พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน378มาเป็นเลขาของฉัน



ตอน378มาเป็นเลขาของฉัน

ตอนที่ 378 มาเป็นเลขาของฉัน

เมื่อครั้งที่ธนภาคบริหารบริษัทได้แต่งตั้งเลขาคนใหม่ขึ้น มา เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานธรรมดา คนนั้นคงจะเป็นชนินพ รสินะ

จนวิภาเคยได้ยินธนภาคพูดถึงผู้หญิงที่มีความสามารถ คนหนึ่ง อีกทั้งตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างสุมิตร เขาคงจะต้องการ เลขาที่สามารถช่วยเขาจัดการปัญหาต่าง ๆ ด้วยเหตุผลนี้ หล่อนจึงก้มศีรษะเพื่อแสดงความขอบคุณ “ลำบากคุณแย่เลย ท่าประธานเขาดีกับคุณใช่ไหมคะ?”

ชนินพร “คงจะพูดว่าดีหรือไม่ดีไม่ได้ ทุกอย่างล้วนเป็น งาน ไม่เหมือนกับคุณในวิภาหรอกค่ะ

จันวิภาเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าชนินพรกำลังพูดถึงเรื่องอะไร สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนที่ละนิด แต่ยังคงควบคุมอารมณ์ได้

ทว่าชนินพรทำท่าทางปิดปากของตนเองและพูดว่า “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ เนื่องจากตอนนี้บริษัทเรามีข่าวลือออก มาเยอะมาก ฉันอาจจะเข้าใจผิด จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้คิดแบบ นั้นนะคะ ฉันได้ยินมาว่าคุณจันวิภาเป็นผู้หญิงที่เก่งมากเลยล่ะ
เมื่อชนินพรยิ้มออกมาดูสวยมาก ดูเหมือนกับเด็กผู้หญิง คนหนึ่ง ทำให้ความไม่พอใจของฉันวิภาหายไปในชั่วพริบตา หล่อนจึงตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อก่อนฉันและสุมิตร เคยติดต่อกัน ความสัมพันธ์ค่อนข้างจะซับซ้อน ดังนั้นจึงเกิด ความเข้าใจผิดกันเป็นปกติแล้วล่ะค่ะ

จนวิภาคิดในใจตอนนี้หนึ่งตนเองไม่ใช่เลขาของบริษัทนี้ อีกแล้ว สองสุมิตรเป็นของจริง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องระวัง สายตาซุบซิบนินทาพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย

ชนินพรถอนหายใจแล้วพูดว่า “คุณจันวิภาเป็นคนใจดี อย่างที่ฉันเคยได้ยินมาจริง ๆ ด้วย แต่เมื่อท่านประธานได้ ทราบข่าวลือพวกนี้ท่านค่อนข้างที่จะโกรธมาก เมื่อสักครู่ให้ ดิฉันตามหาคนที่ปล่อยข่าวลือพวกนี้ให้เร็วที่สุด

จนวิภาพึมพำตอบรับ นี้คือนิสัยของสุมิตร ที่เขาทำแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร และที่สำคัญคือ ทั้งหมดนี้ทำเพื่อจัน วิภาโดยเฉพาะ ดังนั้นหล่อนจึงรู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

ชนินพรเห็นว่าในวิภากำลังใจลอย จึงกระแอมขึ้นมาเบา

ๆ “คุณจันวิภาคิดยังไงกับเรื่องนี้คะ? คุณคิดอย่าใครใน บริษัทนี้เป็นคนปล่อยข่าวลือพวกนี้คะ?”

ใครกันนะ?

จันวิภาครุ่นคิดเรื่องที่ชนินพรถาม ในตอนแรกหล่อนคิด ว่าเป็นเจริญศรี แต่ตอนนี้เจริญศรีและสุมิตรไม่ได้หมั้นกันแล้ว หล่อนจะทำเรื่องพวกนี้ไปทำไมกัน หน้าเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขา ? ถ้าหากว่าเป็นเพราะหน้าที่การงานของเขาเมื่อ ก่อนล่ะ คงจะไม่แปลกที่สุมิตรจะขอตั้งเองแต่งงาน

ถ้าหาก ก่อนหน้านที่เป็นพนักงานใหม่ พวกเขาจะเข้าใจ ขนาดนี้หรือ?

