ตอน292ถอนหมั้น
ตอนที่292ถอนหมั้น
สุมิตรนิ่งเงียบอยู่นานจึงจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ จะถอน หรือไม่ถอนหมั้นนั้นต้องดูการกระทําของเธอ
พูดจบสุมิตรก็ก้าวเท้าเดินตรงออกไปแม้เจริญศรีจะขวาง อย่างไรก็ไม่อาจขวางเขาให้ออกไปได้
”
จิตใจของเจริญศรีแตกสลายร้องไห้เสียจนใบหน้าเอ่อล้น ไปด้วยน้ำตาบนใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ
ความหมายที่สุมิตรพูดก็คือถ้าเธอจะปิดตาข้างหนึ่งเกี่ยว กับเรื่องของสุมิตรแล้วบางทีเขาก็อาจจะรักษาความสัมพันธ์ สถานะคู่หมั้นของพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้
แต่มันจะเป็นไปได้หรือ? ! หากเจริญศรีทำตามที่สุมิตร พูดจริงๆเมื่อถึงตอนนั้นภายในใจของสุมิตรจะยังมีที่ว่าง สำหรับเธออยู่อีกหรือ?ดูจากความเย็นชาของสุมิตรในวันนี้จิต วิญญาณของเขาเกือบที่จะถูกจั่นวิภาดูดไปเสียแล้วนางจิ้งจอก นั้นไม่รู้ว่าใช้วิธีอะไรถึงทำให้สุมิตรเปลี่ยนไปเป็นไม่รักเธอได้ เช่นนี้!
ยิ่งไปกว่านั้นตามนิสัยของเจริญศรีแล้วจะไปปิดตาข้าง หนึ่งไม่สนใจสุมิตรได้อย่างไรเรื่องที่น่าน้อยใจเช่นนี้เมื่อใดกัน ที่เธอได้รับความเย็นชาจนถึงขั้นนี้
ในบ้านพ่อปฏิบัติต่อเธอราวกับไข่มุกที่อยู่ในมือถ้าเจริญ ศรีต้องการอะไรแล้วล่ะก็ไม่มีอะไรที่จะไม่ได้ปีนั้นเองก็เพราะว่า เจริญศรีเอ่ยปากพ่อเธอจึงยอมรับปากที่จะช่วยสุมิตรทำให้ บริษัทของเขาฟื้นขึ้นมาจากความตาย
และสุมิตรเองก็มีช่วงเวลาที่ดีสำหรับเธอต่อมาจนเวลา ยาวนานแม้ว่าความหลงใหลของสุมิตรที่มีต่อเธอนั้นจะไม่ดีเท่า ที่เคยแต่ก็ยังเคารพเธอเธอต้องการอะไรสุมิตรก็จะหามาให้
แต่หลังจากที่จันวิภาปรากฏตัวขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ เปลี่ยนไป! สุมิตรไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเธออีกและ ไม่ดีกับเธอเหมือนเมื่อก่อน
การปฏิบัติที่แตกต่างกันเช่นนี้เจริญศรีจะไปทนไหวได้ อย่างไร! เธอเกลียดจันวิภาแค่คิดก็รู้ว่าเกลียดลึกแค่ไหน!
เธอจะต้องล้างแค้นนวิภาแน่แค่เพียงให้โอกาสเธอเธอ จะไม่ปล่อยจนวิภาไปแน่!
ยังไม่ทันที่อารมณ์ของเจริญศรีจะสงบลงก็ถูกสุมิตรไล่ออก จากบ้านมองดูสุมิตรที่ขึ้นรถไปกับจันวิภาอย่างสนิทสนมแล้ว เห็นได้ชัดว่าเจริญศรีอึดอัดใจอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
ภายในใจของเจริญศรีเกลียดจนวิภายิ่งขึ้นไปอีกในสายตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้ายถ้าหากสุมิตรไม่ อยู่เธอก็คงจะพุ่งเข้าไปอีกกระชากใบหน้าของวันวิภาแล้ว!
