ตอน438หนีออกจากสิ่งชั่วร้าย
ตอน438หนีออกจากสิ่งชั่วร้าย
ยังหน้ามาพูดคนอื่น ถ้าเกิดสุพจน์รู้เรื่องที่พวกเธอพูด เรื่อยแบบนี้ คนจะถูกถลอกหนังคงจะเป็นพวกเธอแหละ
คิดประโยคอย่างเงียบวิภายังไม่กล้าที่จะไว้วางใจ และเดินออกไปจาก
หน้าประตูบ้าน เฝ้าอยู่แน่ๆ เพราะฉะนั้นด้านหลังก่อน สถานการณ์ตรงนั้นอยู่ไหนกัน?
วิภารีบเธอเห็นขนปุยๆ กำลังเดินผ่านตัวเอง
เป็นหมาตัวเมื่อกี้
จันวิภานึกถึงคำที่สองคนนั้นพูด ตาสว่างขึ้น
เจ้าหมาน้อย ชีวิตครั้งนี้ของฉันขึ้นอยู่กับแกแล้วนะ ห้าม วิ่งไปไหน รีบกลับบ้านละ
พูดจบ วิภาตามหลังหมาน้อยตัวนี้ หวังว่าถ้ามันเล่นจน เหนื่อยแล้ว ตอนก็จะกลับไปห้องครัวหาอะไรกิน
ห้องครัวของบ้านหลังนี้ปกติต้องมีประตูเล็กๆไว้แน่สะดวกต่อการที่รถส่งของมาส่งของ
ถึงจันวิภาจะหาห้องครัวเจอ ซึ่งหมายความว่าเธอพบ
ประตูหลังของบ้าน
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สุพจน์สั่งคนมาเฝ้าไม่ได้มาก ซึ่งนี่ก็ ทำให้ฉันวิภาทางสะดวก ทำให้เธอเดินลงมาชั้นล่างอย่างไร้อุป สรรคใดๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงหันผัก
หาเจอจนได้!
จนวิภาดีใจ จากนั้นหลบอยู่หลังเสา เอียงหน้าค่อยสังเกต เหตุการณ์ตรงหน้า
แต่ว่าที่ซ่อนตัวของจันวิภาห่างจากข้างหน้ามาก มองไป
บางอย่างก็รู้สึกมัวๆเป็นเงาดำมองไม่ชัดเจนเลย
“นี่ คุณกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ?
ในขณะที่จันวิภากำลังเอียงหัวไปมองดู ก็มีเสียงโผล่ขึ้น มาจากด้านหลัง ทำให้เธอรู้สึกตกใจมาก
ค่อยๆหันหน้าไป จนวิภามองไปที่แม่บ้านร่างที่ดูบึกบึน ที่ กำลังทําให้เธอตื่นตกใจ
จันวิภาคว่ำหน้าลง ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามตรงข้ามยังไงดี แต่ไม่ว่าจันวิภาจะพูดยังไง ตรงข้ามคงไม่เชื่ออะไรแน่ ๆ ถ้าเป็นยังนั้นก็คงต้องตีสลบผู้หญิงคนนี้ จากนั้นค่อยขโมยชุดเธอมาสวมออกจากที่นี่
แต่ทว่าควรลงมือจากตรงไหนดีนะ?
แม่บ้านเห็นจันวิภาไม่พูดอะไร เหล่ตามอง
ในฐานะแม่บ้าน มีแค่หน้าที่ทำหุงข้าวทำกับข้าว แน่นอน
ที่จะไม่รู้จักจั่นวิภา
ตอนนี้ เธอมองผู้หญิงคนนี้จิตกระเจิง ใบหน้าเหมือนไม่ เคยพบเจอมาก่อน จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “เธอคือคนที่เข้ามา ทํางานใหม่เองใช่ไหม”
แม่บ้านชายตามองจันวิภา พูดขึ้นมาว่า “โฮะๆ เธอ ท่าทางก็สวยดีนะ งานบ้านงานหนักแบบนี้ เธอสามารถทำได้ เหรอ?”
