พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน415เล่นบทโกรธ



ตอน415เล่นบทโกรธ

ตอนที่ 415 เล่นบท โกรธ

โจรเรียกค่าไถ่เปิดหน้าต่างตรงประตูด้วยความรำคาญ เกือบจะเปิดเผยใบหน้าของตัวเองแล้ว เขายื่นหน้ามาเพียงครึ่ง เดียวเท่านั้น

“เจ้าเด็กนี้อยากตายใช่ไหม ไม่เคยดูหนังพวกที่โดนจับ เป็นตัวประกันรึไง ไม่รู้เหรอว่าถ้าพวกเราเล่นบทโกรธจะเป็นยัง ไง? เรื่องฆ่าตัวประกันไม่ใช่ว่าไม่เคยมีนะ อยากลองไหมล่ะ?

นิเวศน์ที่กำลังเผชิญหน้ากับคำขู่ของพวกโจรได้แต่ยิ้ม ออกมา เขาพูดอย่างเย้ยหยันว่า “พวกนายก็สืบประวัติฉันมา ดีแล้วนี่? พ่อฉันเป็นประธานบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด ฉันมีค่า จะตาย ยังไงก็ไม่เชื่อหรอกว่าพวกนายจะฆ่าตัวประกันคนนี้ได้ จริงๆ

โจรคนนั้นเงียบเชียบราวกับเป็นใบ้ นิเวศน์พูดถูก แต่เขา ก็ไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ เลยตอบไปด้วยเสียงเย็นยะ เยือกว่า “ถึงแม้ว่าจะฆ่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตีจน เป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวไม่ได้หรอ ไม่กลัวรึไง?

นิเวศน์ยังคงพูดจาเย้ยหยันต่อว่า “เอาอาหารมาให้ฉัน อย่างดี ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะตีฉันได้ ดูทรงแล้ว นายไม่น่าจะใช้หัวหน้าสินะ หัวหน้านางคงจะสั่งให้ดูแลฉันดีๆล่ะสิ…..

ดวงตาของโจรนั้นมองลอดผ่านช่องหน้าต่างมา เขารู้สึก ว่าเจ้าเด็กคนนี้รู้ดีเหมือนอ่านใจเขาออก น่ากลัวเหมือนกันนะ เนีย

เขาไม่อยากจะคุยกับเด็กอันตรายคนนี้มากไปกว่านี้อีก

แล้ว โจรคนนั้นรีบถามกลับ “บอกมาสิ อยากกินอะไรอีก?”

นิเวศน์เอามือตบไปที่พึ่งน้อยๆของตัวเองเบาๆ พร้อมกับ ส่ายหัว “ฉันกินจนอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างดี แต่ว่ายามอิ่มท้อง อุ่นกาย ฝักใฝ่ตัณหาราคะเกิด พออิ่มแล้ว ฉันก็อยากเล่นเกมส์”

โจรคนนั้นหัวเราะออกมา “เล่นเกมส์? อย่าลืมว่าตอนนี้ นายโดนลักพาตัวอยู่ นายคิดว่าตัวเองเป็นบรรพบุรุษฉันรึยัง ไง?”

นิเวศน์ตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ “แค่เล่นเกมส์มันจะอะไร นักหนา?”

โจรคนนั้นยิ้มอย่างเยือกเย็น เหมือนว่าเขาจะรู้ทันนิเวศน์ แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม “ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่า นายเป็นยังไง แต่ว่าฉันรู้ ฉันไม่คิดว่าการเอาโทรศัพท์ให้ แฮกเกอร์จะเป็นเรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่

นิเวศน์แสร้งทำสีหน้าเสียใจ พลางตอบว่า “เฮ้อ ที่แท้ก็ เป็นแบบนี้นี่เอง แต่ว่าถ้านายกังวลเรื่องนี้ล่ะก็ ก็ถอดซิมในโทรศัพท์ออกสิ แค่นี้อินเทอร์เน็ตก็ใช้ไม่ได้แล้ว

