ตอน341 ความเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 341 ความเปลี่ยนแปลง

แต่ว่าธนภาคประเมินความโหดร้ายของเจริญศรีผู้หญิงคน นี้น้อยเกินไป พอฟังธนภาคพูดเสร็จ เธอก็ทำเป็นแกล้งยิ้ม

น้อยมากเลยนะที่จะได้เห็นคุณธนภาคพูดขัดใจ แต่ก็ไม่ เป็นไร เพราะที่ฉันต้องการไม่ใช่ความคิดเห็นของคุณแต่ เป็นการลงมือท่าของพวกคุณต่างหากละ

สายตาของเจริญศรีที่มองมาราวกับว่าเป็นเข็มเล็กๆ ที่ กำลังทิ่มแทง ทำให้ธนภาครู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

“คุณเจริญศรีอย่าพูดเหมือนไม่ใช่คนกันเองแบบนี้สิ ถ้า หากว่าคุณสามารถช่วยให้บริษัทตะวันกรุ๊ปผ่านวิกฤตครั้งนี้ไป ได้ บริษัทตะวันวันกรุ๊ปก็ต้องทำอะไรเป็นการตอบแทนคุณอยู่ แล้ว แน่นอนว่า ถ้านั้นมันไม่มากเกินไป

ธนภาคฝืนยิ้มตอบ ใครจะไปรู้ว่าเจริญศรีจะพูดแบบนี้ ออกมาว่า “ขอโทษด้วยนะ ถ้าหากว่ามันต้องเป็นเรื่องที่มาก เกินไปจริงๆละ ห้าห้าห้า ขนาดฉันยังคิดว่ามันมากเกินไป แต่ ว่าเพื่อที่จะได้เห็นความน่าเวทนาของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ไม่ถือ

ธนภาคเริ่มหน้าซีด เขากะพริบตาสองครั้ง แล้วถามไปว่า “คุณเจริญศรีพูดออกมาให้ชัดเจนเถอะครับ
เจริญศรียิ้มมุมปาก เดินไปข้างๆ นภาค พูดเสียงอ่อยๆ ว่า “คำขอของฉันทนะมันง่ายจะตาย ก็แค่ให้สุมิตรสัญญากับ ฉัน ว่าต่อไปนี้จะตัดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น แน่นอน ว่า ฉันจะให้บริการ ใช้กับสิ่งที่ทำไว้กับฉัน แบบนี้ไม่เรียกเกินไป ใช่มั้ย”

ธนภาคอยากจะปฏิเสธคำขอที่ไม่มีมารยาทแบบนี้จริงๆ แต่กลับพูดอย่านิ่มนวลกลับไปว่า “สุมิตรตอนนี้ยังนอนไม่ได้สติ อยู่ แน่นอนว่าเขายังตอบรับคำขอของคุณเจริญศรีไม่ได้ แต่ว่า ถ้าครั้งนี้คุณเจริญศรีช่วยบริษัทตะวันกรุ๊ปเอาไว้ได้ สุมิตรต้อง ตอบแทนคุณแน่ๆ”

ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่ว่าพูดไปแล้วก็เหมือนไม่ได้พูด ตอนนี้ธนภาคไม่รู้จะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหนแล้ว

เจริญศรีเอาแขนมาคล้องคอธนภาคและพูดอย่างอ่อน หวานว่า “แต่ว่านะคุณธนภาค ที่คุณบอกว่าตอนนี้คุณเป็น ตัวแทนของสุมิตรเนี่ย ทำไมหรอ ตอนนี้อยากจะปัดความรับ ผิดชอบแล้วหรอ

ธนภาคผลักเจริญศรีออก กระแอมเบาๆสองที ส่ายหัวและ พูดว่า “ผมแค่ใช้อำนาจของเขามาจัดการเรื่องที่บริษัทเท่านั้น เรื่องส่วนตัวของเขาผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ

เจริญศรียิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าคุณธนภาคจะ ยังมองสถานการณ์ไม่ออกนะ ตอนนี้ที่ให้คุณตัดสินใจก็คือ เรื่องบริษัทตะวันกรุ๊ปจะรอดหรือไม่รอด คุณ แน่ใจแล้วหรือที่จะปฏิเสธฉัน หม

