พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน283ผมเอาเธอ



ตอน283ผมเอาเธอ

ตอนที่283 ผมเอาเธอ

รอจนกระทั่งเขาออกมาจากห้องพักผ่อนเห็นจันวิภาที่ จัดการตนเองเสร็จแล้วนั่งในท่าที่สบายๆ แล้วมองไปที่ไหนสัก แห่งอย่างมีนงง

เมื่อเห็นเช่นนี้สุมิตรจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะขึ้นมาเธอ ไม่ได้หนีไปอีกครั้งดีจริงๆ

“คิดอะไรอยู่ล่ะ?” เสียงที่ทุ่มต่ำและแหบซ่านของสุมิตรดัง ขึ้นมาในหัวของจันวิภาจันวิภาหันหน้ากลับมาจึงพบว่าสุมิตร

สวมชุดอยู่บ้านยืนอยู่ด้านหลังโซฟามองจนจนวิภาตกตะลึง

สุมิตรที่สวมเสื้อผ้าเช่นนี้นั้นค่อนข้างดูดีเลยมันดูง่ายๆ สบายๆ …..ถ้าหากว่ามันไม่มีท่าทางที่หยิ่งยโส ในตัวเขาล่ะก็

จันวิภาสายหัวพูดแบบปากอย่างใจอย่างเปล่าฉันแค่ กําลังคิดว่านายเรียกฉันมาที่นี่ทำไม?

แท้ที่จริงจันวิภากำลังคิดว่าเมื่อครู่นี้ทำไมสุมิตรถึงได้หยุด มือลงแล้วไปสําเร็จความใคร่ด้วยตัวเองคนเดียวมันเห็นได้ชัด ว่าเขาโกรธเสียขนาดนั้นสามารถระบายความโกรธและตัณหา ลงบนร่างกายของตนเองได้แต่เขากลับไม่ทำ

แต่คำพูดเช่นนี้เธอไม่อาจที่จะถามสุมิตรได้อย่างแน่นอนมันเป็นปัญหาส่วนตัวที่ไม่ควรพูดถึงสมองของฉันวิภาหมุน อย่างรวดเร็วพูดอีกนัยหนึ่งเธอก็สนใจปัญหานี้มากเช่นกัน

ตอนนี้สุมิตรสงบนิ่งเป็นอย่างมากไม่ได้โกรธและบ้าคลั่ง เหมือนตอนที่ฉันวิภาเข้ามาแต่ทว่าใบหน้าของเขายังคงย่ำแย่ อยู่ทั่วทั้งตัวเยือกเย็น

เขาไม่ได้ตอบคําถามของนวิภาแล้วเดินตรงไปหยิบไวน์ แดงออกมาจากตู้เย็นหยิบแก้วมาสองใบจากนั้นจึงเดินกลับมา ที่โซฟายกแก้วขึ้นมาหนึ่งใบแล้วเอ่ยถามจันวิภา”จะเอาสักแก้ว ไหม?”

วันที่จันวิภาหายไปสุมิตรมักจะใช้แอลกอฮอล์กล่อมตัวเอง อยู่เป็นประจำตอนนี้การดื่มไวน์เวลางานจึงกลายเป็นเรื่องปกติ ไปเสียแล้ว

จันวิภาขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวเธอไม่ชอบดื่มไวน์ในช่วง เวลากลางวัน

รับรู้การตอบสนองของฉันวิภาสุมิตรจึงอดไม่ได้ที่จะแสดง รอยยิ้มที่เยาะเย้ยออกมาเขาเดินไปนั่งยังฝั่งตรงข้ามของฉัน วิภารินไวน์ให้ตนเองหนึ่งแก้วกวัดแกว่งแก้วไวน์อยู่เล็กน้อย ทันใดนั้นจู่ๆเขาก็ดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วจนหมด