จนวิภาสายหัวอย่างจนปัญญา “ฉันเองก็คิดไม่ออกเหมือน กัน และคงจะไม่มีใครที่ว่างขนาดนี้หรอก จริงมั้ย?

ชนินพรได้ยินที่จันวิภาตอบก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้ว ยิ้ม “จริงค่ะ คุณจันวิภา เรื่องพวกนี้มีแต่พวกที่ไม่รู้ความจริง เท่านั้นที่จะพูดมั่ว ๆ แบบนี้ แต่ท่านประธานยังคงให้ฉันสืบหา คนพวกนั้น แบบนี้มัน…..

“แบบนี้มันทำไมหรือ?” เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ ของชนินพร จันวิภาก็รู้สึกไม่มั่นใจ

“โธ่ ฉันเป็นเพียงแค่เลขาคนหนึ่ง อีกทั้งเพิ่งจะโดนเลื่อน ตำแหน่งขึ้นมา รู้สึกว่ามันยากเกินไปที่จะทำงานนี้” ชนินพร โค้งศีรษะลง

จันวิภาเข้าใจที่ความหมายของหล่อน “ฉะนั้น คุณอยาก ให้แนช่วยพูดกับท่านประธาน ให้ลืมเรื่องนี้นั้นสินะ?

ชนินพรพยักหน้าตอบกลับ “ใช่ค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับคุณจันวิภาโดยตรง ดังนั้นความคิดเห็นของคุณจึง สำคัญที่สุด ถ้าหากว่าคุณรคิดว่าการหาคนที่ปล่อยข่าวลือนั้น เป็นทางออกที่ดี ฉันก็จะปฏิบัติตามโดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาเช่นกันค่ะ

ชนินพรพูดพร้อมกับกำมือแน่น ดูคล้ายกับว่าที่ความมุ่ง มั่นอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นแบบอย่างของคนที่เพิ่งมาทำงานใหม่ ๆ

จันวิภามองเห็นตัวเธอเมื่อครั้งที่เพิ่งเริ่มเข้ามาทำงานใน ประเทศอเมริกา ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่อีกทั้งยัง มั่นใจในตนเองมากในตัวหล่อน หล่อนตอบกลับไปว่า “ฉัน หรือ มันไม่สำคัญอะไรอยู่แล้ว ฉันจะลองไปพูดกับสุมิตร คิด ว่าเขาคงจะเห็นด้วยกับฉัน

“ขอบคุณจริง ๆ นะคะคุณจนวิภา ขอร้องคุณอย่าบอก ท่านประธานว่าดิฉันเป็นคนขอร้องเรื่องนี้ได้ไหมคะ?” ชนินพร แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

จนวิภาพยักหน้าตอบรับ “วางใจเถอะ ฉันเองก็คือเป็น เลขามาก่อน เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ฉันทราบดี

ชนินพรถอนหายใจพร้อมพูดว่า “ค่ะ เร็ว ๆ นี้เราคงจะได้ ร่วมกันนะคะคุณจันวิภา ฉันจะตั้งตารอเลยค่ะ

“อะไรนะ?” จันวิภาไม่เข้าใจที่ชนินพรพูด

ชนินพรอธิบาย “ก่อนหน้านี้ฉันพูดไปแล้วค่ะ ตอนนี้ฉัน เป็นเลขาชั่วคราวของท่านประธาน แต่อีกไม่กี่วันนี้จะมีการ เปลี่ยนตำแหน่งนี้เป็นคุณจันวิภาแล้วค่ะ เรื่องนี้ท่านประธาน เป็นคนพูดมาเอง”

สีหน้าของชนินพรยิ่งพูดก็ยิ่งขุ่นเคือง จันวิภารู้สึกกระด้างกระเดื่องใจเป็นอย่างมาก หล่อนพูดปลอบประโลมว่า “ไม่มี อะไรหรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงข้อเสนอของเขา สุมิตร จริง ๆ เลย ยังไม่ได้ถามความคิดเห็นจากฉันก็ทำตามใจตัว เองแล้ว

