ตอน441เริ่มการฝึกซ้อม
ตอนที่ 441 เริ่มการฝึกซ้อม
แมวมองเงยหน้า ชี้ไปทางของห้องแล้วกล่าว “โอเค ไป พักก่อน คุณเริ่มช้ากว่าคนอื่น ดังนั้นจึงต้องฝึกซ้อมคุณเร็วขึ้น เริ่มจากพรุ่งนี้ก็จะเริ่มฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการ เตรียมตัวให้
“อืม รู้แล้ว”
เมื่อผลักประตูเข้าไป จนวิภาพพบว่าตำแหน่งภายในห้อง ถูกจัดไว้อย่างง่าย ๆ เฟอร์นิเจอร์ก็มีน้อย
ภายในห้องมีเตียงเดี่ยวสองเตียง เตียงแรกอยู่ตรงประตู
อีกเตียงอยู่ข้างหน้าต่าง
ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องสำหรับสองคน
จันวิภาชอบความเงียบ จึงเลือกเตียงที่อยู่ข้างหน้าต่าง จากนั้น จันวิภาก็ไปดูที่ห้องน้ำ
ถึงแม้ห้องน้ำจะเล็ก แต่คาดไม่ถึงว่าภายในตู้ล็อกเกอร์จะ มีที่สักผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำ ทำให้ในวิภาเลิกคิ้วขึ้น
นี่มันเยี่ยมจริง ๆ จันวิภารู้สึกมาตลอดว่าเหงื่อออก จน อยากจะอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายสักหน่อย
เธอรอไม่ไหวที่จะถอดเสื้อผ้าออก บิดเปิดฝักบัว ให้น้ำอุ่น
เลื่อนลงผ่านผิวของจันวิภา
ไม่นาน ไอน้ำก็ลอยขึ้นในห้องน้ำ
เธอหลับตาอย่างสบายใจ จันวิภาเตาสถานการณ์
ภายนอก
ไม่รู้ว่าตอนนี้สุมิตรเป็นอย่างไร ตัวเองต้องทำอย่างไร ถึง จะไม่เป็นการเปิดเผยสถานการณ์ของตัวเอง พร้อมทั้งจะติดต่อ สุมิตรยังไง?
ยังมีนิเวศน์ เขาต้องกังวลเกี่ยวกับตัวเองแน่นอน
เฮ้อ การเป็นแม่ของตัวเองช่างแย่เสียจริง ชอบทำให้ลูก ของตัวเองเป็นห่วง
จนวิภาษีบมือ ภายในจิตใจรู้สึกไม่มีพละกำลัง
คืนนี้ จันวิภารู้สึกหลับลึก
จันวิภาคิดว่าตัวเองจะไม่ง่วงจนนอนไม่หลับ แต่ในความ เป็นจริง เมื่อหัวของเธอถึงหมอนก็แทบจะหลับในทันที โดยไม่ ฝันอะไรทั้งคืน
เช้าวันที่สอง จันวิภากำลังสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงคนมา เคาะประตู
จันวิภากหน้าผากไปมา และเดินไปเปิดประตู
“ใคร?”
“ใครอะไร? ไม่ดูเหรอว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว หรือว่าคุณยาก
ตอนนี้คนที่ยืนอยู่ข้างนอก เป็นผู้ชายสวมแว่นตาในชุดสูท ยังไม่ทันที่จะพูดจบ ทันทีที่เห็นในวิภาก็หยุดชะงัก และ กลืนคำพูดสุดท้ายกลับไป
การแสดงออกของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของฉันวิภาเต้นแรง แอบคิดว่าจะเป็นพรรคพวกของสุพจน์หรือไม่
จันวิภากำลังครุ่นคิด ว่าจะวิ่งหนีผู้ชายคนนี้หรือไม่ แต่ ฝ่ายตรงข้ามยื่นมือไปทางจันวิภา สีหน้ามีรอยยิ้มความเอาใจ ใส่ และกล่าว “สวัสดี ฉันคือผู้จัดการปอก เป็นผู้รับผิดชอบ การฝึกซ้อมของพวกคุณ
ถึงแม้รอยยิ้มของผู้ชายคนนั้นจะดูเป็นมิตร แต่จันวิภารู้สึก ไม่ค่อยชอบเจ้าคนนี้ เพราะสายตาของเขานั้นดูมีการวางแผน
และละโมบโลภมาก
เธอก้าวถอยหลังเล็กน้อย และกล่าวอย่างสุภาพ “สวัสดี
“นี่ เมื่อวานพักผ่อนสบายไหม?”
