ตอน468สิ่งที่จันวิภาเลือก
ตอนที่ 468สิ่งที่จันวิภาเลือก
สุพจน์พูดไปพลางขยับเข้าไปใกล้ในวิภาเรื่อยๆ
“หยุดอยู่ตรงนั้นอย่าเข้ามา! จันวิภาเล็งปืนไปที่สุพจน์แล้ว ด่าทอว่า นายก็ไม่ต้องเสแสร้งว่าเป็นคนดีหรอกถึงแม้ว่านาย จะไม่ได้เป็นคนลงมือแต่นายก็ไม่ได้มือสะอาดเลยแม้แต่น้อย!
“ที่เธอพูดก็ไม่ผิดหรอกทุกคนที่อยู่ในที่นี้ไม่มีใครมือ สะอาดเลยซักคนแต่ไม่งั้นตอนนี้จะทำยังไงล่ะจะยืนมองดูเป ศาตายไปต่อหน้าต่อตางั้นเหรอ?”
จนวิภากัดริมฝีปากแน่นราวกับว่าเธอกำลังลังเลกับการ
ตัดสินใจของเธอ
ในที่สุดจนวิภาก็หันไปมองหน้าสุมิตรแล้วพูดว่า “สุมิตร นายไปตามหมอที่เก่งที่สุดมาให้ได้ถ้าเปมิศาตายไปฉันจะไม่มี วัน ให้อภัยนายจนตาย!”
หลังจากได้ยินสิ่งที่จันวิภาพูดสุมิตรทั้งดีใจและเสียใจใน เวลาเดียวกัน
ส่วนสุพจน์นั้นก็ไม่ได้รู้สึดเสียใจเท่าไหร่ได้แต่ยืนมองจัน วิภาที่เข้าไปอุ้มเปทิศาแล้วเดินไปหาสุมิตรด้วยสายตานิ่งเรียบ
และในตอนนี้สุมิตรก็ไม่ได้ฉวยโอกาสลงมือทำอะไรได้แต่ ยืนมองพวกเขาจากไป
ทันใดนั้นเจ้าหัวล้านที่ตามมาแล้วเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ รีบเอ่ยปากถาม หัวหน้าจะปล่อยพวกมันไปแบบนี้เหรอครับ?
นี่มันโอกาสที่จะตายที่จะลงมือสุมิตรก็อยู่ตรงหน้าแล้วมัน ง่ายมากๆถ้าจะฆ่าเขาตอนนี้
แต่ดูเหมือนว่าสุพจน์จะไม่ได้รีบร้อนที่จะเอาชีวิตของสุมิตร เขาจ้องไปที่คู่นั้นแล้วตอบว่า “ถึงแม้ว่าสุมิตรจะได้ตัวจันวิภาไป แต่ว่าความโกรธเคืองความเข้าใจผิดระหว่างพวกเขานั้นถึงจะ เป็นอุปสรรคต่อชีวิตคู่มากที่สุด
เมื่อกี้นี้สุพจน์ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
ไม่ว่าเขาจะพยายามแยกคนสองคนนี้ออกจากกันขนาด ไหนก็ไม่สามารถทำให้จันวิภาเลิกรักสุมิตรได้แล้วยิ่งการที่ พยายามแยกเขาออกจากกันยิ่งทำให้พวกเขารักกันมากกว่า เดิม
ปล่อยให้พวกเขามีปัญหากันเองดีกว่าถึงจะทำให้ความ รู้สึกของพวกเราค่อยๆเลือนหายไปเอง
แถมเรื่องเปมิศานั้นก็เป็นจุดแตกหักของพวกเขาสองคนที่
ได้ผลที่สุด
เพราะฉะนั้นสุพจน์ก็ไม่รีบร้อนอะไรเขายังมีเวลาอีกทั้งชีวิต ที่จะทำให้ในวิภามีความสุข
ในตอนนี้เขาก็แค่ต้องรอคอยแบบเงียบๆรอให้ในวิภากับ สุมิตรห่างกันไปเองแค่นี้เขาก็จะสามารถดึงจนวิภามาอยู่ข้างๆ เขาได้ง่ายๆแล้ว
หลังจากคิดได้แบบนี้ใบหน้าของสุพจน์ก็ปรากฏรอยยิ้ม ออกมา……
การที่ได้เห็นในวิภาอีกครั้งนึงนิเวศน์ดีใจสุดขีด แต่ยังที่จะไม่ได้ทำอะไรในวิภาก็วิ่งผ่านเขาไปอย่างรีบ
“หม่ามี้?”
