ตอน299กลับไปอยู่ข้างสุมิตร
ตอนที่299 กลับไปอยู่ข้างสุมิตรา
…..ครับ! “บอดี้การ์ดสองคนนั้นถูกสุพจน์ตะคอกใส่เสีย จนตัวสั่นตระหนักได้ว่าตนเองได้ทำผิดไปแล้วรีบร้อนที่จะแก้มัด ให้ฉันวิภาและเอาผ้าที่อุดปากเธออยู่ออกมาหลังจากเสร็จสิ้น ทั้งหมดจึงได้พากันถอยออกไปเพื่อรอคำสั่งจากสุพจน์
สุพจน์เดินมาข้างๆในวิภายื่นแขนออกมาดึงมือเธอเห็น รอยบนมืออย่างชัดเจนจากนั้นจึงพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน” เจ็บ มั้ย?”
จนวิภาเม้มปากจนแน่นส่ายหัวไม่ได้พูดอะไร เมื่อเห็นเช่นนี้สุพจน์จึงสีหน้าหม่นหมองตะคอกใส่บอดี้ การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลังในวิภาอย่างไม่โกรธหรือวาง อำนาจอะไรยังไม่รีบไสหัวออกไปอีก!
“ครับ! นายใหญ่! “รับคำสั่งบอดี้การ์ดทั้งสองคนก็หัน ตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่นาน ในห้องรับแขกก็เหลือเพียง แค่นวิภากับสุพจน์สองคน
หลังจากรอคนออกไปสุพจน์ก็ได้ดึงจนวิภาเข้ามานั่งตรง โซฟาที่อยู่ข้างๆอย่างอบอุ่นเขามองจันวิภาพูดปลอบใจอย่าง อ่อนโยน ขอโทษนะที่ใช้วิธีนี้พาเธอกลับมาพวกเขาไม่เข้าใจความหายที่ฉันจะสื่อเธออย่าเอามาใส่ใจเลยนะ
ในตอนนี้จนวิภาถึงรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพื่อที่จะพาเธอ กลับมาจึงสั่งให้คนไปหาตัวเธอคิดไม่ถึงเลยว่าคนพวกนี้จะไม่ ทะนุถนอมทำร้ายฉันวิภาและมัดเธอไว้
ท้ายที่สุดจึงพบว่ามันไม่มีอันตรายจันวิภาจึงถอนหายใจ ออกมาแรงๆ ส่ายหน้าหัวเราะแล้วพูดไม่เป็นไรฉันไม่ถือสา หรอก”
หากเธอถูกสุมิตรใช้กำลังขังเอาไว้สุมิตรพาเธอกลับมาก็ ดีแล้วแต่ตอนนี้สุมิตรผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลและเธอในตอนนี้ ก็กลับมาแล้วราวกับว่ามันจะไม่ค่อยดีนักไม่ว่าจะพูดอย่างไงก็ ต้องดูให้แน่ใจว่าชีวิตของสุมิตรปลอดภัยแล้วจึงค่อยกลับ มา!
เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาสุมิตรจึงหัวเราะออกมาตบไป ที่มือของเธอเบาๆแล้วพูดว่า “เธอไม่ถือสาก็ดีแล้วหิวมั้ย? กิน อะไรสักหน่อยมั้ย? หรือจะไปอาบน้ำก่อนดี ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉันพานิเวศน์เข้านอนไปแล้ว
“จันวิภาสายหัวอีกครั้งเธอดึงมือของเธอกลับ “ฉันไม่หิว…… มาอย่างเงียบๆจากมือของสุพจน์แล้วพูดอย่างเหม่อลอย สุ พจน์ฉันอยากจะกลับไปดูอาการของสุมิตรที่โรงพยาบาลวันนี้ เขาเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของ
ได้ยินจันวิภาเอ่ยถึงชื่อของสุมิตรสีหน้าของสุพจน์ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ เธอเป็นห่วงเขา ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ฉัน…”นวิภาถูกสุพจน์ตามเสียจนพูดไม่ออกที่พูดมาก็มี เหตุผลแต่ว่า……
“สุมิตรเข้าโรงพยาบาลและฉันก็มีเหตุผลที่อยู่ที่นั่นฉันไม่ สามารถทิ้งเขาไปอย่างนี้ได้ฉันรู้ผิดชอบชั่วดีอยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของฉันวิภาสีหน้าของสุพจน์ก็อ่อนโยนลง เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ ไม่เป็นไรเธอไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็อยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลมาทั้งวันแล้วตอนนี้ยัง ไม่มีข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับสุมิตรรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านไม่ดีกว่า หรือเธอวางใจเถอะถ้ามีข่าวมาฉันจะรีบบอกเธอเลย
เมื่อได้ยินดังนั้นในวิภาจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างไม่รู้จะ ทำอย่างไงแล้วพูดก็ได้
เมื่อเห็นว่าในที่สุดจนวิภาก็ไม่เอ่ยถึงชื่อของสุมิตรอีก พจน์จึงฉีกยิ้มที่มุมปากเขาจ้องมองใบหน้าที่ละเหี่ยใจของฉัน วิภาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาอย่างกังวลใจ ดูเธอไม่เจอ กันวันเดียวใบหน้าหมองอะไรอย่างนี้คงจะไม่ได้กินอะไรดีๆสินะ ฉันจะสั่งพ่อครัวให้ทำมื้อดึกให้ไปกันเถอะไปกินข้าวด้วยกันกับ ฉัน”