เจริญศรียิ่งพูดเสียงยิ่งอ่อน และตัวของเธอก็ค่อยๆ จึงมาที่

ไหล่ของธนภาค

ธนาคไม่เพียงไม่รับรู้ถึงบรรยากาศที่อบอุ่นแต่กลับรู้สึก น่ารังเกียจ ในใจคิดว่าผู้หญิงคนนี้แรดจริงๆ มิน่าละสุมิตรถึง ไม่ชอบเธอแต่กลับรังเกลียดเธอมากๆ

ธนภาคพูดนิ่งๆว่า “คุณเจริญศรี ผมอยากจะแน่ใจว่า นี่ เป็นสิ่งที่ตระกูลวีระโชต้องการใช่มั้ย” ในที่สุดธนภาคก็เริ่มจะ โกรธขึ้นมา

เจริญศรียิ้มและพูดว่า “ใช่ ฉันสามารถเป็นตัวแทนของ คนในตระกูลวีระโชทุกคน” และข้อเสนอที่ฉันพูดไปข้างต้นนั้น ก็เป็นจริงทุกข้อ ถ้าทำได้ละก็ ครั้งนี้บริษัทตะวันกรุ๊ปก็ไม่มีอะไร ต้องกังกล แต่ถ้าทำไม่ได้ละก็ ฉันคิดว่าตัวคุณธนภาคเองคงจะ รู้

ธนภาคไม่ได้ตอบอะไร แต่พูดไปคำเดียวว่า รบกวนด้วย นะครับ ก็หันหลังแล้วเดินจากไป

“คุณยังไม่จำเป็นต้องตอบตอนนี้ก็ได้นะคุณธนภาค เอา กลับไม่คิดก่อนก็ได้ แต่บางที่บริษัทตะวันกรุ๊ปอาจจะรอไม่ไหว ก็ได้นะ ยังไงคุณก็ต้องกลับมาหาฉัน” คำพูดของเจริญศรีทำให้ คนฟังรู้สึกไม่สบายใจ

ธรภาคเริ่มรู้สึกอึดอัดใจ พึ่งจะออกมาจากบริษัทของตระกูลวีระโชก็ได้รับข่าวร้าย

จนวิภาโทรมาบอกว่าอาการของสุมิตรทรุดหนัก ได้ส่งไปช่วยที่ชีวิตที่โรงพยาบาลของนราวิชญ์แล้ว

ตอนนี้

ตอนนี้ไม่สามารถจัดการเรื่องของบริษัทได้แล้ว ในภาค รับตรงไปที่โรงพยาบาล ตอนที่เขาไปถึงนั้นก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้สุมิตรจะไม่มีอาการอันตราย แต่กลับไม่มี สัญญาณของการจะฟื้นขึ้นมา

นิเวศน์นั่งอยู่ที่หน้าเตียงคนไข้ ตาเขาเป็นสีแดง น่าสงสาร มาก จนวิภาก็ดูเหมือนไม่มีสติ เพราะต้องดูแลทั้งนิเวศน์และสุ

มิตร

จนวิภาไม่เคยคิดเลยว่าการมีชีวิตอยู่จะทรมานขนาดนี้ พอได้เห็นธนภาค จันวิภาก็รู้สึกว่ามีที่พึ่ง ตั้งตารอถามว่า ท่าทางของตระกูลวีระโชเป็นยังไงบ้าง

ธนภาคไม่ได้บอกกับฉันวิภาว่าไปเจอเจริญศรีมา แค่พูด อย่างผิดหวังว่าตระกูลวีระโชจะแค่นั่งดูอยู่เฉยๆ

พอจนวิภาได้ยินแบบนี้ ในใจก็ยิ่งมืดมัว เธอมองไปที่ธน ภาคแล้วยิ้มแหยะและพูดว่า “ธนภาค เรื่องนี้มันเป็นเพราะฉัน ใช่มั้ย”

