ตอน 371 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน
ตอนที่ 371 ดินเนอร์ใต้แสงเทียน
แต่สุมิตรกด้วย แต่ไหนแต่ไรสุมิตรที่ไม่เคยสุภาพมาก่อน สามารถมาขอแต่งงานกับจันวิภาแบบนี้ได้ สถานการณ์ตอนนี้ ในสายตาผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนอิจฉากันทั้งนั้น
“จันวิภา แต่งงานกับผมได้ไหม
สุมิตรเปิดกล่อง ในนั้นคือแหวนเพชรที่ระยิบระยับ วัน
วิภายอมรับว่ามันสวยมากจริงๆ เธอก็อยากรับมันมา
สุมิตรเห็นแววตาของฉันวิภาแล้วในใจก็ชอบ
ว่าการขอแต่งงานของเขาสําเร็จแล้ว
เขาคิด
เวลานี้ผู้คนก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ พูดเสียงดังว่าให้ตกลงยอม
แต่งงานกับสุมิตร
จนวิภากลับพูดว่า “ฉันยอมรับคำขอโทษของคุณ แต่เรื่อง
แต่งงานฉันขอปฏิเสธ
ตอนนี้เสียงที่ตะโกนก็เงียบลงไป ผู้คนรู้สึกอึ้ง ก่อนหน้านี้
บรรยากาศยังดีอยู่เลยคิดว่าฉันวิภาจะไม่ทะเลาะและยอมรับ คำขอในครั้งนี้
โดยเฉพาะนิเวศน์ ที่คอตกลงมา จริงๆแล้ววันนี้การเจอของสุมิตรเขาก็มีส่วนร่วมในการวางแผน ตอนที่สุมิตรรู้สึกว่า ไม่มีหน้ามาเจอจนวิภา นิเวศน์จึงได้คิดหาหนทางและไปหา มิตรด้วยตัวเอง พ่อลูกทั้งสองคนปรึกษาพูดคุยกันอยู่นานมาก
เติมทีสุมิตรไม่พร้อมที่จะเจอหน้าในวิภา เขาไม่ได้จะทอด ทิ้งแต่เป็นเพราะว่าคิดว่าตัวเองเคยดื้อรั้นและโหดเหี้ยมมาก ไม่คู่ควรกับจันวิภาอีกต่อไปแล้ว
เวลาและแรงใจที่นิเวศน์ใช้ไปนานมากทั้งร้องไห้ทั้ง ก่อกวน ทั้งโดนขู่ทั้งสั่งสอน ในที่สุดก็พูดโน้มน้าวสุมิตรได้ และสองคนพ่อลูกก็วางแผนการขอแต่งงานครั้งนี้ร่วมกันอย่าง ตั้งใจ
ตัวนิเวศน์คิดว่าเข้าใจความรู้สึกของฉันวิภา เขารู้ว่าฉัน
วิภาษีสุมิตรอยู่ในใจ ปกติแล้วจันวิภารับได้มานานแล้วถึงจะ ถูก จู่ๆจันวิภาก็รีบพานิเวศน์มาอย่างรีบร้อน
“แม่ไม่ควรจะเสียเวลาอีก เฮ้อ ผู้หญิงนะผู้หญิง” นิเวศน์ ส่ายหน้าไม่หยุด
เรื่องแบบนี้ลึกๆแล้วธนภาคก็รู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดของ นิเวศน์ เขาคิดเหมือนกันว่าจันวิภาต้องการจะทำอะไร ก่อน หน้านี้ที่ขอร้องเขาว่าอยากจะเจอสุมิตร แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธ คําขอแต่งงาน
ไม่แน่นอนเลยจริงๆ
สุมิตรได้ค่าตอบแบบนี้ก็ไม่ตอบสนองอะไร เพียงแค่รอคำอธิบายของนวิภาอย่างเงียบๆ