ชนินพรโบกมือพลางพูดว่า “คุณจนวิภาคะ ฉันไม่ได้ความ หมายว่าอย่างนั้น คูรอย่าเข้าใจผิดนะคะ โธ่เอ๊ย ยิ่งพูดยิ่งดูไป กันใหญ่ เอาแบบนี้นะคะ คุณไม่ต้องพูดกับท่านประธานถึง เรื่องฉันก็พอแล้วค่ะ”

ชนินพรจบพูดก็โค้งศีรษะให้ฉันวิภาและเดินจากไป เหลือ ไว้เพียงจันวิภาที่กำลังงงงงกับเรื่องทั้งหมด

“ฮัลโหล สุมิตรคะ…

จันวิภาพรวดเข้ามาในห้องทำงานขอสุมิตรโดยไม่ได้เคาะ ประตูมาก่อน เดิมทีหล่อนต้องการถามอย่างตรงไปตรงมาเรื่อง การเปลี่ยนเลขาและเรื่องข่าวลืมพวกนั้นด้วย

เมื่อกำลังจะอ้าปากพูด หล่อนนึกขึ้นได้ว่าตนเองได้ รับปากกับชนินพรไว้แล้ว ว่าจะไม่พูดเรื่องที่ตนเจอกับชนินพร ดังนั้นหล่อนจึงเงียบไม่ได้พูดอะไรออกไป

“ทำไมบุ่มบ่ามขนาดนี้คือ เธอเป็นแม่คนแล้วนะ ยังจะ ทำตัวเหมือนเด็กอีกหรือ” สุมิตรที่กำลังนั่งเอกเขนงบนเก้าอี้ และอ่านไฟล์เอกสารในคอมพิวเตอร์มองมาที่จันวิภาอย่างช
“ฉันรู้สึกเบื่อนิดหน่อย ก็เลยออกมาหาคุณ จันวิภานั่งลง ตรงข้ามสุมิตรอย่างเกรงใจ วางมือไว้บนโต๊ะและเล่นมือของ ตนเอง มองสุมิตรด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่ไร้เดียงสา

สุมิตรยิ้มกว้าง ใช้มือศีรษะจันวิภาเบา ๆ แกมหยอก

“เบื่อหรือ? ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอจะต้องเบื่อ ดังนั้นฉันเลยมี งานจะให้เธอทำ” สุมิตรวางท่าทราวกับเป็นหัวหน้า “พรุ่งนี้เธอ จะต้องมาทำงาน ห้ามสาย ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดเงินเดือน

“ฉันอะไรฉัน เรื่องระเบียบกฎเกณฑ์เธอก็เข้าใจแล้ว ไม่ใช่เธอไม่เคยทำมาก่อน ดังนั้นสบายมาก ถ้าหากว่าเธอไม่ อยากทำงานจริง ๆ ก็รับผิดชอบต่อความเจ้าชู้ของฉันก็พอ สิ ໆ ถึงจะเป็นหน้าที่การทำงานของเธอ” สุมิตรอดที่จะหัวเราะขึ้นมา ไม่ได้ และจ้องมองไปที่จันวิภาอย่างหลงใหล

“ค่ะ แต่การทำงานกับเรื่องส่วนตัวต้องแยกกันะคะ” ฉัน วิภายนคิ้วพูด “ตอนนี้เลขาของคุณมีคนทำตำแหน่งนี้แล้วค่ะ อีกทั้งยังเป็นคนที่ธนภาคแต่งตั้งขึ้นมาอีกด้วย

สุมิตรพูดอย่างไม่สนอารมณ์ “ดังนั้นฉันเลยย้ายหล่อนไป ทำงานในตำแหน่งอื่นแล้ว พรุ่งนี้เธอมาทำงานได้เลย

ยังคงใช้อำนาจตัดสินเช่นเคย หรือควรจะพูดว่าไม่มี

เหตุผลดีนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