สุมิตรและจันวิภามาถึงที่บริษัททุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับ รู้อยู่แล้วราวกับว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร และไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าแต่แรกเดิมทีมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติในวิภาทำงาน ที่บริษัทของสุมิตรอย่างน้อยก็หนึ่งเดือนนอกเสียจากหาลูกชาย แล้วทุกวันตอนที่มาทำงานก็มีเรื่องที่ต้องทำถ้าต้องทำงานด้วย กันกับสุมิตรเธอก็ยังไม่คุ้นชินอยู่เล็กน้อย
นึกถึงท่าทางอันดุร้ายของเจริญศรีที่คุกเข้าอ้อนวอนสุมิตร จันวิภาก็รู้สึกว่ามันดูไม่ได้จิตใจของสุมิตรก็ช่างโหดเหี้ยมเสีย จริงคดไม่ถึงเลยว่าจะเย็นชากับคู่หมั้นหกปีของตนเองได้ถึง ขนาดนี้ช่างเป็นขยะที่ไร้ความเป็นมนุษย์เสียจริง
สิ่งนี้ยิ่งทำให้ฉันวิภามั่นใจในความคิดของตนเองมากยิ่ง ขึ้นจะกลับสู่สถานการณ์เมื่อหกปีก่อนสุมิตรไม่ได้ต้องการความ ยินยอมจากเธอแน่ๆ จากนั้นก็เริ่มที่จะละเมิดเธอทำให้เธอขาย หน้า
ภายในใจของฉันวิภานั้นชัดเจนสุมิตรที่เป็นเช่นนั้นช่าง
โหดร้ายและไร้ความปราณี
หนทางจากบ้านมาถึงที่บริษัทจันวิภายังคงไม่ได้พูคุยกับสุมิตรแม้ว่าสุมิตรจะมาพูดกับเธอด้วยตัวเองแต่ฉันวิภาก็ไม่ สนใจ
การต่อสู้ระหว่างเธอกับสุมิตรได้เปิดฉากขึ้นแล้ว
ตอนทำงานในวิภาไม่กินกาแฟให้สุมิตรบางทีสุมิตรกงาน ยุ่งมากจึงยื่นมือออกไปหยิบแก้วกาแฟจึงได้พบว่าภายในแก้ว มันว่างเปล่า
มองไปที่ด้านล่างของแก้วสุมิตรจึงไม่รู้จะทำอย่างไรดีเห็น เช่นนี้แล้วจนวิภาคงจะต้องการขัดขวางเขาอย่างถึงที่สุด
เคยพูดเอาไว้ว่าความสามารถของจันวิภาเป็นไปไม่ได้ที่สุ มิตรจะหยอกล้อเธอเช่นนี้ยกหูโทรศัพท์ภายในขึ้นมาสุมิตร โทร หาในวิภาที่นั่งอยู่ทางด้านนอก
จันวิภาก๋าลังก้มตาก้มตาทํางานได้ยินเสียงเรียกข้าวของ โทรศัพท์หยิบขึ้นมาแล้วตอบกลับแบบรวดเร็วเมื่อเธอได้ยิน เสียงของสุมิตรก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
“จันวิภาจิตสำนึกความเป็นเลขาของเธออยู่ที่ไหนกัน เอา กาแฟมาให้ฉันแก้วหนึ่ง
พูดจบสุมิตรก็ได้วางสายโทรศัพท์ไปก่อน
“…” นวิภาถือโทรศัพท์อย่างงุนงงเธออยากที่จะเป็นคน วางสายโทรศัพท์คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกสุมิตรชิงวางสาย โทรศัพท์ติดหน้าไปก่อน
จันวิภาแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเยือกเย็นต้องบอกก่อนว่าสุมิตรปราดเปรื่องกว่ามากแต่ถ้าเขาชิงวางสายตัดหน้าไปก่อน แล้วมันทำไมล่ะก็แสดงว่าเธอแพ้ไปแล้วไง?