“ยอดเยี่ยมมาก
“ถ้าต้องการอะไร บอกฉันได้เลย ฉันจะพยายามหามาให้
ความกระตือรือร้นของผู้จัดการปอกทำให้วันวิภารู้สึก
คุณ”อึดอัดเป็นอย่างมาก ตอนนี้เธอคิดแค่เพียงหาวิธีแยกตัวไปจาก ผู้ชายคนนี้ แต่ก็กล่าวด้วยความอดทน “ไม่ต้อง ไม่ต้อง ทุก อย่างดีมาก ไม่ต้องการรบกวนคุณอีก
“ไม่รบกวน ไม่รบกวน นี่เป็นหน้าที่ของฉัน
ขณะที่ผู้จัดการปอกพูด ก็พยายามเข้าใกล้วันวิภา
จนวิภาก้าวถอยหลังไปอีก ยิ้มกล่าว “ฉันเป็นคนที่มาใหม่ ควรจะอยู่ห่างจากผู้จัดการปอก เพื่อที่จะได้ไม่ถูกคนอื่นวิพากษ์ วิจารณ์”
“ดูคุณพูด มีฉัน ใครจะกล้านินทาลับหลัง ขณะที่ผู้จัดการปอกพูด ก็ดูซ้ายขวา พบว่าไม่มีคนก็ยกมือ ขึ้นไปจับไหล่ของจันวิภา และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“อยากจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องหาคนสนับสนุน ไม่เพียงแต่ สามารถดูแลคุณ ยังสามารถสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมให้คุณได้ ต้องรู้ไว้นะ ว่าผู้หญิงที่ต้องการจะโดดเด่นมีจำนวนมาก ถ้าคุณ ไม่คว้าโอกาสไว้ล่ะก็ โอกาสก็จะถูกคนอื่นแย่งไป
แต่ทว่าในวิภานั้นไม่ได้สนใจ แต่ฟังเข้าใจเสียงของผู้ชาย
เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะลวนลามตัวเอง?
คนนี้
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของจันวิภาแข็งทื่อ แสร้งทำเป็นฟังไม่ เข้าใจสิ่งที่ผู้จัดการปอกบอกเป็นนัย ๆ แล้วกล่าว “ขอบคุณผู้ จัดการปอกมาก ฉันจะพยายาม
“แต่พยายามไม่พอหรอก คุณคิดให้ดี ๆ เกี่ยวกับคำ แนะนำของฉัน จริงสิ ตอนสิบโมงไปที่ห้องออกกำลังกาย วันนี้ คุณยังไม่รู้อะไรก็ไม่เป็นไร แต่ต่อจากนี้ไป ทุกวันจะต้องตื่น ตอนหกโมงเช้าเพื่อมาฝึกซ้อม อย่าลืมล่ะ
“อืม ได้”
เมื่อผู้จัดการปอกจากไป ฉันวิภาก็ชูนิ้วกลางอยู่ด้านหลัง
เขา
แม่ง อะไรกัน คาดไม่ถึงว่าเพิ่งจะพบกันก็มาเสนอกฎ ระเบียบตัวเอง ช่างเป็นคนที่แย่จริง ๆ
แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะขัดใจคนประเภทนี้ โดยเฉพาะ ตอนนี้ที่จันวิภาเป็นผู้ถูกกระทำจากสถานการณ์ภายนอก ต้อง ทำตัวให้เล็กสุด และหลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับคนอื่น ๆ
ดังนั้น ถึงแม้วันวิภาจะเกลียดผู้ชายคนนี้แค่ไหน ก็ต้อง อดทนเอาไว้
เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ จันวิภาก็ไปห้องออกกำลังกาย
ตามเวลา
เดิมทีจันวิภาคิดว่าจะได้รับการฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อ ความเป็นมืออาชีพ แต่กลับถูกสั่งให้ฝึกซ้อมท่ายืนทั้งวัน
นี่มันหมายความว่าอย่างไร ให้ฝึกซ้อมท่ายืน นี่พวกเขา กำลังฝึกซ้อมทหารหรือยังไง?
