พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน380จดหมายลาออก



ตอน380จดหมายลาออก

ตอนที่ 380 จดหมายลาออก

“มีเรื่องอะไร” สุมิตรพูดด้วยลักษณะท่าทางที่ไม่ค่อยอ่อน

โยน ด้วยเหตุนี้ก็อยากจะแสดงออกว่าไม่ค่อยพอใจชนินพร

ชนินพรก็เริ่มรู้ตัว จึงพูดอย่างเก้อเขินขึ้นว่า “ขอโทษนะคะ ท่านประธาน แต่ว่าเชิญดูหน่อยค่ะ

พอพูดเสร็จ ก็ส่งเอกสารให้

ทั้งหมดมีสองชุด สุมิตรดูคร่าวๆ ก็พบว่านี่คือจดหมายลา ออก เขาพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “นี่มันคืออะไร

ถึงแม้ว่าสองตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งที่ไม่สำคัญ แต่ว่า ทำไมจู่ๆถึงได้ยื่นจดหมายลาออก

ชนินพรยิ้มและมองไปที่สุมิตร และเธอก็พูดให้คลี่คลายว่า “ก่อนหน้านี้ที่ท่านประธาน ให้ฉันไปสืบหาคนที่ปล่อยข่าวใน บริษัท และนี่ก็คือผลที่ได้ค่ะ”

สุมิตรขมวดคิ้วย่นหนักขึ้น เขามองชนินพรอย่างสงสัยและ พูดว่า “เธอสืบได้เร็วขนาดนี้เลยหรอ

มูลเหตุของเรื่องซุบซิบพวกนี้มันยากที่จะสืบหามากๆ ถึง แม้ว่าก่อนหน้านี้สุมิตรจะมอบหมายให้ชนินพรไปจัดการมากจริง แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะสืบหาข้อมูลได้เร็วขนาดนี้

ถ้าพูดถึงเรื่องศักยภาพของชนินพรละก็สุมิตรก็เชื่อถือ แต่ ว่าหาตัวคนทำผิดได้เร็วขนาดนี้ ก็ไม่อยากจะเชื่อเลย

“ชนินพร ผมขอชื่นชมคุณมากๆ แต่ว่าผมพึ่งจะมอบหมาย หน้าที่นี้ให้ไม่ถึงสองชั่วโมง คุณก็สามารถตามตัวคนที่ปล่อย ข่าวลือในบริษัทเจอแล้วหรอ

สุมิตรพูดพลางเหลือบตามาดูหนังสือลาออกทั้งสองฉบับ นั้น จริงๆแล้วก็คนนี้ก็เป็นแค่พนักงานธรรมดา เป็นจำพวกที่ ถึงแม้ว่าจะหายไปอย่างกะทันหันก็ไม่มีสังเกต

สุมิตรหยิบหนังสือลาออกทั้งสองฉบับมาตบลงบนโต๊ะ อย่างแรง พูดอย่างเยือกเย็นว่า “คุณอธิบายให้ผมฟังมาเดี่ยว

ชนินพรแต่ก่อนนี้ไม่ค่อยได้พูดคุยกับสุมิตรมากนัก หนึ่ง ชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอคิดว่าสุมิตรเป็นคนที่นิสัยดี เพราะว่าเวลา เขาพูดกับเลขาก็จะออกแนวสนทนาปรึกษา ถึงแม้ความจริงจะ ไม่ใช่แบบนี้ แต่ในตำแหน่งของสุมิตรแล้ว พูดจาได้แบบนี้ก็ ถือว่าเป็นคนนิสัยดี

แต่กลับตรงกันข้าม ตอนนี้สุมิตรโกรธมาก

ชนินพรตกใจสนหน้าซีด หายใจติดๆขัดๆจนเกือบจะหยุด หายใจ เมื่อวันวิภาเห็นคนที่พึ่งพาความขยันของตัวเองจนได้ ตำแหน่งเลขามาอย่างชนินพรก็เกิดสงสารขึ้นมา
ก็เหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วไปที่ไม่มีคนหนุนหลัง ชนินพ รเปียคนเด็ดเดี่ยวมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสุมิตรก็จำใจต้อง แสดงความอ่อนแอของตัวเองออกมา

