พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน421 จุดเริ่มต้นของแผนร้าย



ตอน421 จุดเริ่มต้นของแผนร้าย

ตอนที่ 421 จุดเริ่มต้นของแผนร้าย

หลังจากสุมิตรได้ยินสิ่งนิเวศน์บอกนั้น เขาก็เอาแต่นั่งครุ่น คิดเงียบๆคนเดียวอยู่บนโซฟา ธนภาคกับพัชรีก็ต่างนั่งมอง เขาเงียบๆ รอให้เขาตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อ

“ปะป์ มีแผนอะไรบ้าง? ผมจะช่วยเต็มที่” นิเวศน์อยากจะ ลองทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เขาอยากจะช่วยแบ่งเบา ความเครียดของสุมิตร

สุมิตรโบกมือปฏิเสธพร้อมตอบว่า “นิเวศน์ เรื่องนี้มันยิ่ง จะซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆแล้ว แล้วอีกอย่างถ้ามันเกี่ยวข้องกับ ด้านมืดแล้วล่ะก็มันจะอันตรายมาก

ลูกอย่าเข้ามาพัวพันด้วยเลยจะดีที่สุด

พอพูดจบเขาก็หันไปมองหน้าธนภาคพร้อมเอ่ยว่า “หน่วย ข่าวกรองวางแผนเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ฝากนายพับพัชรีดูแล นิเวศน์ไปก่อนนะ ช่วงนี้ฉันคงจะยุ่งมาก

ธนภาครีบตอบว่า “ให้พัชรีดูแลนิเวศน์คนเดียวก็พอแล้ว

ฉันอยากช่วยนาย

สุมิตรปฏิเสธพร้อมพูดว่า “ดูสถานการณ์หน่อยสิ พวก นายอยู่นิ่งๆสักแป๊ปหนึ่ง ฉันมีวิธีแล้ว
ธนาคตอบอย่างเป็นกังวลว่า “มิตร นายคงไม่ได้คิด อยากจะเปิดเผยตัวตนของตัวเองหรอกใช่ไหม ถ้าเกิดนายใช้ อานาจมืด ใช้พวกมาเฟีย จะส่งผลเสียมากต่อภาพลักษณ์ บริษัทนะ”

สุมิตรถอนหายใจ แล้วก็คลี่ยิ้มแบบขมขื่นแล้วตอบว่า “ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ยังไงฉันก็ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว ก็ ถือว่าเลื่อนให้มันมาเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นฉันฝากนายดูแล เรื่องต่างๆ ในบริษัทด้วย ส่วนฉันจะพาทุกคนไปตามหาจนวิภา

ดวงตาของสุมิตรไม่ได้มีความกังวลเหมือนเมื่อกี้นี้อีกต่อ ไป ความกังวลนั้นถูกแทนที่ด้วยความหนักแน่น และมั่นใจ ใน ตอนนั้นมีอะไรบางอย่างในตัวเขา ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกวางใจว่า เขาจะทําสําเร็จ

นิเวศน์ชูกำปั้นเล็กๆขึ้นมา พร้อมพูดว่า “ปะปี ผมชื่อว่า ต้องทําได้”

สุมิตรพยักหน้า หลังจากสูบบุหรี่เสร็จก็เหมือนวิญญาณ กลับเข้าร่างเขาอีกครั้งหนึ่ง เขายืนขึ้น จัดแจงชุดสูทตัวเองให้ เข้าใจ และเดินออกจากห้องไป

สุมิตรนั่งคุยโทรศัพท์อยู่บนรถ

“อีกสิบนาที ให้หัวโจกทุกคนมาพบฉัน”

แต่มันเป็นเพียงคำสั่งที่สั้นและเรียบง่าย หลังจากพูดจบ แค่นั้นสุมิตรก็วางสายแล้วก็มุ่งหน้าไปยังไนต์คลับใจกลางเมือง

ไนต์คลับนี้เป็นไนต์คลับ ในเครือของบริษัทตะวันกรุ๊ป ที่ ชั้นห้าของไนต์คลับนี้มีห้องประชุมขนาดใหญ่อยู่ ทุกครั้งที่สุ มิตรมาประชุมที่นี่ หมายความว่าเขามีในฐานะหัวหน้าแก๊ง มาเฟีย