โจรคนนั้นยิ้มออกมาพลางมองนิเวศน์อยู่ครู่หนึ่ง แล้ว สุดท้ายก็ตอบว่า “โอเค รอแป๊ปหนึ่งนะ อย่าทำอะไรน่ารำคาญ อีกล่ะ”

“ขอบคุณครับคุณลุงโจร

นิเวศน์ที่ดูท่าทีไร้เดียงสา แต่พอหน้าต่างถูกปิดลง ก็ยิ้ม ออกมาอย่างเยือกเย็น ง่ายแค่นี้เอง เจ้าโง่”

แป๊ปเดียวเท่านั้นหน้าต่างตรงประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง มีโทรศัพท์เครื่องหนึ่งยื่นเข้ามาจากหน้าต่างบานนั้น นิเวศน์รับ ยื่นมือไปรับทันที

โจรคนนั้นยิ้มแล้วตอบว่า “เล่นดีๆนะ เครื่องนี้เหมาะ สำหรับเด็กๆ ที่สุดแล้ว” พอพูดจบเขาก็ปิดหน้าต่างแล้วจากไป แต่นิเวศน์ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะของเขาจากไกลๆ เขาไม่รู้ว่า ฝาดหรืออะไรกัน

นิเวศน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ขอแค่มี โทรศัพท์ เขาก็สามารถเข้าอินเทอร์เน็ตได้ พอเข้าอินเทอร์เน็ต ได้เขาจะได้รีบบอกให้ปะกับหม่ามาช่วย แค่นี้ก็จบแล้ว

แต่พอนิเวศน์เปิดโทรศัพท์ขึ้นมา หน้าจอมีแต่สีดำ พอ หน้าจอติด ก็มีเพลงๆหนึ่งดังออกมา

ถ้าเขาไม่ได้ฟังผิดล่ะก็ มันคือเพลงหนูมาลีแน่นอน นิเวศน์ตั้งใจมองโทรศัพท์เครื่องนี้ดีๆอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็ได้คำตอบ โทรศัพท์เครื่องนี้มันคือของเล่นเด็กเท่านั้น พูดได้ ว่า ของสิ่งนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอินเทอร์เน็ตเลย แม้แต่นิดเดียว ไม่มีทางใช้เพื่อการหลบหนีได้เลย

ทันใดนั้นนิเวศน์ก็ปาโทรศัพท์เครื่องนั้นลงพื้นด้วยความ โมโห

เขาไม่ได้โกรธเพราะหมดหนทางหนี แต่เขาโกรธที่โดน เจ้าโจรคนนั้นปั่นหัว คนที่ลักพาตัวเขามารู้สึกว่าจะรู้จักเขาดี มาก เลยรับมือกับเขาได้ง่ายๆ แถมยังใช้วิธีนี้มาปั่นหัวเขาอีก

นิเวศน์จ้องไปที่ประตูเหล็กที่ถูกปิดอยู่ ถ้าเกิดมีกระจกล่ะก็ คงจะเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาโกรธจนกลายเป็นสีดำไป แล้ว

นิเวศน์โกรธจนเดินไปมาในห้องมืดไม่หยุด หลับไม่ลง เลยจริงๆ แล้วก็ไปกระทืบโทรศัพท์เครื่องนั้นที่นั่งอยู่ที่พื้นเพื่อ เป็นการระบายความโกรธ

“ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กน้อย เล่นโทรศัพท์เป็นยังไงบ้างล่ะ….

น้ำเสียงของเจ้าโจรนั้นเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย นิเวศน์ จ้องหน้าเขา เขาโกรธมากจนนั่งลงไปกับพื้น ไม่พูดอะไรออก มาแม้แต่คำเดียว แม้แต่ว่ายังไม่มีอารมณ์จะด่า

“เอ๊ะ เด็กไม่น่าจะชอบเล่นของเล่นแบบนี้นี่นา? ทำไมเธอ ปาทิ้งซะล่ะ? ไม่ปวดใจเหรอ? ถ้าแบบนี้ก็ไม่ได้เล่นของเล่นแล้ว ล่ะสิ?”
โจรคนนั้นยังคงปั่นหัวนิเวศน์ไม่หยุด

