ตอน327 ข่มขู่
ตอนที่327 ข่มขู่
เขาไม่เพียงแต่มีความหวังที่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังมีความ เข้าใจที่ลึกซึ้งกว่าคนทั่วไปแม้ว่าดูเหมือนว่าพ่อกับแม่จะไม่ ถูกกันเสมอแต่ความเป็นจริงความขัดแย้งก็สามารถทำให้คน ทั้งสองเข้าใจและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้เช่นกัน
แม่ลูกทั้งคู่ต่างคนต่างคิดเรื่องของตัวเองและเมื่อโรง พยาบาลปรากฏในสายตาของพวกเขาพวกเขาก็ได้สติขึ้นมา อีกที
จันวิภาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าที่ดูวิตกกังวลขนาดนี้บน ใบหน้านิเวศน์และเธอก็พบว่านิเวศน์ขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือน ว่าอารมณ์จะไม่ดีเท่าไร
จันวิภาโอบนิเวศน์เข้ามาในอ้อมกอดแล้วจูบที่หน้าผาก ของเขาและถามเบาๆ “เป็นอะไรหรือเปล่า? นิเวศน์
นิเวศน์ฝืนยิ้มแล้วส่ายหัวตอบ “ไม่มีไรครับ อาจเพราะ เหนื่อยไปหน่อยการขับรถเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ถึงจะทำได้จริงๆ แม้ว่าปากจะพูดอย่างนี้แต่กลับซ่อนความคิดที่แท้จริงของตัว เองไว้ข้างใน
นิเวศน์รู้สึกความสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี
จนวิภาไม่ได้สังเกต
โอบนิเวศน์ไว้แล้วเติมมุ่งหน้าไปยังห้องที่สุมิตรพักอยู่
และจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไปด้วย แต่ว่าตอนที่นิเวศน์เดินมาถึงหน้าห้องสุมิตรพบว่าห้องพัก ตอนนี้ว่างเปล่า
ในใจของฉันวิภาและนิเวศน์รู้สึกประหลาดใจพร้อมกัน
หรือว่าสุพจน์จะลงมือกับสุมิตรแล้วจริงๆ?
จันวิภาไม่รู้เป็นอะไรเหมือนวิญญานออกจากร่างไม่รู้จะพูด อะไรหรือทำอะไรนิเวศน์กลับตัดความเป็นได้ที่ว่าสุพจน์จะ ลงมือกับสุมิตรออกจากใจทันทีและเหมือนเขาจะคิดอะไรบาง อย่างออก
นิเวศน์เห็นพยาบาลเดินมารีบจับขาพยาบาลไว้พูดเสียง สะอื้นว่า “คุณพี่พยาบาลครับ คนไข้ที่อยู่ห้องนี้ถูกย้ายไปแล้ว เหรอครับ?”
พยาบาลมองนิเวศน์ด้วยความตะลึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ใช่จ้า
หนูรู้ได้ยังไงคะ?”
พยาบาลเห็นว่านิเวศน์หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก อดไม่ได้ที่จะนั่งลงมาเล่นกับนิเวศน์
ไม่รู้เลยว่าเมื่อนิเวศน์รู้คำตอบที่ตัวเองอยากรู้แล้วก็ไม่ได้
สนใจพยาบาลเลย
จูงมือจนวิภาแล้วเดินออกจากโรงพยาบาลทันที
จนวิภาหันกลับไปกล่าวขอบคุณอย่างรีบร้อน
ในสายตาของคนอื่นคงเป็นแม่และลูกที่แปลกมาก
นิเวศน์กลับมาที่รถจนวิภาถามขึ้นกะทันหันว่า “ลูกรู้อะไร เหรอ? นิเวศน์
นิเวศน์ไม่ตอบแต่นิ้วขึ้นมาทำท่าทางให้เงียบเสียงแล้วก
วาดสายตาไปรอบๆ
เหมือนกำลังสังเกตบางอย่าง
จันวิภากำลังจะหันหน้าไปทางนอกรถก็โดนนิเวศน์พูด
ห้ามไว้ “คุณแม่ครับ
อย่าขยับและไม่ต้องตื่นเต้นแต่แมลงวันเฉยๆ
“แมลงวัน?” จันวิภาไม่อยากจะเชื่อ
“คืออย่างงี้ตอนนี้พ่อบุญธรรมตำแหน่งของเราแล้ว ตอน
นี้กำลังตามเราอยู่
นิเวศน์ยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันพลาดอีกแล้ว ฉันไม่
ควรขอรถคันนี้ตั้งแต่แรก
รถคันนี้น่าจะ GPS ระบุตำแหน่ง
“งั้น…งั้นเรื่องของคุณพ่อของลูกก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุ
พจน์?”
จันวิกาเริ่มตึงเครียด
นิเวศน์ท่าท่าปฏิเสธแล้วสตาร์ทเครื่องหัวเราะแล้วพูดว่า วางใจได้
คุณพ่อไม่ได้อยู่ในมือพ่อบุญธรรมอีกอย่างตอนนี้ถือว่า ปลอดภัยอย่างไรก็ตาม…….