นิเวศน์รีบวิ่งตามไปก็เห็นว่าทั้งหน้าทั้งตัวของจันวิภาเต็ม ไปด้วยเลือด หม่ามี้เป็นอะไรไปได้รับบาดเจ็บเหรอ?”
“ลูกรักตอนนี้หม่ามี้ยังไม่มีเวลาอธิบายให้ฟังรอแป๊ปนึง
นะ!”
หลังจากพูดจบจันวิภาก็เปิดประตูเข้าไปในห้องๆนึงเธอ มองด้านในอยู่ครู่นึงแล้วพึมพำกับตัวเองว่า ที่นี่ก็พอได้
“อะไรคือพอได้เหรอหม่า?”
จันวิภาไม่ไดตอบคำถามของนิเวศน์เธอหันหลังแล้วรีบวิ่ง
ออกไป
ผ่านไปสักพักนึงก็มีคนอุ้มร่างๆนึงที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัวมา ที่ห้องนี้
แล้วก็ยังมีหมอมาด้วย
เขากันไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องรออยู่ข้างนอกแล้วก็รีบ เข้าไปทําการรักษาพร้อมกับพยาบาล
เมื่อกี้นิเวศน์เหลือบมองเปมิศาอยู่แว๊ปนึงเขาอึ้งไปสักพัก แล้วก็พิมพ์ออกมาอย่างตกใจ เธอคือ…เปมิศา
ในขณะเดียวกันจนวิภากรออยู่ข้างนอกห้องด้วยสีหน้า
กระวนกระวาย
“หม่าทำไมถึงได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ล่ะ?”
“ลูกก็ไปถามพ่อของลูกส
พอจันวิภาพูดถึงสุมิตรสีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ยิ่งทำให้นิเวศน์รู้สึกสับสน
ปะไปช่วยหม่ามีมาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมพอหม่ามกลับ มาแล้วถึงได้ดูแปลกไปขนาดนี้?
สีหน้าของนิเวศน์เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจแต่ตอนนั้นใน สมองของจันวิภามีแต่เปมิกาเท่านั้นเธอเลยไม่ได้สนใจความ เปลี่ยนแปลงของนิเวศน์เลย
หลังจากการรักษาคุณหมอสามารถยื้อชีวิตของเปมิศาไว้
ได้เพียงแต่เธออ่อนแอมากต้องพักรักษาตัวให้ดี
จนวิภาถอนหายใจอย่างโล่งอก
ถ้าเกิดว่าเปมิศาไม่รอดขึ้นมาจริงๆจันวิภาไม่รู้เลยว่าเธอจะมองหน้าสุมิตรได้ยังไงความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนไม่มี ทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แน่นอน
หลังจากเปมิศาปลอดภัยแล้ววันวิภาก็ไม่ได้เจอหน้าสุมิตร
ถึงสองวันเต็มๆ
เธอไม่รู้ว่าเขารู้สึกผิดจนไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเธอยังไงหรือ ว่าเหน็ดเหนื่อยกับการต่อสู้กับสุพจน์ที่ไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย
แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรจนวิภาก็รู้สึกว่าทั้งคู่ควรรอให้
ใจเย็นลงก่อน
พอสุมิตร โผล่มาอีกครั้งนึงในวิภาก็ตัดสินใจทำให้สิ่งที่ ทําให้คนอื่นช็อค
“เธอจะพาเปมิศาไปด้วยงั้นเหรอ?”
จันวิภาตอบอย่างหนักแน่น ถูกต้อง
“ทำไม?”
“ตอนนี้เปมิศาบาดเจ็บร้ายแรงต้องการการดูแลแล้วอีก อย่างถ้าทิ้งเธอไว้ที่นี่ใครจะไปรู้ว่าพวกนายจะมาล้างแค้นเธอร์ เปล่าพาเธอไปอยู่กับฉันน่าจะปลอดภัยกว่า
“นี่เธอไม่เคยเชื่อใจฉันเลยเหรอ?”