นิเวศน์ยังคงไม่พูดอะไรสักคำ แล้วก็หลับตาลง ทิ้งตัวลง ไปกับพื้น ใบหน้าร้อนราวกับไฟ ตั้งแต่เด็กจนโต มีแต่ตอนที่ เขาไปเยาะเย้ยคนอื่น เขาไม่เคยโดนคนอื่นเยาะเย้ยแบบนี้มา ก่อนเลย

อภัยให้ไม่ได้

โจรคนนั้นพูดคนเดียวอยู่ตั้งนาน จนเริ่มรู้สึกว่าไม่สนุก แล้ว ก็ยิ้มพลางพูดต่อ หรือว่าเธอกำลังเสียใจที่โยนโทรศัพท์ เครื่องนั้นทิ้งล่ะ? ไม่เป็นไรนะ โทรศัพท์แบบนี้ข้างนอกมีขาย เต็มไปหมด หรือว่าให้ฉันไปซื้อให้อีกสักเครื่องดีไหม?

นิเวศน์ทนไม่ไหวอีกต่อไป หยิบเศษซากโทรศัพท์เครื่อง นั้นปาไปที่ประตูอย่างแรง

“ออกไป!”

นิเวศน์โมโหจนกระทืบเท้าไม่หยุด

เจ้าโจรคนนั้นก่อกวนนิเวศน์สำเร็จแล้ว ก็พอใจแล้วปิด ประตูไป เขาเดินออกไปพร้อมผิวปากอย่างอารมณ์ดี

ทันใดนั้นนิเวศน์ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองอีก ครั้ง ใครกันแน่นะที่วางแผนลักพาตัวเขา

เขารู้สึกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่รู้จักเขา แต่ ยังรู้จักเขาดีมากๆอีกด้วย ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าตัดเรื่อง หลักทำนองคลองธรรมออกไป คนที่น่าจะก่อเรื่องแบบนี้ได้ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

สุพจน์ เจริญศรี หรือว่าคนอื่นๆ ในตระกูลวีระโช หรือว่า จะเป็นธนภาค คนพวกนี้ต่างรู้จักเขาดีมาก ไม่ว่าจะคิดยังไง นิเวศน์ก็รู้สึกว่าหนึ่งในคนที่ลักพาตัวเขา ก็ต้องเป็นคนพวกนี้ แน่ๆ

พอนิเวศน์กำหนดคนที่น่าจะเป็นไปได้แล้วนั้นก็ค่อยๆตัด ออกทีละคน

คนแรก สุพจน์ หลังจากเกิดเรื่องที่บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด นิเวศน์ก็คอยจับตามองสุพจน์มาเดือนกว่าๆ แต่ว่าสุพจน์ก็ไม่ ได้แม้แต่ก้าวเท้าออกมาจากห้องเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อ วานนิเวศน์ก็ไม่ได้เห็นความผิดปกติอะไร และอีกอย่าง หลัง จากเกิดเรื่องที่บริษัท สุพจน์ก็ทำให้นิเวศน์รู้สึกว่าเขาได้เปลี่ยน ไปแล้ว เขาคงจะกลับตัวแล้วจริงๆ

ถึงแม้สุพจน์จะมีอำนาจพอที่จะทำแบบนั้น แต่ก็ดูไม่น่าจะ เป็นไปได้เท่าไหร่ ดังนั้นจึงตัดสุพจน์ออกไปก่อน

ต่อไปคือเจริญศรี ผู้หญิงคนนี้ใจดำอำมหิตอยู่แล้ว ถ้า เป็นเธอจริงๆคงจะไม่ดูแลตัวประกันดีแบบนี้หรอก ดังนั้นไม่น่า จะใช่เจริญศรีแน่นอน ตัดเธอออกได้เลย คนอื่นๆ ในตระกูลวีระ โชก็เหมือนกัน คนต่อไป ก็น่าจะเป็นธนาค


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