ห้องประชุมค่อนข้างเรียบง่าย แสงไฟสีขาว แล้วก็ไม่มี การประดับตกแต่งใดๆ มีแต่โต๊ะกับเก้าอี้ที่เรียบง่ายไม่ฉูดฉาด ตอนที่สุมิตรก้าวเข้าไปในห้องประชุม พวกมาเฟียที่อยู่ในนั้นก็ รีบยืนขึ้นทําความเคารพเขาทันที สุมิตรก้มหัวรับตามมารยาท

พวกหัวโจกของแก๊งนี้ต่างใส่ชุดสูทสีดำถ้าเกิดไม่ได้ หล่ะก็คงคิดว่าพวกเขาเป็นนักธุรกิจชั้นยอดแน่ๆ

สังเกตพวกเขาดีๆ

สุมิตรนั่งลง พวกหัวโจกของแก๊งอีกสิบกว่าคนก็นั่งลง พร้อมกันอย่างเป็นระเบียบ

ไม่ได้มีใครพูดอะไรสักคำ ก็เห็นได้เลยว่าสุมิตรมีวิธี จัดการดูแลลูกน้องของเขาอย่างเข้มงวดมาก

หลังจากสุมิตรนั่งลง ก็กวาดสายตามองไปที่ทุกคน แล้วก็ เริ่มพูดเป้าหมายของตัวเองในวันนี้ “ฉันอยากตามหาจนวิภา ส่งคนออกไปให้ได้มากที่สุด ค่าใช้จ่ายฉันไม่เกี่ยง

เป็นคำสั่งที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่พูดเยอะ

“คุณสุมิตรครับ ไม่กลัวว่าตัวตนของคุณจะถูกเปิดเผยเหรอครับ?” หนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งท่ามกลางพวกเขาลุกขึ้นถาม มิตรด้วยความเคารพ จะเห็นได้ว่าตอนที่เขาพูดมือเขาแอบสั่น เล็กน้อย

สุมิตรปรายตามองเขา แล้วก็ตอบอย่างรำคาญ “ค่าใช้ จ่ายไม่เกี่ยง ฉันไม่อยากจะพูดอะไร

“ครับ!”

คนสิบกว่าคนตอบพร้อมกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกันราวกับเป็นหุ่นยนต์ และเดินออกจากห้อง ประชุมไป หลังจากนั้นก็ต้องเกณฑ์กำลังคนทั้งหมดที่มีออกไป ตามหา ถึงแม้จะต้องขุดดินหา ก็ต้องหาในวิภา ให้เจอให้ได้

ถึงต้องออกรบเป็นพันวัน ถึงต้องตามหาไปทั้งโลกใบนี้ มิตรก็ไม่เชื่อว่าจะหาเธอไม่เจอ เขาเคยบอกแล้วว่าเขาจะ ปกป้องเธอ ถึงแม้จะต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ถึงแม้ว่า บริษัทตะวันกรุ๊ปจะต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนหรือ แม้แต่การตรวจสอบทางกฎหมายเขาก็ไม่แคร์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของสุมิตรตอนนี้คือศัตรูหลบ อยู่ในมุมมืด ส่วนตัวเขาอยู่กลางแจ้ง

เรื่องที่สุมิตรเรียกประชุม และที่เขาส่งคนออกไปตามหา จันวิภา สุพจน์ก็ได้รู้เรื่องหมดแล้ว

แต่สุมิตรไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ได้ข้อมูลของสุพจน์เลย แม้แต่น้อย แต่กลับกัน สุพจน์ที่อยู่ในเงามืดรับรู้การเคลื่อนไหวของสุมิตรทุกอย่าง เหมือนเป็นศึกระหว่างข้อมูล ของกันและกันแล้วตอนนี้ แล้วคนที่จะชนะก็คงจะไม่พ้นสุพจน์ แน่นอน

