พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน487เพื่อนร่วมทางที่ไม่คาดคิด



ตอน487เพื่อนร่วมทางที่ไม่คาดคิด

ตอนที่487 เพื่อนร่วมทางที่ไม่คาดคิด

มีธุระอะไรต้องไปทำเห็นได้ชัดวามก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นแหล่ะ

จนวิภาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วย ความขมขื่น เห้อคงจะยังโกรธอยู่หล่ะสินะ

“อย่ากังวลไปเลยผมจะไปปลอบเธอเอง

“งั้นขอฝากพัชรีไว้กับคุณด้วยนะหากไว้จะติดต่อไปฉันจะ ส่งโปสต์การ์ดไปให้เธอเอง

“โอเคเดี๋ยวจะบอกเธอให้เอง

เธอหันสายจาไปที่นิเวศน์จันวิภาลูบหัวเขาเบาๆ นิเวศน์ แลตัวเองดีๆนะลูก”

“หม่ามีไม่ต้องเป็นห่วงคุณไปพักผ่อนได้อย่างสบายใจเลย ถ้าคิดถึงผมกับป่าปีก็กลับมาหาได้นะครับ

“อื้มได้สิ”

สายตาของจัยวิภาสอดส่องไปทั่วราวกับกำลังหาร่างของ

ใครบางคน
“หม่ามีไม่ต้องมองหาหรอกครับวันนี้ป่าเขามีคุยธุระกับ ลูกค้าไม่มีเวลามาสนามบินเลย

“มะหม่าไม่ได้อยากจะมองหาป่าสักหน่อยจนวิภา หยิบกระเป๋าของตนขึ้นมาทำหน้าไม่ถูกก่อนจะพูด”งั้นหม่ามีไป กอนนะ เดินทางปลอดภัยครับ

สองมือชูขึ้นโบกก่อนที่ร่างของจันวิภาจะเดินลับหายไป

เห็นหลังไวๆของวันวิภาธนภาคก็หันหน้ามากระซิบถาม ข้างหูของนิเวศน์ ป่าแกจริงๆแล้วเขาได้มามั้ยหล่ะ?”

“ผมก็ไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้วเหมือนกันไม่ค่อยจะ แน่ใจเท่าไหร่”

“มันพนันกันมั้ยหล่ะเดิมพันครั้งนี้ใช้หุ่นยนต์เป็นเดิมพันถ้า

แกชนะฉันจะออกเงินทุนให้เองแต่หากแกแพ้แกจะต้องทำหุ่น

ยนต์คนให้ฉัน

“ได้! “เขาตอบรับโดยไม่คิด ผมเดาว่าเขาต้องอยู่มุมใด มุมหนึ่งของสนามบินนี่แหล่ะ

“นี่เป็นคำตอบที่ฉันคิดไว้ทำไมแกถึงมาปล้นไปหล่ะ

“เขาเรียกว่าให้พูดก่อนได้ก่อนฮ่าๆๆลุงภาคยอมรับความ พ่ายแพ้ไหมหล่ะ?”

ธนภาคได้แต่ส่ายหน้าพูดด้วยความโศก ยอมทั้งพ่อทั้ง ลูกเลยจริงๆ”
“เห็นได้ชัดว่าคุณออกจากสนอกสนใจหุ่นยนต์นี่แค่คิดหา ที่ลงก็เท่านั้น”

“เงินทุนที่ว่าก็ไม่มีแล้วมั้ยหล่ะตอนนี้ต้องให้คนช่วยอีก

ซัก3-4คน”

สองคนเดินไปคุยไปด้วยกัน โดยมีใครคนหนึ่งที่มองมาจา กมุมหนึ่งไม่ได้ขยับไปไหนมาเป็นเวลานานแล้ว

พอเอาของวางเรียบร้อยแล้วจันวิภาก็นั่งในที่นั่งของตน พลางหยิบเอาหนังสือขึ้นมาอ่าน

“ขอโทษนะคะลุกให้นิดนึงได้มั้ยเอ่ย?

