั้นนายช่วยบอกเหตุผลที่ให้ไม่ได้มาหน่อย
“เพราะว่าเธอเห็นเปมิศาสำคัญกว่าฉันทำให้ฉันรู้สึกไม่
คำตอบแบบนี้ทำให้ฉันวิภาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือ
ร้องไห้ดี
“มิตรเลิกทำตัวเหมือนเด็กซักทีได้ไหมนิเวศน์ยังไม่พูด อะไรหน่อมแน้มแบบนี้เลย
“โดนแย่งคนรักไปไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็คงไม่นั่งมอง เฉยๆหรอกถ้าเกิดนิเวศน์ต้องเจอเหตุการณ์แบบที่ฉันเจอก คงจะรู้สึกแบบเดียวกันนั่นแหละ”
จริงๆเลยไม่รู้จะพูดยังไงกับผู้ชายคนนี้แล้ว!
จันวิภาลุกขึ้นยืนอย่างไม่พอใจแล้วพูดว่า “นายไม่ยอมแพ้ ฉันก็ไม่ยอมเช่นกันงั้นเรามาดูกันว่าใครจะยอมแพ้ก่อนกัน
“นี่เธอทําฉันเหรอ?”
“จะว่ายังงั้นก็ได้”
“งั้นก็ได้ฉันรับคำท้า
สุมิตรคลี่ยิ้มออกมาทำให้ในวิภากำหมัดแน่น
จันวิภาจัดดอกไม้ใส่แจกันอย่างเหม่อลอยเฮ้อ
จันวิภาถอนหายใจอีกครั้งแล้วก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่
พอใจ
“จันวิภา”
พอได้ยินเปมิกาเรียกชื่อตัวเองจันวิภาก็หันหน้ากลับไป มองแล้วเอ่ยถามว่า “ว่ายังไง?”
“เธอเกลียดชังดอกไม้พวกนี้เหรอ?”
“ไม่ได้เกลียดนทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?”
เปมิศาเงยหน้าขึ้นส่งสายตาให้จนวิภามองดอกไม้ในมือ
ของตัวเอง
จันวิภาก้มหน้าลงไปมองก็เห็นว่าเธอทำลายดอกไม้ในมือ ซะไม่เหลือชิ้นดีไม่เหลือแม้แต่กลีบเดียว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