จันวิภาตำนอยู่ภายในใจ แต่ก็ปฏิบัติตามอย่างเชื่อฟัง เป็นเวลานานที่ต้องยืนติดชิดกับกำแพง
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง จันวิภารู้สึกราวกับว่าร่างกายตัวเอง เหมือนล่องลอย มือเท้าทั้งสี่แทบจะไม่มีความรู้สึก
ไม่ได้ ต้องปรับความรู้สึกตัวเองให้เหมาะสม ไม่อย่างนั้น หากต้องยืนอีกหลายชั่วโมง ในตอนบ่าย ต้องทำให้คนบ้าคลั่ง อย่างแน่นอน
เมื่อสูดหายใจลึก ๆ จนวิภาก็ไปชั้นบนสุดของอาคาร เตรียมที่จะสูดอากาศปลอดโปร่ง
แต่ทว่า ชั้นบนสุดของอาคารกลับไม่ได้มีจันวิภาเพียงคน เดียว
หญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวอย่างมีสไตล์ถือกาแฟหนึ่งแก้ว เอนตัวพิงราวบันไดและจ้องมองไประยะไกล
เมื่อได้ยินเสียงเดิน หญิงสาวก็หันไปมองและพยักหน้าให้ จันวิภาเล็กน้อย
จันวิภารู้จักผู้หญิงคนนั้น เมื่อวานพบเธอในตอนที่เพิ่งมา ถึงตึก MG เธอเป็นพนักงานต้อนรับของตึก
เมื่อดูเงาของผู้หญิงคนนั้น จันวิภาครุ่นคิด
เธอเดินเข้าไปหาหญิงสาวช้า ๆ จนวิภายิ้ม เริ่มหาเรื่องที่ จะพูดคุย
“มาที่นี่แก้เซ็งเหรอ?
“ใช่ มีคนเข้าคนออกในบริษัททุกวัน ในหัวมีเรื่อง มากมาย ก็แค่อยากหาสถานที่ไม่มีคนเพื่อผ่อนคลาย
“ดูเหมือนว่าฉันจะรบกวนความเงียบสงบคุณ
“ไม่เป็นไร นี่ไม่ใช่ห้องส่วนตัว
คำพูดสองสามคำ ทำให้สองเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น
ตาของเธอมองไปบนคอของหญิงสาว ยิ้มแล้วกล่าว “สร้อยคอของคุณสวยมาก นี่เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ของ Miyake สินะ”
“ใช่ ราคาจ่ายไปเท่ากับเงินเดือนสามเดือนของฉัน เจ็บ เนื้อไปหมด”
“ถึงแม้จะแพง แต่ก็เหมาะกับคุณ นักออกแบบของสร้อย คอนี้จะออกแบบเพียงหนึ่งคอลเล็กชั่นต่อปี ผลงานของเขาคน นี้ไม่สามารถพบเห็นได้ง่าย ๆ ”
เมื่อเห็นว่าในวิภาพูดอย่างมีแบบแผน หญิงก็อดไม่ได้ที่จะ เอียงศีรษะพูด “ดูเหมือนว่าคุณจะเข้าใจ
“เปล่า แค่ชอบของพวกนี้ก็เท่านั้น
หญิงสาวถอนหายใจกล่าว “ฉันก็ชอบ แต่เงินเดือนของ ฉัน ไม่สามารถซื้อได้ ไม่เหมือนคุณ หลังจากที่คุณดังแล้ว อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้
มือข้างหนึ่งลูบไปที่ค้าง จันวิภากล่าว ” นั่นมันคือเงื่อนไข ข้อแรก ฉันต้องมีชื่อเสียงก่อน แต่ดูแล้วตอนนี้ช่างเลือนราง เป็นอย่างมาก
“จะเป็นไปได้อย่างไร เงื่อนไขคุณดีอย่างนั้น หน้าตาก็ สวย และยังมีคนคอยผลักดันคุณ ไม่มีปัญหาแน่นอน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