เสียงนั้นดังขึ้นอย่างร่างเริงอยู่เหนือหัวของจันวิภาทำเอา เธอส่ายหน้าไปหัวเราะไป

เป็นไปได้ยังไงเนี่ยตัวเธอมาอยู่ถึงที่นี่เสียงของพัชรีก็ยัง ตามเธอมาได้อีกหรอ

ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าเมื่อไหร่พัชรีจะหายโกรธเธอซักที ก็มีมือของใครคนหนึ่งเอื้อมมาสัมผัสที่ไหล่ของเธอ

“คุณคนสวยรบกวนหน่อยนะที่ของฉันอยู่ข้างใน

เสียงนี้นี่มันชัดเจนเกินกว่าจะเป็นความฝันนะเนี่ย

เธอยกหัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพบกับใบหน้ายิ้มแย้มที่คุ้น เคยเสียงของจันวิภาก็สูงขึ้นอย่างฉับพลัน
“พัชรีทำไมมาอยู่ที่นี่ได้หล่ะ?”

เป็นเธอจริงๆด้วยแต่นี่มันอะไรกันเนี่ย

พัชรียักไหล่เบาๆดาวกับว่ามันไม่ได้สาหรักสำคัญ อะไร เครื่องบินนี้ไม่ได้เป็นของแกคนเดียวนี่ทำไมฉันจะนั่งไม่ ได้?”

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยแกก็รู้ว่าฉันหมายถึงอะไร

“อย่าพูดอย่างนั้นอ่ะเนี่ยหลบก่อนๆ ให้ฉันนั่งก่อน เธอเบียดจันวิภาเข้ามานั่งที่ที่ของตัวเองก่อนจะยกมือปรับ

ช่องแอร์

จันวิภาจับตัวพัชรีให้หันมองเธอก่อนจะขมวดคิ้วถาม พัชรี เธอหมายความว่ายังไงกันแน่รีบพูดออกมาให้มันชัดๆเลยนะ

“ก็ไม่ได้หมายความว่ายังไงหรอกฉันก็แค่รู้สึกเบื่อเลย อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศดูสักหน่อย

“เที่ยว นี่มันตามจับตามองดูฉันชัดๆคเจ้าคนทรยศ

“ฉันไม่ชอบให้พูดแบบนั้นเลยนะอะไรคือจับตามองนี่มัน ไปเที่ยวด้วยกันต่างหากความคิดแบบนั้นแกไม่คิดว่ามันดูแคบ ไปหน่อยหรอ?”

“ฉัน…”

“นี่แล้วฉันก็มีไกด์ด้วยไหนให้ฉันดูว่าเดี๋ยวลงเครื่องแล้ว เราจะไปเที่ยวไหนกันดี
พอพูดจบพัชรีก็หยิบหนังสือจากมือจันวิภาไปดูอย่าง

สนใจ

ยัยนี่นี่นะ…..

เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาธนภาค

“ฮัลโหลธนภาครีบมาเอาผู้หญิงของคุณกลับไปที

“ขอโทษทีนะแต่พัชรีเธอตัดสินใจแล้วฉันโน้มน้าวเธอไม่

ได้แล้วหน่ะสิ”

“คุณไม่ต้องโน้มน้าวเธอแค่เอาคนมาพาตัวเธอไปก็ พอแล้วฉันจะบอกให้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณกำลังยอมให้แฟน สาวหนีเที่ยวไปไกลเป็นพันๆไม่เลยนะ

“อะไรนะพูดว่าอะไรนะ?

“อย่ามาบอกว่าสัญญาณไม่ดีเลยนะคุณได้ยินมันแน่ๆ

“คุณผู้หญิงคะขอโทษด้วยนะคะเครื่องบินกำลังจะขึ้นแล้ว รบกวนปิดเครื่องมือสื่นสารด้วยค่ะ

ยังไม่ทันที่จันวิภาจะพูดจบปลายสายก็กลายเป็น เสียง“ตุ๊ดๆๆ แล้ว

ผีเปรตเอ้ยพวกนี้นี่คือวางแผนกันมาดีแล้วแน่ๆ

จนวิภามองไปที่หน้าตาอินโนเซนส์ของพัชรีตาเขียวปัดพัช รีชี้ไปยังโทรศัพท์ของเธอก่อนจะพูดมามองฉันทำไมปิดโทรศัพท์แกซะสิ พัชรีอย่ามาเล่นตลกได้มั้ย

“นี่มันทำไมแกถึงได้หลงตัวเองอะไรขนาดนี้เนี่ยฉันก็แค่ อยากไปเที่ยวโอเคมั้ย?”