ธนภาคเอามือตบไหล่ของจันวิภา พูดปลอบใจว่า “อย่า คิดไปเรื่อยเปื่อยเลย ตอนนี้คือต้องดูแลสุมิตรให้ดีๆ เรื่องของ บริษัทเธอไม่ต้องกังวลหรอก
ทั้งสามคนใช้เวลาหมดไปอีกคืนที่โรงพยาบาล ดูแลส มิตรกันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ระหว่างนั้นราวิชญ์ก็มาเยี่ยม บ้าง และบอกว่าเขายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัด แต่เขาบอกไว้อย่างชัดเจนว่าที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อจัน

แม้กระนั้น ธนภาคก็ได้ปฏิเสธไป เพราะว่าถึงแม้ว่าจะได้ รับความช่วยเหลือจากนราวิชญ์ ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมากว่า เดิมมากนัก นอกเสียจากเขาจะเอาทรัพย์สินของเขาทั้งหมดมา ลงทุนในบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด ซึ่งก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่ามัน เป็นไปไม่ได้

ตอนที่ท้องฟ้าพึ่งจะสว่าง ธนภาคก็ตัดสินใจว่าวันนี้จะ เข้าไปที่บริษัท ตอนนี้สถานการณ์ของบริษัทกำลังวิกฤตหนัก มากขึ้น

มีข่าวลือว่าสุพจน์ได้ลงมืออีกแล้ว กว่าสิบบริษัทที่ตอนนี้ กำลังฟ้องบริษัทตะวันกรุ๊ปกำจัด แต่กตอนนี้ยังไม่มีหมายศาล ออกมา

ตอนที่ธนภาคได้ฟังข่าวนี้ก็รู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาด เหมือนว่า เบื้องบนต้องการให้บริษัทตะวันกรุ๊ปกำจัดล้มละลาย จริงๆ ธนภาครู้ว่าสถานการณ์ของเรื่องนี้ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ เขาไม่สามารถควบคุมมันได้อีกแล้ว

แถมไม่รู้ว่าฉันวิภาไปได้ยินข่าวนี้มาจากไหน ตอนที่เจอธน ภาคที่โรงพยาบาลเธอถามอย่างหมดความหวังว่า “มันไม่มีหนทางแล้วจริงๆ หรือ

ในที่สุดธนภาคก็ได้ฟังจนวิภาถามคำถามนี้ เขาอยาก อย่างไปหมดแล้ว

บอกกับฉันวิภา แต่ก็ทำไม่ลง แต่สายตาของเขากลับบอกทุก

“ธนภาคคุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอีก” ในวิภาเศร้าโศก เสียใจ

ธนภาคจำใจต้องพูดว่า “ที่จริงแล้ว ผมไปพบเจริญศรีมา ที่เธอแค่มองดูอยู่ข้างๆ ก็เพราะว่าต้องการที่จะพอใจกับสองข้อ เสนอ

จนวิภาถึงแม้จะรู้ว่ามันต้องเกี่ยวกับเธอแน่ๆ แต่ถึงอย่าง นั้นเธอก็ยังยิ้มออกและถามว่า “เธอต้องการข้อเสนออะไร

ธนภาค “หนึ่งคือ เธออกับสุมิตรก็ตัดขาดจากกัน ห้าม ติดต่อกันอีก สองคือ เธอต้องชดใช้สิ่งที่เธอเคยทำ ตอนแรกจนวิภาคิดว่าเจริญศรีแค่อยากจะแก้แค้นเท่านั้น

แต่ไม่คิดเลยว่าเขาอยากจะให้เธอ “หายไป

ธนภาคยืนมองจันวิภาที่กำลังเหม่อจึงพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่ต้องฝืนใจ ผมเชื่อว่าสุมิตรก็ไม่ยอมให้คุณทำตามข้อ ตกลงที่เลวร้ายนี้หรอก”

จันวิภากลับไม่ตอบอะไร

เพราะความสัมพันธ์ของเธอสุพจน์ถึงทำการกบฏต่อบริษัท อีกทั้งเพราะเธอด้วยเจริญศรีถึงได้แก้แค้นบริษัทตะวันกรุ๊ป ไม่ว่าจะว่ายังไง เธอก็คือตัวที่นำเรื่องเลวร้ายเข้ามา

ไม่มีคำว่าไม่ยอม ไม่มีความแค้น จนวิภาแค่จะรับผิดชอบ เท่านั้น