เขายังพูดไม่จบก็มีรถสีดำสองสามคันขับตามมานิเวศน์ พูดเสียงดัง “แม่นั่งนิ่งๆนะครับ
ต่อมานิเวศน์รู้สึกว่าตัวเองขาดการควบคุมไปชั่วขณะแต่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นรถวิ่งเร็วบนถนนภายใต้การควบคุมของ นิเวศน์เลี้ยวซ้ายและขวาและหลุดพ้นจากการติดตามอย่างเร็ว
เมื่อทิ้งรถคันนั้นไปแล้วแม่ลูกก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อ
ในที่สุดก็ถึงบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดสักที
ตอนที่จันวิภาเห็นตึกของบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด
ก็รู้ในทันทีว่าตอนนี้สุมิตรอยู่ไหนไม่ต้องพูดอะไรมาก
ต้องเป็นฝีมือของเจริญศรีแน่ๆ แต่ว่าเธอยังไม่ได้เข้าพิธี แต่งงานกับสุมิตรเลย
ดังนั้นถ้าสุมิตรเกิดเป็นอะไรไปเธอก็จะไม่ได้อะไรเลย
อย่างไรก็ตามเป็นอย่างที่นิเวศน์พูดตอนนี้สุมิตรยังถือว่า
ปลอดภัยอยู่
ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น
จันวิภาก็ไม่วางใจให้สุมิตรอยู่ใกล้กับยายผู้หญิงใจมาร คนนั้น ในตอนนี้นี่เอง
เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังรู้สึกหึงหวง
โยนความคิดไร้สาระทิ้งไปแม่ลูกพากันเดินเข้าบริษัท ตะวันกรุ๊ปจํากัด
ห้องโถงเงียบมากเงียบจนน่าสงสัยแล้วก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อตอนที่จันวิภา พานิเวศน์ เข้ามาก็มีบอดี้การ์ดชุดด่าเดิน ออกมาจากมุมต่างๆ เหมือนกำแพงสีดำที่ปิดถนนไว้
จันวิภาเชิดอกพูดว่า “ให้ฉันขึ้นไป ฉันต้องการทราบข่าว
ของคุณสุมิตร”
เงียบ
โดยเร็วบอดี้การ์ดชุดคนหนึ่งตอบอย่างเยือกเย็นว่า “ขออภัยครับ คุณวันวิภาคุณสุมิตรไม่ต้องการความเป็นห่วง จากคุณเชิญคุณกลับไปเถอะครับ
จันวิภาขมวดคิ้วเธอรู้ว่าคนที่บริษัทไม่กล้าพูดแบบนี้กับ เธอและแน่นอนนอกจากผู้หญิงคนนั้น
จันวิภาจูงนิเวศน์แน่นแล้วตะโกนว่า “พวกเธอมีอำนาจอะไร? ฉันเป็นเลขาของคุณสุมิตรถือเป็นคนของบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัดก็มีสิทธิ์ขึ้นไปอยู่แล้ว
บอดี้การ์ดชุดด่ามองหน้ากันตอนที่ไม่รู้จะเอายังไงอยู่นั้นมี เสียงของผู้ชายคนหนึ่งส่งมา
“ขอโทษด้วยครับ คุณจนวิภาตำแหน่งเลขาของคุณถูก ยกเลิกแล้วต้องขออภัยด้วยคุณมาจากทางไหนก็ขอให้กลับไป ทางนั้นไม่อย่างนั้นสำหรับคนที่บุกรุกบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด พวกเราจะไม่เกรงใจ
จันวิภาไม่ได้พูดอะไรเธอจ้องมองไปยังป้ายชื่อบนหน้าอก
ชายคนนั้นเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จันวิภาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ตำแหน่งงานของ ฉันคุณสุมิตรเป็นคนแต่งตั้ง แค่คุณพูดปากเปล่าก็ถือว่าฉันโดน
ออกจากงาน มีหลักฐานอะไร?
เขารู้อยู่แล้วว่าฉันวิภาจะมาไม้นี้เลยหยิบเอาเอกสารจาก กระเป๋าเสื้อออกมาใบหนึ่งแล้วยื่นให้ในวิภาคโดยพูดเยาะเย้ย ว่า “ต้องขอประทานโทษจริงๆครับ คุณสุมิตรไม่อยู่แต่คณะ กรรมการก็เลยเปิดการประชุมขึ้นเพื่อไล่คุณออกถึงแม้จะพูดว่า โดนเชิญออกก็ถือว่าให้เกียรติคุณมากแล้ว
พูดจบเขาก็โยนหนังสือเชิญออกลงพื้นแล้วหัวเราะเยาะ
จันวิภาโมโหจนตัวสั่นแต่นิเวศน์ก็ไม่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆมี
เย้ยเพียงแค่ขมวดคิ้วแล้วจ้องมองไปที่อกของชายคนนั้น
จนวิภารู้ว่าครอบครัวของเจริญศรีมีหุ้นของบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัดเยอะมากถึงแม้ปกติจะไม่มีอำนาจในการออกเสียง แต่ว่าตอนนี้สุมิตรป่วยหนักเธอที่เป็นคู่หมั้นเลยไม่มีใครกล้าต่อ ค้านเธอ
ในขณะที่ไม่รู้จะเอายังไงดีในวิภาก็นึกถึงสัญญาที่ตัวเอง เซ็นกับสุมิตรเป็นการส่วนตัวเธอยิ้มมุมปากถึงแม้ตัวเองจะไม่ เต็มใจแต่ว่าของชิ้นนี้อาจมีประโยชน์
เธอยิ้มเอาสัญญาของตัวเองขึ้นมาแล้วโชว์ให้ทุกคนดู หัวเราะแล้วพูดว่า “ถึงแม้จะไล่ฉันออก ในตำแหน่งเลขา แต่ว่า ฉันกับคุณสุมิตรยังมีสัญญาส่วนตัวอันอยู่มีกฎว่าห้ามฉันออก ห่างจากตัวเขาแม้แต่ก้าวเดียวถ้าพวกเธอทำผิดกฎพอคุณสุ มิตรฟื้นแล้วดูว่าคุณอธิบายได้อย่างไร
จนวิภาพูดด้วยความหนักแน่นสีหน้าของเขาก็เริ่มมีความ
กลัว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