“งั้นลงเครื่องก็ต่างคนต่างไหปเลยนะ

ต่างคนต่างไปงั้นหรอ? จะเป็นงั้นได้ไงพัชรีเชียวนะให้ โอกาสเธอสักหน่อยเถอะจันวิภาแกหนีฉันไม่พ้นหรอก!

เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินนานาชาติมิลาน

จันวิภาลากกระเป๋าเดินทางสองใบเดินออกไปจากสนาม บินก็ออกไปหาคนขับรถที่เธอดีลเอาไว้

คุยด้วยประโยคเบสิคไม่กี่คำเธอก็เอากระเป๋ายัดใส่ไปไว้

หลังรถ

ขณะที่คนขับกำลังช่วยอยู่นั่นเองก็หันไปถามฉันวิภา คุณ จันวิภานั่นใช่เพื่อนของคุณรึเปล่า?”

จันวิภาหันซีรษะกลับไปก็เห็นว่าพัชรีกำลังยืนอยู่ด้านหลัง ของเธอกำลังจะเอากระเป๋ามาใส่ท้ายรถเช่นเดียวกัน

จันวิภาจึงยกมือขึ้นขวางและพูดด้วยเสียงที่เย็นชา ไม่ใช้ พูดกันรู้เรื่องแล้วหรือไงลงเครื่องแล้วก็แยกกันไปแล้วนี่แกทำ อะไรหน่ะ?”

“ฮ่าๆ พัชรีหัวเราะออกมาสองที่ก่อนจะพูดทำไมเธอถึงได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนี้หล่ะนี่ฉันตัวคนเดียวอยู่ในที่แปลกๆ แบบนี้แถมเงินซักแดงเดียวก็ยังไม่มีถ้าไม่ไปกับแกสงสัยฉันคง ต้องไปนอนข้างถนนแล้วหล่ะมั้ง?

ในขณะที่พูพัชรีก็เอากระเป๋าเงินที่ว่างเปล่าให้จนวิภา “พัชรีนี่เธอร้ายมากัลยนะ”

“เรื่องนี้ต้องโทษแกเลยนะฉันต้องรีบออกมาเนี่ยขนาดเงิน ฉันก็ยังลืมเตรียมเลยเนี่ย

มันจะลืมได้ยังไงก่อนยัยคนนี้นี่แต่งเรื่องชัดๆ

จันวิภาหัวเสียแต่ก็ไม่มีทางเลือก

ตอนที่เห็นพัชรีจันวิภาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีแปลกๆ ถ้ามีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วยแล้วการที่เธอมาเรียนเสริม

คงจะ…บันเทิงมากทีเดียว!

คนขับรถเห็นว่าทั้งสองไม่ได้เจรจากันต่อแล้วจึงหันมาถาม จนวิภา”คุณจันวิภาจะเอายังไงดีครับ?”

“เอากระเป๋าของผู้หญิงคนนี้ไปด้วย

จันวิภาถอนหายใจยาวเหยียดพัชรีร้องออกมาอย่างเริงร่า

หลบจัยวิภาเข้าไปนั่งในรถก่อนเป็นคนแรก

“นี่แล้วจะยืนทำอะไรตรงนั้นหน่ะขึ้นรถเร็วมัวแต่อาบอดด ข้างนอกระวังดำเป็นถ่านนา
จันวิภากรอกตาใส่พัชรีก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆบนรถ แต่ก็ยังรักษาระยะห่างเล็กน้อยพัชรีไม่ได้ใส่ใจความหัวเสียง ของจันวิภามากนักเธอหันหน้าเสออกไปนอกหน้าต่างอย่าง อารมณ์ดี

หลังจากที่ออกรถพัชรีก็คุกันคนขับถึงที่พักที่จะไปถึง

ซึ่งที่ที่จันวิภาจองเอาไว้อยู่ข้างๆกับมหาวิทยาลัยเม บรรยากาศสิ่งแวดล้อมก็ดีแถมยังเดินทางได้อย่างสะดวก สบาย

ทั้งสองยืนอยู่ล่างอพาร์ทเมนต์พัชรีมองไปรอบๆอย่างปริม ใจ ดูดีอ่ะภาเรารีบขึ้นไปกันเถอะเอากระเป๋าไปเก็บแล้วไปเดิน ดูรอบๆกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