ที่จริงคนตรงข้ามกำลังเข้าใจผิดในตัวตนของเธอ
จันวิภาโล่งอก ไม่รอช้าที่จะพยักหน้าตอบ : “คุณวางใจ ได้ ฉันไม่กลัวสกปรก ไม่กลัวเหนื่อย ทำได้ค่ะ
“อืม งั้นก็ล้างจานให้สะอาดละ
แม่บ้านพูดไปมีอก็ชี้ไปยังกองจานชามที่อยู่ตรงหน้า
“ล้างจานชาม?”
“ทำไม รู้สึกลำบากใจเหรอ?”
“ไม่ใช่ไม่ใช่ ฉันไม่ได้คิดแบบนี้เลย “
“ไม่ว่าในใจเธอจะคิดยังไงก็ตาม ถ้าจะมาช่วยงานถึงที่นี้ก็ เก็บความเช็ดไว้ แล้วตั้งใจทำงานไป
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ”
“ตั้งใจทำงานละ เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะมาดู ครึ่งชั่วโมง? หลังจากนี้ไป ฉันก็เผ่นไปจากนี้แล้ว
จนวิภาก้มหน้ากัดปาก ส่วนลึกในใจกระโดดดีใจมาก
หลังจากที่แม่บ้านออกไป จนวิภามุ่งไปที่ประตูหลังบ้าน คิดว่าจะรีบออกจากที่นี่ไป
แต่จันวิภาไม่คิดว่าสุพจน์จะให้คนมาเฝ้าที่ประตูหลังบ้าน ตอนนี้ทำยังไงดีละ?
ใบหน้าของวันวิภาเต็มไปด้วยความกังวล ใจก็
กระวนกระวาย
ยังไม่ทันเห็นจันวิภาแสดงสีหน้ากังวลไปมากกว่านี้ ก็มีคน ยื่นมือมาจากด้านหลังดึงหูจันวิภา
“ตะกี้ก็เพิ่งพูดไปหยกๆ แกก็ทำเป็นหูทวนลมไป! มา เกียจตรงนี้ ระวังจะโดนฉันผัดแก
จนวิภาเจ็บตัว อธิบายพูดไปอย่างน่าสงสารไป : “ไม่ใช่ นะ ฉันแค่อยากมองดูรอบๆ กลัวว่าวันหนึ่งมีคนหายไปคนหนึ่ง ทำคนที่ไม่ควรทำ
“งั้นแกก็คงคิดมากไปละ ฐานะอย่างพวกเราก็มีหน้าที่ ทำงานวุ่นงานอยู่ที่ครัวแหละ ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหน
แววตามองไปที่ข้างหลังที่ห่างจากประตูไม่มาก จันวิภา พูด “แต่ว่า ฉันเห็นว่าทางนั้นมีประตู ห่างจากครัวอย่างมาก ยังมีคนเฝ้า ที่นั่นเป็นที่ห้ามเหรอ?”
“แกคิดอะไรอยู่ นั้นมันประตูหลังบ้าน ถ้าถึงเวลาที่แกได้ พักละ แน่นอนว่าคงได้ออกทางนั้น
“แล้วปกติ ฉันจะเข้าออกไม่ได้หรอคะ?”
“มันก็ไม่ใช่ ห้องครัวเราทุกสามวันจะออกไปซื้อของหนึ่ง ครั้ง แกสามารถไปตลาดกับรถได้
เสียงที่พูดเบาลง แม่ได้ยินเสียงรถ หงายหน้าขึ้นพูด :
“บังเอิญจริงๆ พูดถึงไปซื้อของ รถก็มาพอดีเลย
หันหลังไปมองรถที่ไม่คุ้นตา จันวิภาเริ่มมีหวังขึ้นมาละ
จู่ๆก็แสดงรอยยิ้มให้แม่บ้าน จันวิภาพูด : “ให้ฉันไปนะ ฉันรู้จักร้านขายผัก สามารถซื้อในราคาที่ถูกได้ และผักก็สด ใหม่มาก “
แม่บ้านลังเลแป๊ปหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า : “งั้นให้เธอไปสัก ครั้ง ถ้าเกิดเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ดี ฉันก็จะคงต้องไล่ออก! “
“ค่ะๆๆ ฉันจะทำให้ดีค่ะ
จันวิภาดีใจ รีบเดินตรงไปที่รถ พยักหน้าให้คนขับรถ
มองว่าวันนี้มีคนใหม่ที่จะไปซื้อของ คนขับรถยิ้มทักทาย จนวิภา ถือว่าเป็นการทักทายแหละ
ใจจดใจจ่อขึ้นไปที่รถ รอจนรถออกไปจากบ้านไป จนวิภา ค่อยโล่งอก
“เธอดูตื่นเต้น?”
