พิชิตใจนายปีศาจ

ตอน414 โจรและตัวประกัน



ตอน414 โจรและตัวประกัน

ตอนที่ 414 โจรและตัวประกัน

ประเด็นสำคัญคือ สุมิตรไม่รู้จริงๆว่า ในเมืองนี้ จะมีใครที่ มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาเป็นศัตรูเขาได้

“นายคิดอะไรออกเหรอ?” สุมิตรมองธนภาคอย่างสงสัย

เขารู้สึกว่าธนภาคดูไม่ปกติ

ธนภาคหันไปมองจันวิภาเงียบๆ แล้วก็ส่ายหัว “ไม่ ไม่มี อะไร”

เขาเห็นว่าสุมิตรยังดูสงสัยอยู่ก็เลยรีบเปลี่ยนเรื่อง “นาย หมายความว่า เดี๋ยวพอถึงเวลาพวกโจรจะติดต่อนายมาเองเห รอ? เพราะสุดท้ายเป้าหมายตามแผนของพวกมันก็คือนาย

สุมิตรพยักหน้า พลางจุดบุหรี่ แล้วก็ตอบว่า “ถึงแม้ว่าจะ เป็นแบบนั้น แต่ยังไงเราก็ต้องตามหาให้ดีที่สุด คนเยอะที่สุด การรู้ข้อมูลของโจรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

สุมิตรสูบบุหรี่หมดมวนอย่างรวดเร็ว ในตอนที่ทุกคน

กำลังเงียบ เขาหันไปมองจันวิภาที่กำลังเศร้าโศก เขาก็กำมือ ด้วยความแค้น เขากำแน่นมากจนเส้นเลือกที่หลังมือปูดออก มา

ถึงแม้ว่าสุมิตรจะคาดเดาได้ใกล้เคียงกับความจริงมากแต่ว่าจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีสายจากโจรลักพาตัวเลย

ถ้าสถานการณ์มันเลวร้ายไปกว่านี้ สุมิตรคงจะไล่ฆ่าโจร

ลักพาตัวให้หมดทั้งโลกนี้เลย

ร่างกายของนิเวศน์ไม่ค่อยแข็งแรงมากแต่ไหนแต่ไร โดน ลักพาตัวไปนานขนาดนี้ ถึงจะไม่ได้โดนวางยา ร่างกายก็ อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด

หน้าไม่ใช่เพราะพื้นมันเย็นจนเข้ากระดูกขนาดนี้ นิเวศน์

อาจจะยังไม่ฟื้นก็ได้

หลังจากตื่นมาเพราะความหนาวเหน็บ นิเวศน์ก็พบว่าตัว เองถูกแก้มัดแล้ว ผ้าที่ยัดปากและปิดตาเขาก็เอาออกแล้ว แต่ ว่าเขาก็ยังมองไม่เห็นอะไรอยู่ดี

ผ่านไปสักพักดวงตาเขาก็ปรับการมองเห็นในที่มืดได้ นิเวศน์ก็พบว่าตัวเองถูกขังไว้ในห้องที่ว่างเปล่า

ในห้องไม่มีหน้าต่าง มีเพียงประตูบานเดียวเท่านั้น นิเวศน์สำรวจดูตรงประตู แล้วก็มองไปทั้งสี่ทิศ แล้วเขาก็ได้บท สรุปที่น่าผิดหวัง

ยังไงเขาก็ไม่มีวันออกไปจากห้องนี้ได้แน่นอน นอกจากได้

รับ “ความช่วยเหลือ” จากพวกโจร

นิเวศน์พยายามเก็บความกังวลและเศร้าโศกเอาไว้ แล้วก็ ก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง
พอก้มมองดูก็พบว่านาฬิกาข้อมือเขาแบตเตอรี่หมดแล้ว ตอนนี้ความหวังเดียวของเขาก็คืออุปกรณ์ส่งสัญญาณระบุพิกัด ที่เชื่อมกับโทรศัพท์สีดำที่เขาได้ทิ้งไว้

