ตอน243เขาจะฟื้นความทรงจำ แล้วหรือไม่(3)
ตอนที่243
เขาจะฟื้นความทรงจําแล้วหรือไม่ (3)
“ได้!” ธนภาคก็ไม่ชักช้า เขาพยักหน้า มองไปทางรถพยาบาลและพูดอีกครั้ง “คุณตามรถพยาบาลไปก่อน เดี๋ยวผมตามไปทีหลัง”
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้วก็กลับไปที่รถ และสตาร์ตรถออกไป จันวิภาเองก็รีบก้าวรวดเร็วดั่งโผบินไป ที่รถเช่นกัน
คําคืนล่วงเลยมาเรื่อยๆ ตอนที่มาถึงโรงพยาบาล
ในโรงพยาบาลมีคนไม่กี่คน มีแต่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในหน้าที่ แต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้ป่วย ก็รีบผลักรถคันอื่นออกไปอย่างรับผิดช
อบ
หมอและพยาบาลดำเนินการอย่างรวดเ ร็วเพื่อนำสุมิตรเข้าห้องผ่าตัด จันวิภาได้แต่รออยู่ข้างนอกห้องผ่าตัด
อย่างจำยอม
เธอยืนอยู่ได้ไม่นานธนภาคก็มาถึง ทั้งคู่นั่งอยู่นอกห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจ จ่อเฝ้ารอผลจากหมอ
เพราะสถานการณ์พิเศษ
ธนภาคจึงยังไม่ได้บังคับถามจันวิภาถึง สาเหตุของอาการป่วยกะทันหันของสุมิ
ตร
ถึงแม้ว่าเขาจะบอกเรื่องนี้กับจันวิภามา นานแล้ว แต่เขาก็เตรียมใจเอาไว้ ว่าสุมิตรจะต้องมีสถานการณ์แบบนี้ในวั นนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ ผู้ชายที่ฉลาดและขี้สงสัยคนนั้น จะอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าจันวิภาเป็นใคร
แต่เขาเข้าใจสุมิตร
มันมีบางอย่างที่จะบังคับให้นึกถึงสิ่งที่เ กีดขึ้นเมื่อหกปีก่อน
ตั้งแต่รู้ว่าจันวิภาฟื้นฟูใบหน้าเดิมมาปร
ากฏต่อหน้าสุมิตร
ธนภาคก็เตรียมใจไว้แล้ว
แต่ถึงเตรียมตัวไว้แล้ว
เขาก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับเพื่อนของเขา
คำเตือนของแพทย์ยังคงก้องอยู่ในโสต
ประสาทเสมอ เขายังไม่สามารถลืมมันได้
ระหว่างนั้น บรรยากาศค่อนข้างหนัก ไม่มีใครพูดอะไรเลยสักประโยค รออย่างใจจดใจจ่อหน้าประตูห้องผ่าตั ดที่มืดมน
รอเป็นชั่วโมง
ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็มืดลง แต่ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย มันใช้เวลาหลายชั่วโมงสำหรับการผ่าตั ดปกติ และกำลังออกมาเร็ว ๆ นี้
สุมิตรโอเคแล้วใช่ไหม….
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก หมอถอดหน้ากากและถุงมือในขณะที่เ ดินเข้ามาตรงหน้าของจันวิภาและธนภา ถอนหายใจแล้วพูดว่า
“ปัญหาของเพื่อนพวกคุณคือน่าจะมีอยู่ หลายปีมาแล้ว เขาสูญเสียความทรงจำ
แถมยังทิ้งลิ่มเลือดก้อนหนึ่งเอาไว้เป็น ปัญหาภายในเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถ ยนต์
ถึงแม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประ แต่ตราบใดที่ซีรีเบลลัมทำงานหนักเพร
จำวันปกติ
าะภาวะทางอารมณ์….
