ตอน432 ให้ฉันปกป้องนายนะ
ตอนที่432 ให้ฉันปกป้องนายนะ
“การเสียสละของพวกเขามันคุ้มค่า แค่ให้สุมิตรตาย ฉัน ก็เป็นราชาของที่นี่ ควบคุมความขาวความดำได้ นับแต่นี้ไปจะ ไม่มีคู่แข่งอีกแล้ว”
แค่คำพูดธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ แต่กลับทำให้ผู้ชายหัว ล้านคนนั้นรู้สึกตื่นเต้น
เขาอดทนมาตั้งนาน ก็เพื่อที่จะได้ยืนอยู่ในจุดที่มีอาจ สูงสุด หลังจากวันนี้ไป เขาจะมีอำนาจควบคุมทุกอย่าง แม้ กระทั่งขยายขอบเขตอำนาจของเขา
ติดตึดติด
ตอนที่ผู้ชายหัวล้านกำลังคิดอยู่ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา ก้มหน้าลงไปดู เขาก็ทำตาโต แล้วพูดขึ้นว่า “ลูกพี่ สุมิตร ออกมาแล้ว”
มุมปากค่อยๆยิ้มขึ้นมา สุพจน์พูดว่า “ดีมาก เอาคนที่มา แทนในวิภาปล่อยออกไป ปล่อยไปที่ทางทิศตะวันออกของ ป้อมเพื่อล่อสุมิตร รอแค่ให้สุมิตรเดินมาจุดที่เราวางไว้ แค่นี้ก็ จะระเบิดร่างเขาแหลกเป็นชิ้นๆ
“ใช่”
ผู้ชายหัวล้านเริ่มปฏิบัติการ ขณะนั้นจันวิภาก็ค่อยๆย่อง
ออกไปจากห้องหนังสือ
กะแล้ว ว่านี้ต้องเป็นกับดักของสุพจน์ ต้องไปบอกสุมิตร
ให้ได้ ให้เขารีบออกไปจากที่นี่
ออกไปอยู่ที่ที่ปลอดภัย จันวิภารีบเอานาฬิกาข้อมือออก มา พูดอย่างใจร้อนว่า “นิเวศน์ รีบให้สุมิตรออกไปจากที่นี่เร็ว สุพจน์ซุ่มอยู่ที่นี่”
จันวิภาพูดเสร็จกลับไม่มีเสียงตอบรับ รอบๆเต็มไปด้วย ความเงียบ ได้ยินแค่เสียงวิ่งที่กำลังร้ารานของจั่นวิภาเท่านั้น
“ให้ตายสิ สัญญาณถูกตัดอีกแล้ว
จับนาฬิกาไว้แน่น จันวิภามองออกไปนอกหน้าต่าง พบว่า ชั้นดาดฟ้าได้ถูกระเบิดจนเละไปหมดแล้ว ความคิดที่จะไปที่นั่น เพื่อติดต่อกับนิเวศน์ท่าทางจะเป็นไปไม่ได้
ตอนนี้มีแค่หนทางเดียวก็คือ หาคนของสุมิตรให้เจอ และ ให้เขาคิดหาทางติดต่อกับสุมิตร
จันวิภาหรี่ตาลง วิ่งลงไปตามทางที่นิเวศน์บอก
แต่ตอนที่เปิดประตูออกไปกลับพบแค่ศพ
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นผลงานของสุพจน์
ทางสุดท้ายก็ถูกปิดแล้ว จันวิภาร้อนรน
แต่สุมิตรต้องการจันวิภา เธอจะมานั่งหมดหวังไม่ได้ ที่ สำคัญเธอจะยืนมองสุมิตรเดินไปหาความตายแบบนี้ไม่ได้ หลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ จนวิภาสั่งตัวเองให้ใจ
เย็นๆ พอเธอลืมตาขึ้นเธอก็ตัดสินใจจะทำเรื่องเรื่องหนึ่ง
“สุมิตร แต่ก่อนนายคอยปกป้องฉันตลอด ครั้งนี้ให้ฉัน เป็นคนปกป้องนายนะ”
กัดริมฝีปาก ในวิภาหันหลัง วิ่งไปทางเดิม
ในด้านตะวันออกของปราสาทมีน้ำพุขนาดใหญ่ ปกติทุก วันก็จะมีน้ำพุที่พุ่งเป็นดอกไม้รูปต่างๆออกมา ทั้งอลังการทั้ง สวยงาม