แน่นอนว่า เขาเองคิดแบบนี้เหมือนกัน

หลังจากสุพจน์ได้ยินที่เจ้าหัวล้านมารายงาน เขาหัวเราะ ออกมาอย่างหนัก เขาหัวเราะอยู่นานมาก ราวกับว่าได้เห็นสุ มิตรได้ตายอยู่ตรงหน้าเขาแล้วยังไงยังงั้น

“แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีครับหัวหน้า?” เจ้าหัวล้าน รอให้สุพจน์หัวเราะให้เสร็จก่อนถึงจะกล้าถามคำถามนี้ออกไป ตอนนี้เขาเองก็อยากจะรีบกำจัดสุมิตรใจจะขาด ทีนี้หัวหน้า แก๊งมาเฟียใหญ่ของเมืองนี้ก็จะได้เป็นเขา ไม่ใช่สุมิตรอีกต่อไป ถึงแม้ตัวเองจะเป็นหุ่นเชิดของสุพจน์เขาก็ไม่ได้สนใจ

ในมือของสุพจน์กำลังถือขวดไวน์อยู่ อีกมือก็เคาะโต๊ะ หนังสือ เขาหลับตาลงแล้วตอบว่า “ที่ฉันต้องการคือให้คนของ มันกระจายตัวกันให้หมด ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว

เจ้าหัวล้านสายตาเป็นประกาย เขาถามต่อว่า “หัวหน้า หมายความว่า?”

สุพจน์เทไวน์ลงกับพื้น ราวกับว่าเป็นการฉลองการตายให้ สุมิตร เขาตอบด้วยท่าที่เยือกเย็นว่า “เมื่อคนของมันแยกกัน แล้ว ก็เหมาะให้พวกเราเข้าโจมตี ถึงมันจะเป็นนายท่านของ แก๊งมาเฟียแล้วยังไงล่ะ ตอนนี้พวกเราอยู่ในเงามืด ค่อยๆ ทำลายพวกมันไปทีละน้อยก็ได้แล้ว
“วิธีนี้ยอดเยี่ยมมากครับท่านหัวหน้า

สุพจน์ไม่ได้สนใจคำพูดประจบสอพลอนสักเท่าไหร่นัก เขาวิเคราะห์ต่อว่า “ดูเหมือนกับว่าบริษัทตะวันกรุ ปจะต้องมี เรื่องคดีความแล้วก็แรงกดดันจากมวลชนน่าดู แต่เรื่องพวกนี้ ไม่ต้องไปสนใจหรอก สิ่งที่ต้องทำนั้นง่ายมากๆ ก็แค่จัดการ คนของมันที่ออกตามหาจนวิภา ให้เรียบร้อยก็พอแล้ว”

จนถึงตอนนั้น คนที่ไม่มีลูกน้อง ไม่มีพรรคพวกอย่างสุ

มิตรก็ไร้ประโยชน์แล้ว

เจ้าหัวล้านเสริมว่า “พวกเรายังสามารถปล่อยข่าวลือ ปลอมเรื่องกันวิภาเพื่อล่อให้มันมาติดกับดักได้ แบบนี้ก็จะยิ่ง ง่ายเข้าไปอีก

สุพจน์พยักหน้าเห็นด้วย “นายจัดการไปนะ”

เจ้าหัวล้านถามต่อด้วยความสงสัย “หัวหน้าจะไม่จัดการ ด้วยตัวเองเหรอครับ?”

สุพจน์ยิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมมองหน้าเจ้าหัวล้านที่ไม่รู้ เรื่องราวแล้วตอบว่า “กว่าฉันจะได้จันวิภามา ไม่ใช่ง่ายๆนะ ช่วงนี้ก็ควรจะอยู่ดูแลเธอดีๆหน่อย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าฉันไม่ดี เท่าเจ้าคนไร้ประโยชน์อย่างสุมิตรนั่น

เจ้าหัวโล้นหัวเคราะคิกคัก ลูบหัวโล้นๆของตัวเองพลาง พูดว่า “หัวหน้า พูดตลกจัง หลังจากนั้นเขาก็ถูกสุพจน์จ้อง ด้วยสายตาดุดันน่ากลัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