คนขับรถถึงแม้จะเป็นขึ้นประโยค แต่จันวิภารีบยิ้มพูด อย่างมีกำลังเต็มเปี่ยม : “ก็แน่นอน กว่าจะหางานดีได้ขนาด นี้ ฉันไม่อยากทำพลาด
คนขับรถยิ้มพูดไปว่า : “ไม่ต้องตื่นเต้น แค่ทำงานในส่วน ของเราให้ดีก็พอ เจ้านายของพวกเราก็ดีนะ ขอแค่ตั้งใจ ทำงาน ก็จะดีกับพวกเรามาก
“แบบนี้นี่เอง” จันวิภายิ้มพูด : “แต่ฉันได้ยินมาว่า เจ้าของ เราโหดร้ายมาก ครั้งนี้ในเมืองเอ เขามีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมี เรื่องด้วย มีปัญหาใหญ่กันด้วย
“ที่เธอมาฉันก็ได้ยินมาบ้าง มันก็โหดร้ายไปหน่อย
“แล้วผู้นำตรงข้ามยังมีชีวิตหรือตายไปแล้ว?
“เธอกำลังพูดถึงคุณสุมิตรเหรอ? เขายังมีชีวิตอยู่ สอง วันก่อนออกงานไวน์อยู่เลย ดูท่าทางสง่าด้วย
ประโยคนี้ทำให้ในวิภายิ้มออกมา ในใจเหมือนยกภูเขา ออกจากอก
ยังดี สุมิตรไม่ได้เป็นอะไร…….
มุมปากที่ยิ้มเคลิ้มไป จนวิภาสังเกตโทรฯคนขับรถดังขึ้น มา ตั้งสติขึ้นมาได้ ในตอนนี้ตัวเองยังมีอันตรายอยู่ ไม่ควรที่ จะวางใจอะไรได้
“ฮาโหล ฉันกำลังขับรถอยู่ มีเรื่องอะไร ? ออ แกกำลัง พูดถึงคนที่มาทำงานใหม่ นั่งอยู่ข้างๆฉัน เธอ….. คนขับรถยังพูดไม่จบ จันวิภาก็ยื่นมือไปแย่งพวงมาลัย
เพราะว่ามือเดียวเอาโทรฯไว้ พวงมาลัยถูกจันวิภาบังคับ ได้ง่าย รถควบคุมได้ยาก จากนั้นก็พุ่งไปยังข้างถนน
คนขับรถตกใจ โยนโทรฯทิ้ง สองมือรีบจับพวงมาลัยไว้
ในเวลานั้นก็รีบเหยียบเบรกรถทันที
ในเวลาที่คนขับรถกำลังตื่นตกใจอยู่ จันวิภาเปิดประตูรถ ออกวิ่งออกไปทันที
“นี้ คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย!”
คนขับรถตะโกนไปยังจันวิภา และเพิ่งสังเกตว่ากันวิภาวิ่ง อย่างเร็ว แค่แป๊ปเดียว เงาร่างก็ได้หายไปยังกลางทุ่งหญ้าแล้ว
ยังดีที่จันวิภาตอบสนองเร็ว ลงมือก่อนได้เปรียบ จาก ตอนที่คนขับรถกำลังอึ้งยังไม่ได้ตอบสนอง รีบวิ่งออกมา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