จนวิภายิ้มแล้วพูดว่า “คุณคิดว่าผู้หญิงอย่างฉันมีอะไรดี ให้ตามจีบเหรอ ขอแต่งงานก็ต้องแสดงออกมา จู่ๆมาแบบนี้ คุณเห็นฉันเป็นอะไร
ผู้คนฟังถึงตรงนี้ก็ล้มเลิกไป เพราะเดิมที่มันเป็นการปรับ
ตัวซึ่งกันและกันระหว่างคนสองคน
สุมิตรไม่ได้พูดต่อ เพราะที่จันวิภาตอบก็เหมือนเป็นการ ตอบรับคําขอแต่งงานของเขา เพียงแต่รูปแบบแตกต่างกัน เท่านั้นเอง
เขาลุกยืนขึ้น ยิ้มและหันหน้าไปที่ผู้คนแล้วพูดว่า
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของทุกคน แต่วันนี้เป็นการนัด กันของผมและจันวิภา พวกคุณไม่ต้องเป็นหลอดไฟให้เราแล้ว ล่ะ”
แม้ว่าจะเป็นการพูดเปรียบแต่ก็มีมารยาท แต่กลิ่นอาย
ของสุมิตรยังคงอยู่ในนั้น และอยากให้คนที่กระตือรือร้นมา
ช่วยเขาถอยไปน่าจะดีกว่า
แผนของนิเวศน์ครั้งนี้สำเร็จแล้ว ก่อนหน้านี้ที่วิ่งไปหาและ พูดกับสุมิตรว่า “พ่อ ผมคนนี้ก็รู้สึกโดดเดี่ยว พ่อกับแม่ต้องจับ ช่วงเวลานี้ไว้แน่นๆนะ”
สุมิตรพูดว่า “เรื่องนัดมาเร็วอย่างนี้เป็นเพราะเด็กน้อย ข้างๆนี้
นิเวศน์กลับชูนิ้วชี้แล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ ไม่ อันนี้ผมจะไม่พูด ผมอยากให้พ่อกับแม่รีบๆมีน้องสาวให้ผมเร็วๆ
ในภาผ่านมาได้ยินการสนทนาของสุมิตรและนิเวศน์ ใน ใจรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้นิเวศน์ต้องมีส่วนร่วมแน่ๆ อีกทั้งตอนที่สุ มิตรไม่มาเจอหน้าตัวเอง นิเวศน์รู้เรื่องนี้แน่นอน
เธอบ่นนิเวศน์ที่กำลังมองมาที่ตัวเองว่าทำให้ตัวเองเจ็บ ปวดมาครึ่งเดือน แต่ครั้งนี้เขากลับพูดมาแค่สองประโยค จัน วิภาเห็นแล้วต้องไปให้บทเรียนและสอนนิเวศน์สักหน่อย
สุมิตรที่ยิ้มอยู่นั้นก็ดึงจนวิภามากอดไว้ในอ้อมแขนตัวเอง ให้รับรู้ความรู้สึกก่อน ต่อมาเปลี่ยนใบหน้า หันหน้าไปมองที่ นิเวศน์และธนภาค และพูดว่า “พวกคุณไม่รู้เหรอว่าฤดูใบไม้ ผลมีค่าเท่ากับหนึ่งพันดอลลาร์
นิเวศน์และธนภาคก็วิ่งออกไปนอกร้านอาหาร
ร้านอาหารที่ใหญ่โตตอนนี้เหลือแค่เพียงคู่รักหนึ่งคู่ แสง
ไฟก็ยังคงอบอุ่น เสียงเพลงก็ยังดังอยู่เรื่อยๆ สุมิตรจับเอวยก ตัวจันวิภาขึ้น
จันวิภารู้สึกอายมากจึงหันหน้าหนี พูดว่า “ฤดูใบไม้ผลิ อะไร คุณไม่อยู่ที่นี่สักหน่อย
สุมิตรกระชับเอวของฉันวิภา พูดอย่างยิ้มๆว่า “คิดอะไร อยู่ แมวป่าตัวน้อยของผม อยู่ร้านอาหารตะวันตกก็ต้องทาน อาหารตะวันตก หรือว่าคุณอยากทานอย่างอื่น
จนวิภารู้ว่าตัวเองคิดผิด ทำให้น่าอายมากกว่าเดิม