นิเวศน์รู้จักศักยภาพของสุมิตรดี ดังนั้นเขาจึงมีความหวัง มาก ว่าจะได้รับการช่วยเหลืออย่างแน่นอน

นิเวศน์นึกถึงคำพูดบนรถของพวกโจรเมื่อคืน ทันใดนั้น เขาก็รีบถอดนาฬิกาออก แล้วก็ถอดซิปด้านในออกมา แล้วก็ เก็บนาฬิกาไว้ในกระเป๋ากางเกง

หลังจากนั้นนิเวศน์ก็เดินไปที่มุมกำแพง แล้วก็ซ่อนชิปไว้ที่ มุมมืด แบบนี้ถึงแม้จะเปิดไฟก็ไม่น่าจะเจอได้ง่ายๆ

หลังจากนั้นเขาก็เจอปัญหาที่น่าเกรงกลัวมากกว่าเดิม

เขาหิวแล้ว

ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ว่าเขารู้สึกได้ว่ามันห่างจากตอนที่เขากินอาหารเช้าที่ธน ภาคทำให้อยู่นานเลยทีเดียว ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เมื่อเช้าเขา คงฟาดเรียบแน่ๆ

ไม่มีทางเลือกอื่น นิเวศน์เดินไปทั้งเตะทั้งถีบประตู

ท้ายที่สุดหน้าต่างช่องเล็กๆของประตูเหล็กก็ถูกเปิดออก โจรลักพาตัวคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความรำคาญว่า “เป็น อะไร? เงียบๆ ให้เหมือนตัวประกันหน่อยได้ไหม? เปอร์เซ็นต์ การรอดชีวิตจะได้สูงหน่อยไม่รู้รึไง?”
นิเวศน์ไม่เข้าใจจริงๆว่านายคนนี้ไปเอาข้อมูลประหลาดๆ แบบนี้มาจากไหน แต่ก็ทำเสียงอ้อนวอนพลางพูดว่า “คุณลุง โจรครับ ผมหิวแล้วนะ!

โจรคนนั้นเห็นท่าทีน่าสงสารของนิเวศน์ ก็ถามออกมา ด้วยความรำคาญว่า “พอแล้ว อยากกินอะไร?”

นิเวศน์ตาเป็นประกาย พลางคิดว่าตัวเองจะได้กินอะไร ด้วยเหรอเนี่ย?

“หือ? อะไรก็ได้เหรอครับ?” ดวงตาของนิเวศน์เป็น ประกายขึ้นมาทันที ถามออกไปอย่างมีความหวัง ในใจคิดว่า ขนาดโดนลักพาตัวยังดูแลดีระดับห้าดาวอีกเหรอเนี่ย?

โจรคนนั้นเห็นท่าทางของนิเวศน์ก็ตอบมาว่า “อืม วันหนึ่ง จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะ ไม่ต้องคิดเยอะ ยังไงพวก เราก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินอยู่แล้ว

ถึงแม้ว่านิเวศน์จะรู้สึกเสียใจแต่เขาก็ประหลาดใจนิด หน่อย เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แล้วใครเป็นคนจ่ายเงินล่ะ ครับ?”

นิเวศน์อยากจะสืบหาผู้บงการจากการตะล่อมถามโจร พวกนี้ บางทีเวลาคนรีบตอบก็จะไม่ค่อยได้คิดอะไรเท่าไหร่

โจรคนนั้นก็เกือบจะหลุดปากออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทัน แล้วก็มองนิเวศน์อย่างโหดเหี้ยม แล้วก็พูดว่า “พ่อเธอไง คน จ่ายเงิน”
นิเวศน์รู้สึกผิดหวังที่สุด แล้วก็ถามต่อว่า “พวกลุงวางแผน จะเรียกค่าไถ่จากพ่อผมเท่าไหร่ล่ะ?”