เมื่อเห็นเช่นนี้จนวิภากขมวดคิ้วเสียจนยุ่งเหยิงมีใครที่ไหน เขาดื่มอย่างนี้กันไวน์แดงต้องค่อยๆจิบชิมรสชาติอย่างช้าๆ เป็นเรื่องปกติที่คนรู้อย่างไรก็ตามสุมิตรผู้ที่อยู่ในสังคมคนชั้น สูงกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น
บรรยากาศค่อนข้างหดหูท่าทีของสุมิตรก็ทั้งเย็นชาและไม่ พูดไม่จากันวิภาเอ่ยถามอีกครั้งอย่างอึดอัด สุมิตรนายเรียก ฉันมานั่งดูนายกินไวน์หรือไง”

สุมิตรในไวน์ให้ตัวเองอีกครั้งครั้งนี้เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะ ดื่มสุมิตรไม่ตอบแต่กลับเอ่ยถามฉันวิภาไม่พูดกับฉันล่ะว่าช่วง นั้นเธอหายไปอยู่ที่ไหน?

เดินที่สุมิตรสงสัยว่านราวิชญ์จะพาตัวจันวิภาไปแต่ธน ภาคไปตรวจสอบดูแล้วเขาก็ยืนยันด้วยตนเองจนวิภาไม่ได้อยู่ กับนราวิชญ์ที่นั่น

มีเพียงหนึ่งคำอธิบายสำหรับผลลัพธ์ดังกล่าวนั่นก็คือฉัน วิภายังมีเพื่อนชายอยู่อีกคนหนึ่งเพื่อนชายที่ทั้งสุมิตรและธน ภาคต่างก็ไม่รู้จักคนผู้นั้นเป็นใครกัน? แล้วมีความสัมพันธ์อะไร กับนวิภากันแน่?

นี่คือสั่งที่สุมิตรกังวลเป็นที่สุด

เมื่อได้ยินคำพูดของสุมิตรจันวิภาก็ฉีกมุมปากเธอจะไป ที่ไหนก็ดูเหมือนจะไม่ต้องอธิบายให้สุมิตรฟังนะ?

จันวิภาพูดไปแบบปัดๆ ไม่มีอะไรฉันแค่ไปผ่อนคลาย มิตรนายจะไม่พูดหรอว่านายเรียกฉันมาที่นี่ทำไมฉันจะไปแล้ว ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งคุยเป็นเพื่อนนายนะ

“ไป? คำพูดของฉันวิภาได้ไปกระตุ้นความไม่พอใจของ มิตรเข้าสายตาของเขาเยือกเย็นเผยออกมาให้เห็นถึงการแสดงออกที่เยาะเย้ยแล้วพูด เธอคิดว่าเธอกลับมาครั้งนี้แล้วยัง จะไปไหนได้อีก?”

“นายหมายความว่าไง?” คำพูดของสุมิตรทำให้จนวิภาตื่น

ตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือเขาจะผูกตัวเองไว้ที่ออฟฟิศตลอดชีวิต เขามีสิทธิ์

อะไร?

สุมิตรหัวเราะเยาะเขาไม่มองจันวิภาแม้แต่หางตากวัด แกว่งแก้วไวน์ที่อยู่ในมือแก้วไวน์สะท้อนใบหน้าที่แข็งแกร่ง ของเขาสุมิตรพูดออกมาอย่างช้าๆ ฉันไม่บอกเธอหรอกนับแต่ นี้ไปเธอไม่มีอิสรภาพแล้วเธอจะต้องตามฉันไปทีละก้าวไม่ห่าง ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ในความควบคุมฉันหมดแล้ว”

สำหรับคนที่รักอิสรเสรีคำพูดของสุมิตรได้ลำเส้นจันวิภา อย่างไม่ต้องสงสัยพอคำพูดของเขาสิ้นสุดลงในวิภาก็โกรธเข้า ให้เสียแล้ว

จันวิภาลุกยืนขึ้นมาอย่างรวดเร็วจ้องมองสุมิตรด้วยความ โกรธแล้วพูดขึ้นมา นายมีสิทธ์อะไรที่จะมาตัดสินชีวิตของฉัน ตามใจชอบ! เท่าที่ฉันรู้ฉันกับนายไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไร กันเลยแม้แต่น้อย?”

