พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน379แอบช่วยเหลือกันอย่างลับๆ



ตอน379แอบช่วยเหลือกันอย่างลับๆ

ตอนที่ 379 แอบช่วยเหลือกันอย่างลับๆ

ถ้าจนวิภาไม่ได้เจอชนินพรละก็ ก็อาจจะรับปากไปแล้ว แต่ตอนนี้เธออายที่จะบีบคนอื่นออกจากตำแหน่งเพราะความ สัมพันธ์ส่วนตัวของเธอ เธอส่ายหัวแล้วบอกว่า “ตำแหน่งเลขา น่าเบื่อมาก ให้ฉันไปลองทำตำแหน่งอื่นดูนะคะ

เมื่อได้ฟังคำตอบจากจันวิภา สุมิตรก็รีบยื่นออกไป แหวกผมหน้าม้าของจีนวิภา ใช้มือแตะที่หน้าผากของเธอ และ พูดอย่างครุ่นคิดว่า “เอ คุณก็ไม่ได้ตัวร้อนนี่นา แต่ในหัวสมอง นี้มีอะไรอยู่กันแน่”

จันวิภาพูดพิมพ์ม และสบัดหัวแรงๆ จนมือของสุมิตรหลุด ออก และพูดอย่างหงุดหงิดว่า “หัวสมองของคุณนั้นแหละที่ใส่ ไอ้นั่นไอ้นี่เอาไว้

สุมิตรพูดอย่างหมดปัญญาว่า “คุณคิดว่าผมต้องการเลขา จริงๆหรอ หรือคุณคิดว่าผมต้องการให้คุณทำงานจริงๆหรอ

จันวิภาพูดอย่างหงุดหงิดว่า “เอาอีกแล้ว เอาอีกแล้ว คุณ กำลังจะบอกถึงทัศนคติที่จะให้ฉันเป็นคนที่สวยแต่ไร้ความ สามารถที่เหมือนกับแจกันใส่ดอกไม้แล้วก็เป็นนกในกรงทอง ของคุณอีกแล้วหรอ” ใช่เพราะคุณสุมิตรท่านประทานใหญ่มีศักยภาพที่จะทําหนิ เพราะฉะนั้นฉันก็แค่มีหน้าที่แค่ทำตัว สวยๆก็พอแล้ว

สุมิตรเอานิ้วไปแตะคิ้วที่กำลังย่นของจันวิภา หัวเราะแล้ว พูดว่า “ไข่แล้ว ไม่ผิดเลยซักนิด ไม่เสียแรงที่ผมค่อยๆกล่อม เวลาคุณ

“โถ แต่ว่าถึงแม้จะเป็นแจกันใส่ดอกไม้จริงๆมันต้องต้อง มีการเปลี่ยนลายกันบ้างสิ ให้มาเล่นบทเป็นเลขาตลอด มันน่า เบื่อมากเลย” จันวิภาพูดอย่างไม่พอใจว่า “อีกอย่างต้องอยู่ ด้วยกันทุกวัน คุณไม่ลำคาญหรือ

สุมิตรยักไหล่ พูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่ลำคาญ

“อีกอย่าง ยังไม่มีใครที่สามารถชงกาฟาออกมาให้ได้ รสชาติแบบที่คุณชง ฝีมือยอดเยี่ยมแบบนี้คงจะมีแค่คุณแล้วละ ตำแหน่งเลขานี้ต้องคุณเท่านั้น

จนวิภายิ้มเยาะ เธอพูดอย่างกลุ้มใจว่า “นักออกแบบที่มี ภูมิฐานแบบฉัน มีชีวิตอยู่เพื่อชงกาแฟให้คุณหรอ