“พูดแบบปกติก็คือ
การบังคับให้นึกถึงความทรงจำบางอย่ าง อาการเช่นไมเกรนจะปรากฏขึ้น มันเป็นเพราะลิ่มเลือดที่ถูกกดเข้าไปใน ก้านสมอง
ที่จะนำให้มาสู่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้….
“คุณหมอครับ สิ่งที่คุณพูดน่ะพวกเรารู้ กรุณาพูดให้ตรงประเด็น เพื่อนของผมตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง”
ธนภาคขัดจังหวะการอธิบายของหมออ
ย่างหงุดหงิด
“ได้” หมอถอนหายใจ
เขาส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง “เพื่อนของคุณทางเราไม่มีวิธีผ่าตัดให้
ได้
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดในร่างกา ยมนุษย์
ทุกเส้นประสาทในนั้นสำคัญมาก โดยปกติแล้วเราไม่กล้าผ่าตัดง่ายๆ
เพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป….เสี่ยงมาก พูดง่าย ๆ ก็คือ อาการป่วยของเพื่อนของคุณไม่มีอะไร ที่ทางเราสามารถทำได้
มันเสี่ยงเกินไป ถ้าต้องผ่าตัด อาจจะส่งผลอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่ามันยากที่จะเอาลิ่มเ ลือดออกจากตำแหน่งนั้น………..
เมื่อพูดจนถึงท้ายประโยค หมอก็ทนไม่ได้ที่จะพูดต่อไป
จึงสรุปความ
“ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือจากทางเรา และสถานการณ์ในตอนนี้ก็ได้รับการแก้ ไขแล้ว แต่พวกคุณต้องจำเอาไว้ ห้ามให้เขาได้รับการกระตุ้นอีก ไม่อย่างนั้นในครั้งต่อไปจะไม่สามารถช่ วยเขาได้อีกแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะ…”
หมอคนนี้อาจจะเป็นคนพูดมาก
จันวิภากับธนภาคได้ฟังบทเรียนของเข าค่อนข้างนานก่อนที่จะยอมปล่อยพวกเ ขาไป สุดท้ายก็พูดว่า
“เขาได้ถูกย้ายไปยังห้องวีไอพีตามที่พ วกคุณต้องการแล้ว พวกคุณไปดูเขาเถอะ”
“ครับ ขอบคุณครับคุณหมอ” ธนถาคพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ดึงจันวิภาไปยังห้องพักผู้ป่วยเพื่อไปดู สุมิตร
สิ่งที่หมอเพิ่งพูดมันฝังอยู่ในหัวของจัน
วิภา
ทำให้เธอใจเต้นแรงอย่างหวดกลัว โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับสุมิตร
ไม่อย่างนั้นเธอก็จะกลายเป็นผู้ร้าย
สิ่งที่สุมิตรขาดหายไปคือความทรงจำ ทำไมถึงสูญเสียความทรงจำ และทำไมต้องบังคับให้นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้ นเมื่อหกปีก่อน ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ จันวิภารู้ดี ดังนั้นเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่ว ยคิ้วขมวดแน่นเข้าด้วยกัน และริมฝีปากของสุมิตรก็ไม่มีสีเลือดเล
สีหน้าซีดเซียว
ย
จันวิภาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดในหัวใ
จ
ตอนนี้เธอก็หลงลืมคำสาบานที่ตัวเองใ
ห้ไว้ไปนานแล้ว เธอเข้าไปที่เตียงช้า ๆ
ยื่นมือออกไปคลายคิ้วที่ขมวดย่นของสุ
มิตร
รอจนในที่สุดเขาไม่ทำหน้าหน้านิ่วคิ้วข มวด จันวิภาก็ชักมือกลับ และมองเขาที่กำลังป่วยด้วยท่าทีนิ่งเงี
ຍນ
นี่เป็นครั้งแรกที่จันวิภาได้เห็นท่าทางที่ เงียบสงบของสุมิตร
โดยปกติเขาไม่ใช่คนหยิ่งยโสบ้าอำนา
จ
แต่เป็นเพราะการทรยศหักหลังและควา
มชั่วร้าย