สุมิตรพากันวิภามานั่งเก้าอี้ ตัวเองก็ไปนั่งฝั่งตรงข้ามของ
เธอ
ทั้งหมดนี้ถูกวางแผนไว้เป็นอย่างดี ตอนที่สองคนนั่งบน เก้าอี้ แสงไฟภายในร้านอาหารก็ดับลง
จากนั้นสุมิตรก็ใช้มือจุดเทียน การกระทำของเขาอ่อน
โยนเลยต้องทำช้าๆ ทำให้ฉันวิภารู้สึกเหมือนดูหนังเก่าของ ศตวรรษทีแล้ว
พนักงานก็มาเสิร์ฟไวน์และอาหาร จากนั้นก็ถอยออกไป
อย่างเงียบๆ
นอกจากนี้เทียนที่สว่างอยู่ สิ่งรอบตัวทั้งหมดดูสลัวมาก โดยเฉพาะตอนที่แสงไฟของเทียนส่องใบหน้าอันหล่อเหลาของ สุมิตร ก็ยิ่งดูสมจริงขึ้นไปอีก
“เมื่อก่อนพวกเราไม่เคยมาดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่เงียบ สงบแบบนี้เลย เป็นไงบ้าง คุณไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เห
รอ”
เห็นในวิภาดูมึนงง สุมิตรจึงถามอย่างเป็นห่วง
จันวิภาส่ายหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า “จริงๆแล้วฉันก็คิดถึงเรื่อง ราวที่ผ่านไปหลายเรื่อง” เธอพูดเสร็จก็หยุดพูด มองไปที่ ดวงตาของสุมิตรอย่างสดใสและลึกซึ้ง หลังจากผ่านไปสักพัก ก็พูดต่อว่า “มันช่างตรงข้ามกับอดีตจึงทำให้ฉันรู้สึกเหลือเชื่อ
“ฉันว่ามันคือโชคชะตา” จันวิภายิ้มแล้วพูดอธิบายต่อ
สุมิตรยักไหล่ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ถ้ารู้เร็วกว่านี้ว่าคุณคือ
แมวป่าตัวน้อย เราสองคนก็คงจะไม่มีอดีตอันน่าเจ็บปวด สุมิตรยื่นมือไปเทไวน์ สองคนชนแก้วด้วยกัน ในระหว่าง
การยิ้มและความรัก เสียงแก้วไวน์ที่ชนกันก็ดังขึ้นมา
จันวิภาจริงๆแล้วตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ ใจยังเต้น แรงตลอดเวลาอย่างไม่รู้สาเหตุ จึงอยากดื่มไวน์มากเพื่อสะกด อารมณ์ไว้
ทันใดนั้นสุมิตรกลับหยุดเธอแล้วพูดว่า “จันวิภา เดี๋ยว
แววตาจันวิภามีแต่ความสงสัย แล้วถามว่า “อะไรเหรอ
ก่อน
หรือว่าคุณกลัวฉันเมาเหรอ”
ดวงตาจันวิภาทั้งสองข้างยิ้มจนตาปิดเหมือนพระจันทร์ การดินเนอร์ใต้แสงเทียนดูแล้วยิ่งเพิ่มความโรแมนติกเข้าไป อีก
สุมิตรยิ้มอย่างจริงใจแล้วพูดว่า “ลิมิตรไวน์ของคุณผมยัง จำมันได้ แล้วถ้าวันนี้คุณอยากเมาก็ไม่เป็นไร
“งั้นคุณห้ามฉันทำไม” จันวิภารู้ว่าสิ่งที่สุมิตรพูดก็คือเรื่อง ในครั้งนั้นก่อนหน้านี้ ตอนนั้นสุมิตรทำให้คนหลงไหลตัวเอง เธอในตอนนี้ยังจำกันได้ ในใจก็รู้สึกไม่มีความสุขแล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