“ใช่!”
ดวงตาของสุมิตรเต็มไปด้วยความผิดหวังแล้วตอบว่า “โอ เคนตามใจเธอแล้วกัน
พอพูดจบสุมิตรก็เดินออกจากห้องไปดวงตาเต็มไปด้วย ความอ่อนระโหยโรยแรง
จันวิภารู้ว่าสุมิตรเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้ปลอบใจ เขาเลยได้แต่มองหลังของเขาเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
พอสุมิตรไปแล้วจันวิภาก็เลิกซ่อนสีหน้าที่เต็มไปด้วย ความคิดถึงที่เธอมีต่อเขาได้แต่จำใจทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร
นิเวศน์เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธออย่างชัดเจน
เขาถอนหายใจยาวแล้วพูดว่า หม่าอย่าพูดกับปะแบบ นี้ได้ไหมเพื่อจะช่วยหม่ามีปะเหน็ดเหนื่อยมากๆเลยนะ
“หม่ามี้รู้”
“รู้แล้วทำไมยังทำกับปะแบบนั้นอีกล่ะ?ผมเห็นนะว่าเขา
เสียใจมาก
จันวิภาเงียบไปครู่นึงแล้วตอบว่า “ลูกยังเด็กไม่เข้าใจเรื่อง พวกนี้หรอก”
“ถ้าหม่ามีไม่พูดแล้วผมจะเข้าใจได้ยังไง? “นิเวศน์ตอบ อย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจผู้ใหญ่เลยจริงๆ เห็นๆอยู่ว่าเป็นห่วงอีก ฝ่ายแต่ก็ไม่สามารถมีความสุขได้เพราะเหตุผลพวงนี้หรือว่า เรื่องความรักมันซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?”
จันวิภายนมอไปลูบหัวของนิเวศน์แล้วตอบว่า ยังเด็กอยู่ ไม่จําเป็นต้องมาทำความเข้าใจเรื่องความรักอะไรนั่นหรอก กลับไปพักผ่อนซะน่าจะอีกไม่นานพวกเราก็จะได้กลับบ้านกัน แล้ว”
กลับบ้าน…..
ทั้งๆที่มันดูเป็นคำที่ฟังแล้วน่าอบอุ่นใจแต่ในวิภากลับไม่ ได้รู้สึกมีความสุขในใจลับเต็มไปด้วยความกดดัน
แปลกจังเลยการที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เธอควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็น แบบนี้ไปได้?
หลังจากเปมิศาฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่ๆไม่คุ้นตา
ภายในห้องตบแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ว่าดูดีบรรยากาศ ทำให้สบายใจขึ้นมานิดหน่อย
เปมิศาพยายามขยับตัวลุกขึ้นนั่งเธอเอามือความหาบาง อย่างที่ใต้หมอน
แต่กลับว่างเปล่าทำให้เปมิศารู้สึกลุกลี้ลุกลน
“เห้ยทำไมลุกขึ้นนั่งล่ะ!”
จันวิภาออกไปเอาน้ำพอกลับมาก็เห็นว่าเปมิศาฟื้นแล้ว ทำให้เธอเซอร์ไพรส์มาก
เปมิศามองไปรอบๆด้วยสายตาเบลอๆแล้วเอ่ยปากถาม ว่า ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?
“บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์”
บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์คำๆนี้ให้เปมิศาตื่นขึ้นทันทีภาพ เหตุการณ์ก่อนได้รับบาดเจ็บค่อยๆ โผล่ขึ้นมาในหัวเธออีกครั้ง
ใบหน้าเธอค่อยๆนิ่งลงแล้วถามต่อว่า จะบอกว่าตอนนี้ฉัน โดนจับขังไว้งั้นเหรอ?
จันวิภานั่งลงที่ข้างๆเปมิศาแล้วตอบว่า จะเป็นไปได้ยังไง เธอแค่มาพักรักษาตัวที่นี่เดี๋ยวพออาการดีขึ้นก็ไปได้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