ในสายตาของจันวิภานั้นเขาเป็นปีศาจโ หดร้าย ตอนนี้เห็นเขานอนเงียบๆ เหมือนเด็ก
ในทางตรงกันข้ามคือรู้สึกไม่คุ้นเคย
ธนภาคยืนอยู่ข้างหลังจันวิภาเงียบๆ เขามองดูการเคลื่อนไหวของจันวิภาอย่ างครุ่นคิด ก่อนที่จะพูดออกมา “จันวิภา คุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีไหม ตอนนี้มันดึกแล้ว คุณเป็นผู้หญิง มันไม่ดีที่จะอยู่ดึก”
“ไม่เป็นไร” จันวิภาส่ายหน้า
เธอมองสุมิตรและพูดโดยไม่หันกลับม า “คืนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่กับเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ฉันถึงจะกลับไป คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ มันคงจะดีกว่าถ้ามีฉันอยู่ที่นี่”
“ได้ ระวังตัวด้วย
ถ้ามีอะไรก็โทรหาผม” ธนภาคพยักหน้าให้ เขาเดินไปข้างๆ จันวิภา ตบไหล่พลางพูด
มันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นจันวิภามีความ คิดริเริ่มที่จะดีต่อสุมิตร โดยธรรมชาติธนภาคมีความยินดี
ในใจของเขาค่อนข้างผ่อนคลายลง คราวนี้หากพวกเขาออกทริปไปที่เมือง B ความสัมพันธ์คงพัฒนาไปได้สวย เช่นนี้แล้ว
โอกาสที่พวกเขาจะคืนดีกันก็มีความเป็ นไปได้มากขึ้นแล้วใช่ไหม เมื่อเป็นเช่นนี้
ธนภาคก็ไม่อยู่ที่นี่เป็นหลอดไฟ เขายืนอยู่สักพักแล้วออกจากโรงพยาบ าลไป
จันวิภาไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลย เธอเอาแต่เพ่งมองไปที่สุมิตร ในหัวใจเต็มไปด้วยความรู้สึก
แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่พบ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่สุมิตรมีพื้นที่มากมายในจิตใจของเธอ
สายตาของเธอจะย้ายไปทางสุมิตรโดย ไม่รู้ตัว ในบางครั้งที่เขายิ้มหรือหัวเราะ ทั้งหมดต่างดึงดูดความสนใจของเธอ
มันเป็นสิ่งที่เธอไม่รู้ตัว
จันวิภาไม่เคยมีความรัก
โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้ตระหนักถึงควา มรู้สึกของตัวเองเลยว่ามันเรียกว่าอะไร และควรจัดการกับมันอย่างไร
จันวิภามองสุมิตรอยู่เงียบๆ ยื่นมือออกไปจับมือเย็นชืดของเขา หวังว่าเขาจะตื่นขึ้นมา
ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกตลอดทั้งคืน
วันต่อมา
จันวิภาถูกปลุกด้วยสิ่งที่ไม่สามารถอธิบ
ายได้บนศีรษะ
เธอต้องการที่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่สิ่งนั้นก็เคลื่อนที่ไปพร้อมกับเธอ แล้วเธอก็เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งพบว่าสุมิตรได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว ตอนนี้ยังเอื้อมมือมาลูบศีรษะของเธอ
เมื่อเห็นเธอตื่น ริมฝีปากของสุมิตรก็บังเกิดรอยยิ้ม พูดด้วยเสียงต่ำว่า “คุณตื่นแล้ว”
“คุณ….คุณ….”
ชั่วครู่นั้นจันวิภาประหลาดใจจนไม่รู้ว่าจ ะพูดอะไรออกไป เธอพบว่ามือของตัวเองยังจับมือสุมิตร อยู่ จึงชักมือกลับอย่างตระหนก และพูดออกไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ในที่สุดคุณก็ฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้าง ยังปวดศีรษะอยู่ไหมคะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