สีหน้าของคนๆนั้นกลายเป็นเย็นชา แล้วก็พูดน้ำเสียง เยือกเย็นว่า “เธอพูดให้มันน้อยๆน่าจะดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะ โดนดี”

บางทีโจรคนนี้อาจจะคิดว่านิเวศน์พูดมากไปแล้ว แล้วก็ ถามด้วยน้ำเสียงรำคาญมาก “อยากกินอะไรก็รีบบอก จากนี้ ไปจะไม่มีโอกาสแล้วนะ”

นิเวศน์คิดไม่ออกว่าจะสามารถวางเบาะแสอะไรได้จาก อาหาร ก็เลยสั่งขนมขบเคี้ยวมานิดหน่อย แต่ว่าเขาก็ยังคง เคลือบแคลงใจอยู่ คนบงการเรื่องทั้งหมดนี้ก็ยังดูแลตัวประกัน “อย่างดี” ปกติแล้วการถูกลักพาตัว มันเหมือนกับติดคุกเลย ไม่ใช่เหรอ

บางทีอาจจะเพราะว่าเขาอยากเรียกเงินจำนวนมากก็ได้ นิเวศน์ด่วนสรุปแบบนั้น ไม่คิดอะไรมากแล้ว

ผ่านไปไม่นาน โจรลักพาตัวก็นำอาหารที่นิเวศน์สั่งมาให้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกับดัก แต่ว่าท้องน้อยๆก็ต้องได้รับการดูแล เหมือนกัน นิเวศน์เขมือบอาหารลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ลงไป นอนที่พื้นเย็นๆอีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกอันตรายอะไร แต่ ว่าเขาก็เบื่อมาก

ถ้าเกิดว่านาฬิกาเขาแบตไม่หมดล่ะก็เขาคงจะพอทำอะไร ได้บ้าง คนที่เชี่ยวชาญเรื่องอินเทอร์เน็ตแบบเขา ขอแค่มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เขาก็จะสามารถหาวิธีออกไป จากที่นี่ได้เป็นร้อยวิธีเลยล่ะ

แต่ว่า ไม่เพียงแต่นาฬิกาแบตหมด แต่โทรศัพท์มือถือก็ ถูกเขาเองทิ้งเอาไว้เพื่อเป็นเบาะแส แล้วอีกอย่าง เมื่อนิเวศน์ มองไปรอบๆห้องนี้ ก็พบว่ามันไม่มีไฟเลยแม้แต่ดวงเดียว มี เพียงแต่แสงบางๆที่ลอดผ่านหน้าต่างมา

นิเวศน์ที่กำลังเบื่อถึงขีดสุดอยากจะมองลอดออกไปดู สถานการณ์ข้างนอก แต่ว่าหน้าต่างนั้นมันสูงเกินกว่าที่เขาจะ เอื้อมถึง แล้วในห้องก็ไม่มีอะไรที่พอจะใช้ปืนได้เลยด้วยจู่ๆ นิเวศน์ก็คิดอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง เขาคิดว่าห้องนี้คือคุกที่สร้าง มาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ยังไงเขาก็ไม่มีโอกาสได้ออกไปแน่

นิเวศน์นึกย้อนไปถึงตอนที่เขาโดนสุพจน์กักบริเวณเมื่อ ครั้งก่อน ที่เขาหนีออกมาตอนที่การ์ดไม่ได้สนใจ ถ้ามันจะเป็น ไปได้ เขาก็อยากจะใช้แผนเดิมเหมือนกับตอนนั้นถึงแม้ว่ามัน จะไม่มีโอกาสมากเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่านั่งรอความตายอยู่ แบบนี้ล่ะนะ หลังจากนิเวศน์คิดได้แบบนั้น เขาก็รีบวิ่งไปที่ ประตูแล้วก็ตะโกนเรียก พร้อมกับเตะประตูเหล็กอย่างบ้าคลั่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