นภาคบไหล่ของชนินพรเบาๆ เป็นการบอกใบ้ให้เธอ ไม่ต้องกังวล และพูดกับสุมิตรอย่างไม่พอใจว่า “โชคดีนะที่ฉัน ไม่ได้เป็นเลขาของคุณ ที่แท้คุณก็น่ากลัว คนเค้าเป็นผู้หญิงคุณ ไม่รู้จักอ่อนโยนเลยรึไง

สุมิตรมองค้อนไปที่จันวิภาคิดว่าเธอยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง เยอะเกินไปแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร รอฟังว่าชนินพรจะอธิบายว่า อย่างไร

ชนินพร ใช้เวลาอยู่นานที่จะกลับมาหายใจปกติได้ เธอเงย หน้าขึ้นและพูดต่อว่า “ท่านประธานคะ ที่จริงแล้วสองคนนี้จะใช้ หรือไม่ใช่คนที่เอาข่าวลือมาปล่อยฉันก็ไม่ทราบ ประจวบ เหมาะกับตอนที่ท่านประธานมีคำสั่งมา ฉันได้เห็นพวกเขา กำลังพูดเรื่องไร้สาระกันอยู่ เพราะฉะนั้นก็เลยพูดกับพวกเขาว่า ท่านประธานอยากจบพวกเธอ

“แล้วไงต่อ” สุมิตรหรี่ตาลง

“แล้วก็ ตอนที่ฉันกำลังจะไปหาพวกเขาฉันก็พบแค่ จดหมายลาออกสองฉบับนี้ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยประกาศเรื่อง นี้ออกไป ถึงแม้ว่าจะหาตัวคนทำที่แท้จริงยังไม่พบ แต่ว่าการ เชือดไก่ให้ลิงดูมันก็น่าจะมีประโยชน์

ยิ่งชนินพรพูดมากเท่าไหร่สุมิตรก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ เขาขัดจังหวะชนินพรและพูดขึ้นว่า “คุณเป็นท่านประธานหรือผมเป็น ท่านประธาน ผมให้คุณไปสืบหาคน ไม่ใช่ให้คุณเอาจดหมาย ลาออกมาให้ผม

สุมิตรที่ได้ฟังความคิดเห็นของฉันวิภาก็พยายามที่จะพูด ให้ดูเบาเข้าไว้ แต่ทว่าตอนนี้ความโกรธของเขากลับมากกว่า ตอนเมื่อกี้ซะอีก

ชนินพรนี่ก็จัดการเรื่องราวได้ใหญ่โตจริงๆ ไม่ถามถึง ความคิดเห็นของสุมิตรเลยสักนิด เมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นใน บริษัทแล้วก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องไร้สาระในบริษัทอีก แต่ว่าคน ที่ปล่อยข่าวลือตัวจริงก็ยังหาไม่เจอ

พอคิดถึงจุดนี้สุมิตรก็รู้สึกว่าชนินพรนั้นช่างขวางหูขวาง ตาจริงๆ

จันวิภาน่าจะรู้ว่าสุมิตรกำลังคิดอะไรอยู่ ก็เลยพูดช่วยชนิ นพรว่า “ฉันว่านะสุมิตร ในเมื่อเรื่องนี้เป็นไปตามผลที่คาด การณ์ไว้ล่วงหน้า ต่อไปนี้ก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องไร้สาระใน บริษัทอีกแบบนี้ก็ถูกแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมยังจะโกรธอยู่อีก

สุมิตรไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้จันวิภาคอยพูดช่วยชนินพร ตลอด เขาถอนหายใจและพูดว่า “จันวิภา ถึงแม้ว่าเรื่องการ พูดเรื่องไร้สาระในบริษัทเป็นเรื่องเล็ก แต่มันก็ทำให้คุณขาย หน้า ผมไม่อยากเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้ หรือคุณไม่ เข้าใจ”

จันวิภาขมวดคิ้วและพูดว่า “เถอะน่า เรื่องนี้ก็ให้มันเป็นแบบนี้เถอะ ฉันคิดว่าชนินพรก็ทำได้ไม่เลว คุณก็อย่าต้อง จับผิดนักเลย มันจะมีเลขาที่เพอร์เฟคแบบฉันทุกคนได้ยังไง

จันวิภาพูดคำนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์ดูอบอุ่น ขึ้น แต่หลังจากที่เนินพรได้ยินก็ก้มหน้าลงและแสดงความ อิจฉาความเกลียดชังออกมาทางใบหน้า

สุมิตรกับจันวิภากำลังสนใจแค่คำพูดที่กำลังพูดกัน ทั้งคู่ ไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนไปของชนินพรเลย ขณะนั้นสุมิตรก็พูดขึ้นมาอย่างสงสัยว่า “เอะ จนวิภาคุณ

รู้จักชื่อของชนินพรได้ยังไง

จนวิภาอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นก็หัวเราะและพูดขึ้นว่า “ไม่อย่างงั้นฉันจะคอยดูคอยแลเธอกับเลขาไม่ให้ทำอะไรเกิน เลยกันได้ยังไง

สุมิตรยิ้มและพูดว่า “ถ้างั้นคุณก็ต้องคอยดูให้ดีแล้วละ ผมว่าชนินพรก็หน้าตาสะสวย อีกหน่อยก็ต้องมาเป็นเลขาของ ผมตลอด ถ้าเกิดคุณไม่มาดูมาแลบ่อยๆละก็ เรื่องอะไรก็อาจ จะเกิดขึ้นได้ เหอะเหอะ

จันวิภาและชนินพรสองคนคาดไม่ถึงเลยว่าสุมิตรจะพูด เล่นได้ขนาดนี้จนหน้าแดง

หลังจากนั้นทันใดชนินพรก็พึ่งจะรู้สึกตัว ทำตาโตมองไป ที่สุมิตรและพูดว่า “ท่านประธาน ถ้า ถ้างั้น ฉันเป็นเลขาของ คุณต่อไปได้ไหมคะ
ชนินพรเป็นคนที่มีความสามารถในการทำงานมาก แต่ ตอนที่เธอทำตาโตแสดงถึงความเก้อเป็นของเธอออกมา ราวกับว่าใช้ชีวิตเหมือนเด็กที่ไม่เคยผ่านอะไรมา

สุมิตรดึงหน้าที่กำลังยิ้มกลับมาให้เป็นหน้าปกติ ตั้งใจทำ หน้าเข้มและพูดว่า “งั้นคุณก็ต้องขอบคุณเธอแล้วละ ถ้าไม่ใช่ จนวิภาขอไว้ละก็ ถ้าหากว่าวันข้างหน้าคุณยังทำเรื่องแบบนี้อีก ไม่ว่ายังไงผมก็เก็บคุณไว้ไม่ได้อีกแล้ว

ชนินพรพยักหน้าและพูดว่า “ครั้งหน้าไม่มีอีกแล้ว ครั้ง หน้าฉันจะทำตามคำสั่งที่คุณสั่ง จะไม่ขัดคำสั่งคุณแน่นอน

สุมิตรพิจารณาดูจดหมายลาออกทั้งสองฉบับนี้ หลังจาก นั้นก็ยิ้มเยาะและพูดว่า “ยังมีสองคนนี้อีก เอาข้อมูลของพวก เขาส่งไปให้บริษัทที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทตะวันกรุ๊ปจํากัด อย่าให้พวกเขามีโอกาสที่จะเข้ามาทำงานอีก

ชนินพรคิดไม่ถึงว่าสุมิตรจะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เลานี้ไม่รู้จริงๆว่าควรหรือไม่ควรรับจดหมายลาออกสองฉบับ

จันวิภาพูดโน้วน้าวว่า “นี่ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้

สุมิตรส่ายหน้าและพูดว่า “ผมไม่ได้ใจแคบ แล้วก็ไม่ได้ใจ ร้ายด้วย แต่เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด เขา ” เหลือบมองไปที่ชนินพรและพูดว่า “ทำไมหรอ เรื่องแค่นี้ทำไม่ ได้หรอ พวกเขาคงไม่ได้เป็นเพื่อนของเธอหรอกใช่มั้ย เหอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