“ความสัมพันธ์สร้างเรื่องขึ้นมาเองก็ได้แล้ว สุมิตรพิง โซฟาอย่างเกียจคร้านมือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์เอาไว้ส่วนมืออีก ข้างหนึ่งเท้าคางเอาไว้ริมฝีปากยิ้มขึ้นมาอย่างเยาะเย้ยการ แสดงออกช่างกวนบาทาคนที่เห็นจริงๆ
สุมิตรพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจฉันเคยให้อิสระแก่เธอไป แล้วแต่เธอไม่รู้จักรักษาจากนี้ไปเธอเป็นของฉันจะไปไหนไม่ได้ ทั้งนั้นชั่วชีวิตของเธอต้องอยู่ข้างกายฉันตลอดไป! 2

“นาย! “จันวิภาโกรธเสียจนกระทืบเท้า นายนี่มันไร้ยาง อายจริงๆ!

“ใช่ฉันมันไร้ยางอายแล้วทำไม?”สายตาที่คมกริบของสุ มิตรจ้องมองไปทางจันวิภา

“นวิภาโกรธเสียจนพูดไม่ออกเธอปฏิเสธที่จะฟังคำ พูดเมื่อครู่นี้ของสุมิตรที่ให้อยู่ข้างกายเขาอย่างเชื่อฟัง

แม้ว่าเขาจะพูดว่าต้องการให้เธออยู่กับเขาไปตลอดชีวิต ขั้นตอนนี้ถ้าเธอไปจนวิภาอยากจะดูว่าเขาจะใช้วิธีการใดที่จะ รั้งตัวเธอเอาไว้!

คิดไปพลางจันวิภาก็ก้าวเท้าเดินไปทางประตูเธอเดินไป อย่างรวดเร็วเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็วจนสุมิตรไม่อาจที่จะ เดินตามทัน

อย่างไรก็ตามสุมิตรที่อยู่ทางด้านหลังก็ได้จิบไวน์แดง อย่างเยือกเย็นจ้องมองแผ่นหลังของจันวิภาที่รีบร้อนอย่างแฝง ไว้ด้วยความเยาะเย้ย

จันวิภาพึ่งจะเปิดประตูก็ได้เห็นบอดี้การ์ดชุดสองคนยืน เฝ้าอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นเธอออกมาก็รีบขวางกั้นไม่ให้เธอออก ไปทันที
เมื่อเห็นฉากเหตุการณ์เช่นนี้จนวิภาก็ได้ตกตะลึงเข้าไป จริงๆเธอจ้องมองบอดี้การ์ดรูปร่างตัวสูงใหญ่ทั้งสองคนที่ยืน อยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงและหันกลับมามองสุมิตรที่นั่ง อยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าสบายอารมณ์สายตาคู่นั้นราวกับกำลัง พูดว่าเธอก็ไป

ประตูมีบอดี้การ์ดสองคนขวางเอาไว้คราวนี้จนวิภาอยาก จะหนีก็หนีไม่ได้เสียแล้วเธอปิดประตูด้วยอารมณ์ที่เดือดปุดๆ เดินกลับมาที่โซฟาอย่างไม่พอใจจ้องมองสุมิตรลงมาแล้วพูด ขึ้น นายหมายความว่าไง?ลักพาตัวฉัน?

“ไม่ได้ลักพาตัวเธอ” สุมิตรหัวเราะเยาะเขาสะบัดมือแล้ว พูด ฉันอยากที่จะครอบครองเธอฉันเคยพูดไปแล้วว่าเธอเป็น ของฉัน”

“นายนายนี่มันวิปริตจริงๆ! “จันวิภาอดไม่ได้ที่จะก่นด่า

จันวิภาที่ด่ากราดอยู่ตรงหน้าการตอบสนองของสุมิตรมี เพียงแค่จิบไวน์ไปหนึ่งอีกทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วจูบจนวิภา ไวน์แดงที่อยู่ในปากเทไหลใส่ปากเธอ

เมื่อเห็นจันวิภาจู่ๆก็ไอไม่หยุดเพราะสำลักไวน์ความ โกรธของสุมิตรจึงสลายหายไปหน่อยหนึ่งเขาหัวเราะแล้ว พูด จากนี้เธอจะด่าฉันว่าอะไรฉันก็จะทำอย่างนั้นออกมาให้เธอ วันนี้เป็นเพียงการสาธิตเธอจำเอาไว้ให้ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