พูดจบสุพจน์ก็จูงจันวิภาเดินเข้าห้องครัว
ที่จริงจันวิภาก็หิวแล้วก็เลยไม่ได้ต่อต้านอะไรขนมปังที่ซื้อตอนที่ออกจากโรงพยาบาลเมื่อครู่นี้ก็ถูกคนลากขึ้นรถจนทำ หล่นไปแล้วตอนนี้หิวจนทนไม่ไหวแล้วกินได้แม้กระทั่งวัวทั้งตัว
รับประทานอาหารค่าเสร็จจนวิภากลับมาอาบน้ำที่ห้องรอ จนกระทั่งเธอกลับมาถึงเตียงนอนมองดูนิเวศน์ที่กำลังนอนกลับ
สบายอยู่ จันวิภาพึ่งจะเอนตัวลงนอนก็ได้ยินเสียงนิเวศน์พูดพิมพ์
ออกมา มา
เมื่อได้ยินเสียงเรียกความเครียดและความวิตกทั้งวันนี้ ของจันวิภาจึงทุเลาลงเธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมายื่นมือออกไป ห่มผ้าห่มให้นิเวศน์จากนั้นจึงตะแคงตัวนอน
อย่างไรก็ตามพอจนวิภาหลับตาลงในสมองก็หวนนึกถึง ใบหน้าที่แสนเจ็บปวดนั่นของสุมิตรว่ากันตามจริงคนที่มักจะมี ท่าทางหยิ่งในศักดิ์ศรีทันใดนั้นวันหนึ่งก็ปรากฏใบหน้าที่ กระอักกระอวนขึ้นมาต่อหน้าเธอไม่มีใครสามารถยอมรับการ เปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้หรอก
ในสมองของจันวิภานึกถึงท่าทางที่เจ็บปวดของสุมิตรไม่ หยุดหย่อนจึงไม่อาจนอนหลับได้ขณะเดียวกันความพะว้าพะวง ในใจก็ยิ่งหนักขึ้นมันกดทับจันวิภาเสียจนหายใจลำบาก
สุดท้ายจนวิภาจึงนอนพลิกไปพลิกมาและนอนไม่หลับต้อง ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ระเบียงเพื่อรับลมเย็นๆถึงเวลาเข้าสู่ฤดู ใบไม้ร่วงแล้วอากาศเย็นอยู่เล็กน้อยทันใดนั้นเองจันวิภาก็คิด อยากจะกลับไปที่โรงพยาบาลอย่างน้อยตอนที่อยู่ที่นั่นก็ยังได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับสุมิตรเป็นคนแรกอยู่ที่นี่ก็คงจะต้องรอ เป็นชั่วโมง
พูดขึ้นมาแล้วสุมิตรเข้าไปในห้องผ่าตัดตอนนี้ก็คงจะสิบ กว่าชั่วโมงแล้วไม่รู้ว่าเขาออกมาแล้วหรือยังและไม่รู้ว่าชีวิต ของเขาจะพ้นขีดอันตรายแล้วหรือยังเขาจะออกมาอย่าง ปลอดภัยหรือไม่นะ
กองความสงสัยทับถมอยู่ในใจสุดท้ายในวิภาก็หงุดหงิด จนทนไม่ไหวตามสถานการณ์เช่นนี้ควรไปโรงพยาบาล โดยตรง กว่า!
แต่ตอนนี้ก็ดึงมากแล้วคงไม่ดีถ้าจะออกไปข้าง นอก…..เวลานี้จนวิภารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
“มา…..มากลับมาแล้ว……..ไมยังไม่นอนล่ะ? ไม่รู้ว่า
นิเวศน์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่เขายืนอยู่ข้างหลังในวิภาเอ่ย
ถามด้วยดวงตาทีมกะทิอ
เมื่อได้ยินเสียงของนิเวศน์ความรำคาญที่อยู่ภายในใจ ของจันวิภาก็ค่อยๆสลายหายไปเธอหันตัวมามองนิเวศน์ที่สวม ใส่ชุดนอนอยู่มองเธอด้วยใบหน้าง่วงนอน
จันวิภาเดินไปจูงมือนิเวศอย่างปวดใจแล้วพูดอย่างอ่อน โยนมามีมีธุระนิดหน่อยก็เลยนอนไม่หลับนิเวศน์ฟังนะรีบกลับ ขึ้นเตียงไปนอน
ระหว่างที่พูดจนวิภาก็อุ้มนิเวศน์กลับเตียงนอนดึงผ้าห่มมาห่มให้เขา
“มามี่”นิเวศน์ถึงมือออกมาจากผ้าห่มเขาจับมือจนวิภาเอา ไว้แววตาฟื้นคืนความสดใสจ้องมองจันวิภาโดยไม่กระพริบตา แล้วพูดว่า “มามคิดถึงปะป๋าหรอ?ที่จริงแล้วมามีไม่อยากกลับ มาใช่มั้ย?
คำพูดของนิเวศน์ทำให้จนวิภาประหลาดใจในใจคิดว่า บางทีเด็กคนนี้อาจจะยังไม่ตื่นดีจึงอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไป ลูบศีรษะของเขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “นิเวศน์เด็กนอนก่อน นะมีเรื่องอะไรพรุ่งนี้ค่อยพูด
พูดจบจนวิภาก็เอามือของนิเวศน์ที่ยื่นออกมากลับเข้าที่ เก่าแต่นิเวศน์กลับเหมือนที่จะยืนหยัดจะทำอะไรสักอย่างไม่ ยอมปล่อยมือไปง่ายๆ พูดอย่างดื้อรั้น มามีมานอนเป็นเพื่อน นิเวศน์นะ”
จันวิภาอึ้งตะลึงจากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดได้มาจะนอนเป็น เพื่อนนะ”
พูดจบจันวิภากขึ้นเตียงมุดเข้าผ้าห่มตะแคงตัวนอนจ้อง มองนิเวศน์โดยไม่พูดอะไร
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