สามารถทำให้สุมิตรเอ่ยปากให้เธอไปชงกาแฟขึ้นมาด้วย ตัวเองได้ แสดงว่าเขาทนไม่ไหวแล้วทนไม่ไหวก็ดีในไม่ช้านี้ก็ จะเกลียดเธอและปล่อยเธอไป
จันวิภาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องชงชาตอนที่ชงกาแฟเอง จิตใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวท้ายที่สุดในวิภาก็ชงให้สุมิตรแบบ ลวกๆแล้วยกไปเสิร์ฟที่ห้องทำงาน
จันวิภาวางไว้ที่โต๊ะของสุมิตรตามความเคยชินจากนั้นเธอ ก็หันตัวแล้วเดินออกไปแต่ทว่าครั้งนี้หลังจากที่จันวิภาต้องการ ที่จะเดินออกไปก็ถูกสุมิตรส่งเสียงออกมาหยุดเอาไว้
“รอเดี๋ยว! “สุมิตรพูดด้วยเสียงที่อึมครึม
เมื่อได้ยินดังนั้นจันวิภาจึงหันตัวกลับไปจ้องมองสุมิตร โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำมองดูว่าเขามีอะไรที่อยากจะพูดกับตัว เอง
สุมิตรตระหนักได้ก่อนเขาเพียงแค่จ้องมองจันวิภาอยู่เล็ก น้อยหลังจากนั้นจึงหยิบกาแฟที่จันวิภาเสิร์ฟเข้ามาค่อยๆจับ จากนั้นสุมิตรก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ภายในใจขำขันอยู่เล็กน้อยและโกรธอยู่เล็กน้อย
การประกาศสงครามของจันวิภาในครั้งนี้ยิ่งอุกอาจมาก ขึ้นไปอีกคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะชงกาแฟส่งมาให้เขาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ในตอนแรกสุมิตรยังคิดว่าซงได้ดีแล้วแค่รอให้ คำพูดของเขาส่งเข้ามาในตนเอง
คิดไม่ถึงเลยว่ากลับกลายเป็นเขาดูหมิ่นดูแคลนนวิภา เข้าเสียแล้ว
สุมิตรขมวดคิ้วขึ้นมาเขาจ้องมองจันวิภาอย่างไม่มีความ สุขยกกาแฟไปวางเอาไว้ข้างๆแล้วพูดออกคำสั่ง เธอช่วยฉัน ดื่มกาแฟแก้วนี้ทีสิ
อารมณ์ของสุมิตรเย็นชาแต่กลับไม่ได้ตำหนิจนวิภาที่ทิ้ง หน้าที่ออกมาตรงๆและให้ตัวเธอเองทำออกมาจากนั้นก็ให้ตัว เองดีม
จนวิภามองไปที่กาแฟแก้วนั้นอย่างเงียบๆเป็นเวลานานจึง จะเอ่ยปากคายคำสองคำง่ายๆออกมา เหตุผล?
“ไม่อร่อยเธอช่วยดื่มมันแทนฉันที่นี่เป็นคำสั่งจากเจ้า นายสุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
“งั้นถ้าฉันไม่ดื่มล่ะ?”จันวิภาขมวดคิ้วพูดออกมาอย่างไม่ กลัวตาย
“ฉันบังคับให้เธอดื่มได้แต่ว่าจะวิธีไหนนั้นฉันไม่กล้าที่จะ พูดมันออกมา สุมิตรแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชาพูดออกมา ด้วยมั่นใจและแน่วแน่
จนวิภานิ่งเงียบไปเธอจ้องมองกาแฟแก้วนั้นอย่างเงียบๆในสมองคิดถึงวิธีการที่สุมิตรจะบังคับตนเองได้นับไม่ถ้วน ผู้ชายที่บ้าบอคนนี้อารมณ์แทบจะระเบิดออกมาแล้ว!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