แต่ตอนนี้ รอบๆ เต็มไปด้วยเสียงปืนไม่มีหยุด ในอากาศก็ มีกลิ่นของคาวเลือดอยู่ แต่น้ำพุก็ยังคงรักษาความสวยงาม ของมันไว้ ทำให้รู้สึกแปลก
การโจมตีครั้งแรกได้สิ้นสุดลง คนของสุพจน์ที่มีเหลืออยู่ ไม่กี่คนก็ถูกบังคับให้ไปที่ด้านตะวันตกของป้อม
จันวิภาใช้โอกาสนี้ ใช้ทางลัดและวิ่งไปทางตะวันออกของ
ปราสาท
จากไกลๆในวิภาเห็นผู้หญิงผอมยืนอยู่ข้างหน้า สวมเสื้อ คลุมและหมวกแต่กดหมวกลงต่ำมากๆ จนทำให้มองไม่เห็น ใบหน้า
แต่ลักษณะของผู้หญิงคนนี้เหมือนกันวิภามากๆ บวกกับ คนที่คุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่ข้างๆ ทำให้หลงคิดว่าคนนั้นเป็น จันวิภาได้ง่ายมาก
ในขณะนั้น สุมิตรก็ได้ออกมาจากที่อื่น
เห็นได้ชัดว่า เขารู้แล้วว่าคนที่ปลอมตัวนั้นเป็นวันวิภา ก็ รีบพุ่งเข้าไปทันที
สุมิตรที่กำลังใจร้อนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าคนนั้นคือ จันวิภาจริงๆ ให้ลูกน้องจัดการคนที่คุมอยู่รอบๆเตรียมตัว เข้าไปช่วย
พอมองเห็นสุมิตรจันวิภาก็รู้ทันทีเลยว่าคนโง่คนนั้นได้ ตกหลุมพรางของสุพจน์แล้ว เธอร้องตะโกนออกมาว่า “คนโง่ นั้นไม่ใช่ฉัน รีบกลับมาเร็ว
จันวิภาตะโกนดังมาก แต่สุมิตรอยู่ไกลเกินไป แถมรอบๆ ยังเต็มไปด้วยเสียงปืนทุกอย่างทำให้ไม่ได้ยินเสียงของจันวิภา เลย
จันวิภาวิธีที่จะทำให้สุมิตรได้สติก็คือให้เขาเห็นความยิ่ง ใหญ่ของตัวเขาเอง แล้วแผนการทั้งหมดจะถูกทำลายโดยไม่ ต้องโจมตี
ในเมื่อสุมิตรไม่ได้ยินเสียงของเรา ถ้างั้น ก็ต้องวิ่งไป อธิบายต่อหน้าเขาแล้วละ
ดวงตาของฉันวิภามีความแน่วแน่ที่จะเผชิญกับความอันตรายครั้งนี้
ตามองไปที่สุมิตรที่ใกล้ขึ้นทุกที จนวิภาดวงตาสดใส ความหวังที่ใกล้เป็นจริงนั้นทำให้เธอไม่ได้ทันสังเกตว่ามีผู้ชาย คนหนึ่งกำลังเข้าใกล้เธอ
“จันวิภา คุณมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง มันอันตรายเกินไป
“ผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งดึงเธอไว้ พูดอย่างไม่มีเหตุผล ให้ในวิภาไปหลบก่อนและไม่ให้ออกมา
นี่มันอะไรกัน
มองหน้าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง จันวิภาถาม ว่า “คุณเป็นใคร”
“ผมเป็นแค่คนคุ้มกันธรรมดาคนหนึ่ง โชคดีที่รอดมาได้
คุณจันวิภาที่นี่มันอันตรายเกินไป ผมจะพาคุณออกไปจากที่นี่
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นแค่คนที่น่ารำคาญ พูดอะไรก็ ไม่มีใครฟัง แน่นอนว่าเขาก็ต้องไม่รู้แผนการของสุพจน์แน่ๆ ก็ เลยอยากจะพาเธอไปในที่ที่ปลอดภัย แถมยังอยากได้หน้ากับ สุพจน์
นายคนพูดมากยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของจันวิภา เขามองไปรอบๆอย่างระมัดระวังและพูดว่า “แถวนี้มีแต่คนของ สุมิตรทั้งนั้น แต่ว่าคุณอย่ากลัวไปเลยถึงจะต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็จะพาคุณไปในที่ที่ปลอดภัย”
เห็นฝ่ายตรงข้ามรับปากหนักแน่นแบบนี้ จันวิภาทำได้แค่พูดออกไปว่า “โอ โอเค
นายคนพูดมากพาจนวิภาเดินไปทางตรงข้ามไม่กี่ก้าว
หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงจันวิภาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย”
“เป็นอะไรหรอครับ
นายคนพูดมากกำลังจะหันกลับมาดู ก็รู้สึกเจ็บที่หัว แล้วก็ เห็นในวิภาที่ถือก้อนหินอยู่ในมือ และมองดูเธอด้วยใบหน้าที่ ตกใจ
“คุณ คุณ
“ไม่ใช่มั่ง ตีขนาดนี้ยังไม่สลบอีก
ยิ่งคนพูดมากคนนั้นต้องมา ก็ยิ่งทำให้ฉันวิภารู้สึกตื่นเต้น และไม่รู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอลงมือ ทําร้ายคนอื่น
ตอนที่ฉันวิภากำลังรู้สึกว่าไม่รู้จะทำยังไงดี บนหัวของนาย พูดมากก็ค่อยๆมีเลือดไหลลงมา พอเขาหลับตาลงก็ล้มฟุบลง
ไป
พอนายพูดมากล้มลงไป จนวิภาก็รู้สึกโล่งใจแล้วเธอก็ หยิบปืนของฝ่ายตรงข้ามขึ้นมา เธอไม่ยอมจะเสียเวลาไป แม้แต่วินาทีเดียวรีบวิ่งไปที่ที่สุมิตรอยู่
มองดูนิเวศน์ที่กำลังเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้น ฉันวิภาก็รู้สึกอีกเพิ่มขึ้นมา อยากจะมีปีกบินไปให้ถึงสุมิตรเร็วๆ แล้วทำให้ นายคนโง่นั้นได้สติสักที
ตอนที่จันวิภากำลังจะเข้าไปใกล้สุมิตร เธอก็พบเรื่องน่า กลัว มีคนชุดดำอยู่ข้างหลังสุมิตร เหมือนกับวิญญาณร้าย อย่างไงอย่างงั้น กำลังเตรียมจะชักปืนยิงสุมิตร
เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง สุพจน์เตรียมระเบิดไว้แล้วไม่ใช่ หรอ ทําไมต้องส่งนักฆ่ามาอีก
จิตใจของจันวิภาสับสนวุ่นวายไปหมด ถึงแม้จะคิดว่ามัน แปลกมาก แต่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเยอะเธอวิ่งพร้อมตะโกน ดังลั่น ราวกับคนบ้าเสียสติ
แต่เสียงรอบๆดังมาก สุมิตรไม่ได้ยินเสียงของจันวิภาเลย แต่สุพจน์ที่มองเห็นฉากนี้จากมุมมืด กลับยิ้มมุมปาก
เขาอยากจะฆ่าสุมิตรต่อหน้าในวิภา ทำให้เธอตัดใจจาก ผู้ชายคนนั้น และทำให้เธอรู้ว่า ใครเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ชายชุดดำเหนี่ยวไก ดวงตาของเขาแสดงออกถึงความ โกรธ แต่สุมิตรกลับยังไม่รู้สึกถึงอันตราย เอาแต่จ้องจันวิภา ตัวปลอมคนนั้น
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