“คุณไม่เต็มใจหรอ” สุมิตรท่าทางเศร้ามาก

“โถ เต็มใจ แต่กลับไปชงให้ที่บ้านก็ได้หนี ถ้าอยู่ที่ บริษัทคุณให้ฉันรับผิดชอบส่วนของแผนกโฆษณาถูกแล้ว ฉัน วิภาพูดอย่างจริงจังว่า “แผนกโฆษณาของบริษัทครั้งที่แล้ว ขาดทุนทั้งสองครั้ง ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเองรับรอง ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้อีก
คาดไม่ถึงว่าสุมิตรจะเกิดความลังเลใจ สิ่งที่จันวิภาอยาก ได้เขาก็ไม่ขัดขวางจนเกินไป อีกอย่างจนวิภาก็มีความสามารถ ทางด้านนี้จริงๆ ถ้าหากว่าให้เธอได้ถึงความสามารถออกมา ใช้ เธอก็จะมีความสุขมากๆ

จันวิภาอาศัยจังหวะที่สุมิตรกำลังลังเลพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง ถึงยังไงก็อยู่ที่บริษัท ฉันมาชงกาแฟให้คุณบ่อยๆก็ใช่ว่าจะเป็น เรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

สุมิตรที่ถูกโน้มน้าวใจได้สำเร็จ เขาพูดอย่าง ประนีประนอมว่า “โอเค แต่ว่า จะหวังแค่มาชงกาแฟให้อย่าง เดียวมันไม่พอหรอกนะ

จันวิภาคิดถึงเรื่องพวกนั้น ใจก็เต้นและหน้าแดง ทันใด นั้นก็พูดขึ้นว่า “ไม่ได้นะ ที่นี่บริษัทนะไม่ใช่ที่

เสียงที่จันวิภาพูดค่อยๆเบาลง แต่ว่าสุมิตรก็ไม่ได้สนใจ ฟังแล้ว เขาเอียงตัวลง จูบที่ยาวนานและอบอุ่นไม่สามารถ ทำให้จนวิภาสามารถพูดอะไรได้อีก

จันวิภาถูกจูบจนเกือบจะหายใจไม่ออก และที่สำคัญที่นี่ก็ เป็นออฟฟิศด้วย ยิ่งทำให้เกิดอาการใจเต้นหน้าแดง เธอจึง ผลักสุมิตรออก เธอเอามือเช็ดปากพลางพูดออกไปอย่างไม่ พอใจว่า “นี่ เป็นพ่อคนแล้วแท้ๆ ยังจะทำตัวแบบนี้อีก

สุมิตรทำได้แค่ยิ้ม

ทั้งสองเงียบไม่พูดจากันสักพัก จันวิภาก็ถามขึ้นว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณจะจัดการกับบริษัทเกี่ยวกับการที่ฉันถูกนินทา

สุมิตรพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว ผมไม่ต้องการให้คุณ เสียหาย แต่ไหนแต่ไรมาคุณเป็นคนหน้าบาง ผมจะไม่ยอมให้ คุณกลายเป็นคนหน้าด้าน มีทางเดียวคือให้คนที่นินทาคุณ หุบปาก

“ไม่จำเป็นหรอก เสียทั้งแรงเสียทั้งเงิน” จันวิภาพูดโน้ม

“มากกว่าจำเป็น คือฉันต้องทำเพื่อเธอจนวิภา” สุมิตรตบ

จันวิภาพูดโน้มน้าวต่ออีกว่า “อีกไม่นานฉันก็ต้องแต่งงาน เป็นภรรยาของคุณ คนอื่นจะพูดยังไงยังสำคัญอีกหรอ สุมิตรยิ้มไม่พูด

จนวิภาพูดยิ่งก็รู้สึกเก้อเขิน เธอพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง เรื่อง ที่เกิดขึ้นกับบริษัทคราวก่อนก็ยังจัดการไม่เสร็จ พนักงานก็ยัง กันมากอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเอาเรื่องแค่นี้มาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ อีกละก็

“มันไม่คุ้มเลยนะ” ฉันวิภาพยายามพูดให้ดูจริงจังมีเหตุมี

ผลอย่างสุดความสามารถ

“มีเหตุผล” สุมิตรก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

“เพียงแต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องของคุณผมก็ไม่อยากใช้เหตุผล อะไรมากมาย ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำร้ายคุณคนนั้นก็จะได้รับผลของการกระทำ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ยึดติดหรือไม่ยึดติดกับ การแก้แค้น แต่คนที่ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผลของมัน

ที่สุมิตรพูดมีเหตุผลเหมือนกัน จนวิภาเป็นผู้หญิงของเขา ถ้าผู้หญิงของตัวเองโดนรังแกแต่ผู้ชายกลับทำอะไรไม่ได้ละก็ มันก็พูดไม่ออกเหมือนกัน

สถานการณ์เปลี่ยนไปเป็นของสุมิตรเขาไม่รับฟังความ

เห็นของฝ่ายตรงข้าม เขายิ้มเยาะและพูดว่า “อีกอย่าง เรื่องอื้อ

ฉาวของบริษัทไม่ได้พูดถึงตอนที่คุณเป็นเลขาของผม แต่พูดถึง

ตอนที่คุณบีบบังคับให้เจริญศรีออก และใช้วางแผนใช้เล่ห์กล

เพื่อที่จะได้เป็นผู้หญิงของผม พูดแม้กระทั่งเรื่องของชาย

ลึกลับ

จนวิภาเมื่อได้ยินคำว่าผู้ชายลึกลับ ในใจก็คิดว่าน่าจะ เป็นสุพจน์ เธอรีบร้อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและพูดว่า “เจริญศรี หรือว่านี่จะเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว

สุมิตรหัวเราะและพูดว่า “ดูคุณ คุณก็สนใจเรื่องนี้เหมือน กันไม่ใช่หรอ ไม่เพียงแค่นั้นผมให้คนไปสืบแล้วละ อีกไม่นาน ก็จะได้รู้ผลแล้วละ คุณแค่ยืนรอดูอยู่ข้างๆก็พอ

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วจันวิภาก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะพูดอีก

แล้ว เธอคิดว่าเธอเองก็ได้รักษาตำแหน่งเลขาของชนินพรไว้ ได้แล้ว ก็ถือว่าได้ทำ ในสิ่งที่เธอขอให้ทำ ได้เกินครึ่งแล้ว ภายในใจก็รู้สึกสบายใจ

สุมิตรพูดเสร็จก็คอแห้ง ยิ้มและมองไปที่จันวิภาแล้วพูดว่า“คุณบอกว่าเบื่อใช่ไหม ตอนนี้ผมคอแห้งพอดี ช่วยชงกาแฟ ให้ผมซักแก้วนะ

จนวิภาปฏิเสธว่า “เหอะ ท่านประธาน คุณเรียกผิดคน แล้วค่ะ ฉันไม่ใช่เลขาคุณนะคะ นี่เราตกลงกันแล้วนะ

สุมิตรก็ไม่ใจร้อน เขายืนขึ้นเอามือมาแตะที่คางของฉัน วิภาแล้วพูดว่า “เมื่อกี้ผมยังจูบไม่พอเลย ถ้าคุณไม่เชื่อฟังผม

ละก็ ผมจะ”

จันวิภาตกใจอย่างมาก ตาของเธอโต เธอหัวเราะและพูด ว่า “ฉันไป ฉันไป สงบสติอารมณ์หน่อยนะสุมิตร

เวลานี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพอดี จันวิภาถลึงตาใส่สุ มิตรและพูดว่า “ยังไม่ปล่อยอีก ตาบ้า

ตอนนี้เองสุมิตรถึงจะปล่อยจันวิภาที่กำลังตกใจจนมือไม้ อ่อน ในใจคิดว่าใครกันนะที่มันไม่มีสมองถึงได้มาเคาะประตู ตอนนี้ เพราะแบบนี้เลยพูดด้วยน้ำเสียงซึมๆ เข้ามา

คนที่เคาะประตูก็คือชนินพร เธอยิ้มแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะ ท่านประธาน สวัสดีค่ะคุณจันวิภา

จนวิภาได้ยินว่าเมื่อตอนชนินพรอยู่ต่อหน้าสุมิตรเขาไม่ได้ เรียกเธอว่าพี่จันวิภา เธอระมัดระวังคำพูดมาก จนวิภายิ่งค้น พบว่าชนินพรเด็กคนนี้ฉลาดไม่เบา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